สารไวท์เทนนิ่งในสูตรสบู่เหลวและชาวเวอร์ออยล์

เมื่อต้องการเติมสารไวท์เทนนิ่งลงในผลิตภัณฑ์แบบล้างออก เช่น สบู่เหลวและชาวเวอร์ออยล์ มีปัจจัยหลายประการที่ต้องพิจารณา โดยหลักๆ คือ การละลาย ความเสถียรของค่า pH และความคงทนต่อความร้อนในระหว่างกระบวนการผลิต

ข้อควรพิจารณาสำหรับสบู่เหลว (สูตรน้ำ)

สำหรับสารไวท์เทนนิ่งที่ละลายน้ำในสูตรสบู่เหลวทั่วไป สามารถพิจารณาดังนี้:

• GalaWhite™ (Fermented Gallic Acid): เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีและมีประสิทธิภาพสูง ควรผสมในขั้นตอนสุดท้ายและหลีกเลี่ยงความร้อน ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับสูตรคือ 5-6 หากเบสสบู่เหลวของคุณมีค่า pH สูงกว่านี้ อาจจำเป็นต้องปรับค่า pH เพื่อให้แน่ใจถึงความเสถียรและประสิทธิภาพของ GalaWhite™
• Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide): เป็นสารที่ละลายน้ำได้และสามารถผสมในเฟสน้ำได้ มีความคงทนต่อความร้อนได้ดี แต่ควรหลีกเลี่ยงการให้ความร้อนเป็นเวลานาน ค่า pH ที่เหมาะสมคือ 3-8 (ดีที่สุดที่ 4.0-7.0) ทำให้สามารถใช้ได้หลากหลายในสูตรสบู่เหลว
• Yeast Radiance™: เป็นสารที่ละลายน้ำได้เช่นกัน ควรผสมในเฟสน้ำและหลีกเลี่ยงความร้อน ค่า pH ของสูตรควรอยู่ในช่วง 4.0-6.5 ทำหน้าที่เป็นสารที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

ข้อควรพิจารณาสำหรับชาวเวอร์ออยล์ (สูตรน้ำมัน)

สำหรับชาวเวอร์ออยล์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเบสเป็นน้ำมัน สารที่ละลายน้ำได้ เช่น GalaWhite™, Safe-B3™ และ Yeast Radiance™ จะไม่สามารถเข้ากันได้โดยตรงหากไม่มีระบบอิมัลซิไฟเออร์เพื่อช่วยกระจายตัวในเฟสน้ำมัน

ตัวเลือกที่ดีสำหรับชาวเวอร์ออยล์คือสารไวท์เทนนิ่งที่ละลายในน้ำมัน:

• Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol): สารนี้ละลายในน้ำมันและสามารถละลายในน้ำมันได้หลายชนิด มีประสิทธิภาพสูงในการลดเม็ดสี สำหรับผลิตภัณฑ์แบบล้างออก เช่น สบู่ สามารถใช้ได้ในอัตราส่วนไม่เกิน 2% สิ่งสำคัญคือ Activated Resorcinol™ ไวต่อแสง ดังนั้นผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปควรได้รับการปกป้องจากแสง (เช่น บรรจุในขวดทึบแสง) หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนในระหว่างการผสม เนื่องจากอาจทำให้สารเสื่อมสภาพได้

ข้อควรพิจารณาทั่วไปสำหรับผลิตภัณฑ์แบบล้างออก

ไม่ว่าจะเป็นสบู่เหลวหรือชาวเวอร์ออยล์ เมื่อใช้สารไวท์เทนนิ่งในผลิตภัณฑ์แบบล้างออก (ไม่ได้ทาทิ้งไว้บนผิว) คุณควรพิจารณา:

1. การละลาย: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าสารไวท์เทนนิ่งละลายได้ในเฟสต่อเนื่องของผลิตภัณฑ์ของคุณ (น้ำสำหรับสบู่เหลว, น้ำมันสำหรับชาวเวอร์ออยล์)
2. ความเสถียรของค่า pH: ค่า pH ของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปมีความสำคัญอย่างยิ่ง สารออกฤทธิ์แต่ละชนิดมีช่วง pH ที่เหมาะสมสำหรับความเสถียรและประสิทธิภาพ
3. ความคงทนต่อความร้อน: สารบางชนิดไวต่อความร้อน ซึ่งเป็นปัจจัยทั่วไปในกระบวนการผลิตสบู่และน้ำมัน
4. ระยะเวลาสัมผัส: เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์แบบล้างออก ระยะเวลาที่สารสัมผัสกับผิวจึงมีจำกัด ซึ่งหมายความว่าประสิทธิภาพอาจต่ำกว่าผลิตภัณฑ์แบบทาทิ้งไว้ หรืออาจต้องใช้ความเข้มข้นที่สูงขึ้น (ภายในขีดจำกัดที่ปลอดภัย) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สังเกตเห็นได้
5. ศักยภาพในการระคายเคือง: ควรปฏิบัติตามอัตราการใช้ที่แนะนำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสารออกฤทธิ์ที่มีฤทธิ์แรง เช่น Activated Resorcinol™ เพื่อป้องกันการระคายเคืองต่อผิว แม้ในการใช้งานแบบล้างออก

คุณสามารถดูลิงก์ของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่กล่าวถึงได้ด้านล่างคำตอบนี้