คำแนะนำการตั้งตำรับสำหรับผิวแพ้ง่าย รอบดวงตา และการกันเสีย

นี่คือข้อมูลสรุปเกี่ยวกับคำถามของคุณเกี่ยวกับการตั้งตำรับเครื่องสำอาง โดยอ้างอิงจากการสนทนาในกระทู้:

ความเหมาะสมสำหรับผิวมัน

การใช้ Mild Preserve 0.8% + Propylene Glycol 5% + Phenoxyethanol 0.2% สำหรับผิวมัน: หากสูตรของคุณมีสารประสานเนื้อ (emulsifier) อยู่แล้ว เช่น Pro Polymer หรือ Cream Maker ชนิดอื่นๆ การใส่ Propylene Glycol อาจไม่จำเป็น Propylene Glycol ทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้นและตัวทำละลาย การใส่หรือไม่ขึ้นอยู่กับสูตรโดยรวมและเนื้อสัมผัสที่ต้องการ หากสูตรมีสารให้ความชุ่มชื้นเพียงพอ หรือออกแบบมาให้เนื้อบางเบาสำหรับผิวมัน การใส่ Propylene Glycol 5% อาจทำให้รู้สึกหนักผิวได้ โดยเฉพาะเมื่อรวมกับคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นของ Mild Preserve ควรพิจารณาว่าระบบสารประสานเนื้อให้การละลายและเนื้อสัมผัสที่เพียงพอแล้วหรือไม่ โดยไม่ต้องเพิ่ม Propylene Glycol

การกันเสียสำหรับผลิตภัณฑ์รอบดวงตา

สำหรับผลิตภัณฑ์รอบดวงตา การกันเสียที่เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากบริเวณนี้มีความบอบบางและอาจเกิดการปนเปื้อนจากเชื้อจุลินทรีย์ได้ง่าย การใช้ Phenoxyethanol 0.1% + Propylene Glycol 5% + Mild Preserve 0.4% อาจไม่เพียงพอสำหรับการป้องกันเชื้อในวงกว้าง โดยเฉพาะเชื้อราและยีสต์ จากข้อมูลประสิทธิภาพที่กล่าวถึงในกระทู้ คำแนะนำการใช้สารกันเสียไม่เกิน 0.5% มักใช้กับสารที่ทราบว่าอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ซึ่ง Mild Preserve และ Eye Preserve โดยทั่วไปถือว่าระคายเคืองน้อยกว่า

• Mild Preserve: ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการแสดงให้เห็นว่า Mild Preserve ที่ความเข้มข้น 1.0% มีประสิทธิภาพในการควบคุมแบคทีเรีย ยีสต์ และรา ในตำรับอิมัลชั่นชนิด Oil-in-Water ความเข้มข้นนี้ถือว่าเพียงพอสำหรับการกันเสียในวงกว้าง รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้าและรอบดวงตา
• Eye Preserve: สารกันเสียนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อความปลอดภัยต่อดวงตา แม้กระทั่งใช้ในน้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศไทยและยุโรป สามารถใช้ Eye Preserve ได้สูงสุด 1.5% ที่ความเข้มข้น 1.5% นี้ เพียงพอสำหรับการควบคุมเชื้อในวงกว้างได้ด้วยตัวเอง หากใช้ Eye Preserve ที่ความเข้มข้นต่ำกว่านี้ (เช่น 0.5% สำหรับผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในญี่ปุ่น) จำเป็นต้องใช้ร่วมกับสารกันเสียชนิดอื่นเพื่อให้มั่นใจในประสิทธิภาพที่ครบถ้วน โดยเฉพาะการควบคุมเชื้อราและยีสต์

เมื่อเปรียบเทียบ Mild Preserve และ Eye Preserve ทั้งสองชนิดโดยทั่วไปไม่ถือว่าก่อให้เกิดการระคายเคืองเหมือนสารกันเสียบางชนิด Mild Preserve มีคุณสมบัติเป็นสารให้ความชุ่มชื้น ในขณะที่ Eye Preserve มีข้อมูลด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุมโดยเฉพาะสำหรับการใช้กับดวงตา

การละลาย Mild Preserve ใน Pro Polymer Gel

Mild Preserve สามารถละลายได้ในไกลคอล เมื่อต้องการนำ Mild Preserve ไปผสมในตำรับที่เป็นเบสน้ำ รวมถึงตำรับที่ใช้ Pro Polymer เป็นสารก่อเจลหรือสารประสานเนื้อ แนะนำให้ละลาย Mild Preserve ในไกลคอลที่เหมาะสมก่อน (เช่น Propylene Glycol หรือ Ethoxydiglycol) ในอัตราส่วนไกลคอลอย่างน้อย 10 ส่วน ต่อ Mild Preserve 1 ส่วน ขั้นตอนการกระจายตัวในไกลคอลนี้ช่วยให้แน่ใจว่า Mild Preserve จะเข้ากันได้ดีในเฟสน้ำ โดยทั่วไปจะไม่สามารถละลาย Mild Preserve ลงในเจลที่ทำเสร็จแล้วได้โดยตรงหากไม่ผ่านขั้นตอนนี้

การทำความสะอาดอุปกรณ์

วิธีการล้างและเช็ดอุปกรณ์ผสม (ช้อน บีกเกอร์) ด้วยแอลกอฮอล์ แล้วนำไปผึ่งให้แห้ง ถือว่าเพียงพอต่อการฆ่าเชื้อโรคและทำให้อุปกรณ์สะอาดสำหรับการตั้งตำรับของคุณ

การแข็งตัวของ Mild Preserve ในตู้เย็น

วัตถุดิบ Mild Preserve ที่มีความเข้มข้นสูงอาจแข็งตัวได้หากเก็บในที่เย็นต่ำกว่า 15°C อย่างไรก็ตาม เมื่อนำไปเจือจางในตำรับที่ทำเสร็จแล้วที่ความเข้มข้นที่ใช้ทั่วไป (ไม่เกิน 2.0%) จะไม่เกิดการแข็งตัวเมื่อเก็บไว้ในตู้เย็น

ความเข้มข้นของ Pro Polymer สำหรับ Mild Preserve

สำหรับคำถามว่า Pro Polymer 0.2% เพียงพอต่อการนำ Mild Preserve 0.5% เข้าไปในสูตรหรือไม่ แม้จะไม่มีผลการทดสอบที่ชัดเจนสำหรับส่วนผสมนี้โดยเฉพาะ แต่วิธีการทั่วไปคือการละลาย Mild Preserve ในไกลคอลก่อนนำไปผสมในเฟสน้ำที่มี Pro Polymer วิธีนี้ช่วยให้แน่ใจว่า Mild Preserve จะเข้ากันได้ดี ไม่ว่าความเข้มข้นของ Pro Polymer ที่ใช้ในการก่อเจลหรือประสานเนื้อจะเป็นเท่าใด

การลดความเข้มข้นสารกันเสียเมื่อเก็บในตู้เย็น

แม้ว่าการเก็บในตู้เย็นจะช่วยยืดอายุผลิตภัณฑ์โดยการชะลอการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ แต่โดยทั่วไปไม่แนะนำให้ลดความเข้มข้นของสารกันเสียที่คุณเลือกใช้ลงต่ำกว่าค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่มีประสิทธิภาพในการยับยั้งเชื้อ (MIC) หรือระดับการใช้ที่แนะนำ ความเข้มข้นมาตรฐานที่แนะนำสำหรับ Mild Preserve (1%) และ Eye Preserve (สูงสุด 1.5%) ถูกออกแบบมาเพื่อให้การกันเสียที่เพียงพอภายใต้สภาวะการเก็บรักษาและการใช้งานทั่วไป การพึ่งพาการแช่เย็นเพียงอย่างเดียวอาจไม่สามารถรับประกันความคงตัวทางจุลชีววิทยาได้ โดยเฉพาะหากผลิตภัณฑ์ไม่ได้ถูกเก็บในตู้เย็นตลอดเวลาหลังเปิดใช้

การใช้สารกันเสียร่วมกันสำหรับรอบดวงตา

หากใช้ Eye Preserve ที่ความเข้มข้นน้อยกว่า 1.5% (เช่น 0.5%) จำเป็นต้องใช้ร่วมกับสารกันเสียชนิดอื่นเพื่อให้ครอบคลุมการป้องกันเชื้อในวงกว้าง Mild Preserve ที่ 1% แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการควบคุมเชื้อในวงกว้าง รวมถึงสำหรับบริเวณรอบดวงตา ดังนั้น การใช้ Mild Preserve ที่ 1% เพียงอย่างเดียวก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการกันเสียผลิตภัณฑ์รอบดวงตา หากคุณเลือกที่จะใช้ร่วมกัน ความเข้มข้นที่เหมาะสมจะต้องผ่านการทดสอบประสิทธิภาพ แต่การใช้ Eye Preserve ที่ 1.5% เพียงอย่างเดียว หรือ Mild Preserve ที่ 1% เพียงอย่างเดียว เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพที่ได้รับการยืนยันจากข้อมูลที่ให้มา