การวิเคราะห์สูตรเซรั่ม Anti-aging ที่ปรับปรุงใหม่ของคุณ

ขอบคุณที่ให้สูตรที่ปรับปรุงใหม่มาครับ จากส่วนผสมและเป้าหมายของคุณ นี่คือการวิเคราะห์:

ความเป็นไปได้ ความเข้ากันได้ และความเสถียร

• ความเป็นไปได้: สูตรนี้มีความเป็นไปได้ทางเทคนิค แต่จะค่อนข้างท้าทายในการผลิต โดยเฉพาะสำหรับผู้เริ่มต้น กระบวนการผสมต้องใช้เทคนิคและอุปกรณ์เฉพาะ (เช่น เครื่องปั่น) เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมละลายและเข้ากันได้ดี
• ความเข้ากันได้: ส่วนผสมส่วนใหญ่เข้ากันได้ดี อย่างไรก็ตาม การปรับค่า pH อย่างระมัดระวังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความเสถียรและประสิทธิภาพของส่วนผสม เช่น Retinal และ Sebum-Reg สูตรนี้มีทั้งส่วนประกอบที่เป็นกรด (Pro-Cysteine, Lactic Acid) และด่าง (Sodium Hydroxide) ซึ่งต้องปรับสมดุลอย่างแม่นยำ Phospholipid ต้องกระจายตัวในอุณหภูมิห้อง
• ความเสถียร: Retinal ไวต่อแสงและความร้อน แม้ว่ากลุ่ม Protec จะช่วยป้องกัน แต่ขั้นตอนการผสมเพื่อละลาย Retinal และ Protec OX (ซึ่งเป็นผง) เป็นสิ่งสำคัญ Nano Silver Pure ซึ่งเป็นเนื้อครีมข้น มีโอกาสตกตะกอนเมื่อเวลาผ่านไปในเนื้อเซรั่มเหลว แม้จะมีสารเพิ่มความข้น

ผลลัพธ์ที่คาดหวัง

จากส่วนผสมแอคทีฟที่ใส่มา สูตรนี้คาดว่าจะให้ผลลัพธ์ดังนี้:

• ประโยชน์ด้าน Anti-aging: Retinal เป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและปรับปรุงผิว Methylsilanol Mannuronate มีเป้าหมายช่วยยกกระชับผิว Repair Activator ช่วยสนับสนุนกระบวนการซ่อมแซมผิว Pro-Cysteine อาจให้ประโยชน์ด้านสารต้านอนุมูลอิสระหรือเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว
• ควบคุมความมันและลดสิว: Sebum-Reg ถูกใส่มาเพื่อช่วยลดความมันส่วนเกินและยับยั้งแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว Retinal ก็สามารถช่วยปรับปรุงปัญหาสิวและผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้นได้
• ความชุ่มชื้น: Hyaluronic Acid Elastomer และ 1,2-Hexanediol (สารให้ความชุ่มชื้น) จะช่วยดึงดูดและกักเก็บความชุ่มชื้นในผิว
• ความรู้สึกบนผิว: Silky Serum Base Plus, 1,2-Hexanediol และ Phospholipid ควรช่วยให้เนื้อเซรั่มบางเบา นุ่ม และซึมซาบเร็ว เหมาะสำหรับผิวที่ค่อนข้างมัน

ข้อปรับปรุงและข้อควรพิจารณาเพิ่มเติม

1. การละลาย Retinal และ Protec OX: ตามข้อเสนอแนะก่อนหน้านี้ Retinal และ Protec OX เป็นผงและต้องการตัวทำละลายที่เหมาะสมเพื่อกระจายตัวในเฟสน้ำมัน แนะนำให้เพิ่ม PPG-3 Myristyl Ether ประมาณ 3% ในเฟสน้ำมัน (Silky Serum Base Plus, Protec UV, Protec SQ) ผสมส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันเหล่านี้เข้าด้วยกันและให้ความร้อนเล็กน้อย (60-70°C) เพื่อช่วยละลาย Protec OX เมื่อละลายแล้ว ปล่อยให้ส่วนผสมเย็นลงเล็กน้อยก่อนเติม Retinal และปั่นอย่างรวดเร็วเพื่อลดการสัมผัสความร้อนกับ Retinal
2. กระบวนการผสม: หลังจากเตรียมเฟสน้ำมันแล้ว ให้เตรียมเฟสน้ำโดยละลายส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ทั้งหมด (Methylsilanol Mannuronate, Repair Activator, Pro-Cysteine, Hyaluronic Acid Elastomer, Sebum-Reg, Nano Silver Pure, 1,2-Hexanediol, Phospholipid, น้ำ, และสารปรับ pH) โปรดทราบว่า Phospholipid ควรกระจายตัวในอุณหภูมิห้อง ค่อยๆ เติมเฟสน้ำลงในเฟสน้ำมันพร้อมกับปั่นอย่างต่อเนื่องด้วยเครื่องปั่นความเร็วสูงเพื่อสร้างเนื้อเซรั่ม
3. การปรับค่า pH: ค่า pH ของสูตรสุดท้ายมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความเสถียรและประสิทธิภาพของ Retinal (pH ที่เหมาะสม 3.5-6.5) และ Sebum-Reg (pH ที่เหมาะสม 4-6) หลังจากได้เนื้อเซรั่มแล้ว ให้วัดค่า pH และปรับให้อยู่ในช่วงเป้าหมาย 4-6 โดยใช้ Sodium Hydroxide หรือ Lactic Acid (AHA) 88% ตามความจำเป็น ซึ่งต้องค่อยๆ เติมทีละน้อยและทดสอบค่า pH อย่างระมัดระวัง
4. การตกตะกอนของ Nano Silver: แม้ว่าสูตรจะมีสารเพิ่มความข้น แต่ Nano Silver Pure เป็นเนื้อครีมข้นและอาจยังคงตกตะกอนเมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะในเนื้อเซรั่มที่มีความหนืดค่อนข้างต่ำ การกระจายตัวอย่างทั่วถึงระหว่างการผสมเป็นสิ่งสำคัญ หากการตกตะกอนยังคงเป็นปัญหาหลัก คุณอาจพิจารณาเพิ่มความเข้มข้นของสารเพิ่มความข้นในเฟสน้ำเล็กน้อย (เช่น Hyaluronic Acid Elastomer) หรือลดความเข้มข้นของ Nano Silver ลง แต่โปรดทราบว่า Nano Silver Pure เป็นเนื้อครีมข้นและอาจเป็นเรื่องยากโดยธรรมชาติที่จะรักษาสภาพการกระจายตัวในระยะยาวในเซรั่มที่มีความหนืดต่ำ
5. สีของ Protec SQ: การใช้ Protec SQ ที่ 3% มีโอกาสทำให้เกิดสีเหลืองน้อยกว่าการใช้ที่ 5% แต่ก็อาจยังคงทำให้ผลิตภัณฑ์สุดท้ายมีสีเหลืองอ่อนๆ ได้

สูตรที่ปรับปรุงใหม่นี้ได้แก้ไขบางประเด็นก่อนหน้านี้และรวมส่วนผสมแอคทีฟที่เป็นประโยชน์สำหรับเป้าหมายของคุณ อย่างไรก็ตาม กระบวนการผสมและการรักษาความเสถียรในระยะยาวของการกระจายตัวของ Nano Silver และประสิทธิภาพของ Retinal เนื่องจากค่า pH และความร้อนที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการผสม เป็นความท้าทายหลัก