คำแนะนำการคิดค้นสูตรเครื่องสำอาง

ข้อมูลต่อไปนี้เป็นคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับสารต้านอนุมูลอิสระ สารลดการระคายเคือง และตัวทำละลายสำหรับ L-ascorbic acid

สุดยอดสารต้านอนุมูลอิสระ

การระบุสารต้านอนุมูลอิสระที่ "ดีที่สุด" อาจขึ้นอยู่กับสูตรและผลลัพธ์ที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม จากคุณสมบัติและการใช้งานทั่วไปในเครื่องสำอาง นี่คือสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงซึ่งทราบกันดีว่ามีโอกาสก่อให้เกิดการระคายเคืองต่ำ:

• SOD (Superoxide dismutase): เอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากความเสียหาย
• Glutathione: สารต้านอนุมูลอิสระที่มีความบริสุทธิ์สูง ซึ่งสามารถช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้
• Astaxanthin: สารต้านอนุมูลอิสระที่มีศักยภาพสูงที่สกัดจากสาหร่ายทะเล ทราบกันดีว่าช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายจากรังสียูวี และเพิ่มความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นของผิว
• Dimethylmethoxy Chromanol: สารต้านอนุมูลอิสระที่ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าวิตามินอี ช่วยป้องกันการเกิดออกซิเดชันและลดเลือนริ้วรอย
• Hydroxyacetophenone: ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและยังให้ผลในการปลอบประโลมผิวและลดการระคายเคือง

สุดยอดสารลดการระคายเคือง

เช่นเดียวกับสารต้านอนุมูลอิสระ สารลดการระคายเคืองที่ดีที่สุดขึ้นอยู่กับประเภทและสาเหตุของการระคายเคือง อย่างไรก็ตาม มีสารหลายชนิดที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในด้านคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิวและโดยทั่วไปแล้วสามารถทนต่อได้ดี:

• Glycyrrhetinic acid (Enoxolone): สกัดจากชะเอมเทศ มีฤทธิ์ต้านการระคายเคืองและต้านการอักเสบที่แข็งแกร่ง
• Dipotassium Glycyrrhizate (DPG): สารอนุพันธ์ของชะเอมเทศอีกชนิดหนึ่งที่ทราบกันดีว่าช่วยลดการอักเสบ ภูมิแพ้ และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวเพื่อลดการระคายเคือง
• Stearyl Glycyrrhetinate: เอสเทอร์ของ glycyrrhetinic acid ที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและปลอบประโลมผิว รวมถึงช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
• Portulaca Extract: มีสารประกอบเช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 และฟลาโวนอยด์ ที่ช่วยลดการระคายเคืองผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ActiveRelease Oat™ (Hydroxyphenyl Propamidobenzoic Acid): ส่วนผสมที่ถูกห่อหุ้มซึ่งได้มาจากข้าวโอ๊ต แสดงให้เห็นว่าช่วยลดอาการคันและรอยแดง

ตัวทำละลายสำหรับ L-Ascorbic Acid

คุณถามว่าตัวทำละลายใดต่อไปนี้สามารถละลาย L-ascorbic acid ได้ โดยอาจใช้ความร้อนช่วย: Methylpropanediol, Isopentyldiol, 1,2-Hexanediol, Dimethyl Isosorbide (DMI) และ Glycerin 99.5%

L-ascorbic acid นั้นละลายได้ในน้ำ การละลายในตัวทำละลายอื่น ๆ อาจแตกต่างกันไป จากข้อมูลที่มีอยู่:

• Dimethyl Isosorbide (DMI): เป็นตัวทำละลายและสารเสริมการซึมผ่านที่ทราบกันดีว่ามักใช้ร่วมกับ L-ascorbic acid เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความคงตัว สามารถละลาย L-ascorbic acid ได้
• Methylpropanediol, Isopentyldiol, 1,2-Hexanediol, และ Glycerin: สารเหล่านี้เป็นไกลคอลที่ละลายน้ำได้ซึ่งนิยมใช้เป็นตัวทำละลายและสารให้ความชุ่มชื้นในสูตรเครื่องสำอาง แม้ว่าคำอธิบายของสารเหล่านี้จะไม่ได้ระบุความสามารถในการละลาย L-ascorbic acid อย่างชัดเจน แต่เนื่องจาก L-ascorbic acid ละลายน้ำได้และสารเหล่านี้เข้ากันได้ดีกับน้ำ จึงมีแนวโน้มสูงที่สารเหล่านี้จะสามารถละลาย L-ascorbic acid ได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้ความร้อนอ่อนๆ ช่วย (เช่นเดียวกับที่แนะนำสำหรับการละลายผง L-ascorbic acid บางชนิด)

เมื่อคิดค้นสูตรที่มี L-ascorbic acid สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาถึงความคงตัว เนื่องจากมันจะถูกออกซิไดซ์ได้ง่ายในน้ำ การใช้ตัวทำละลายร่วมที่เหมาะสมและการกำหนดสูตรที่ pH ที่เหมาะสม (โดยทั่วไปคือ 2.0-4.0 แต่ อย. กำหนดให้ผลิตภัณฑ์แบบทาทิ้งมี pH อย่างน้อย 3.5) เป็นสิ่งสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพ