การตกผลึกในวิตามinซีเซรั่มสูตรปรับปรุง

ถามโดย: thejumpboy3 เมื่อ: September 24, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

หลังจากที่ผมโพสกระทู้ถามเกี่ยวกับเรื่อง สูตรวิตามินซีเซรัม เหนอะหนะ (อ้างอิง post7729.html#p7729) ผมเลยลองปรับเปลี่ยนสูตรเพื่อลดความมัน/ความเหนอะหนะ โดยการตัดลดส่วนผสมบางตัวออก (ไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับการตกผลึกหรือไม่)

พอผสมสูตรที่ปรับปรุงแล้วนำไปตั้งแช่ตู้เย็นไว้หลายสัปดาห์ เมื่อหยิบออกมาดูก็สังเกตเห็นเหมือนมีผลึกอยู่ในขวด ทั้งๆ ที่ตอนผสมเสร็จใหม่ๆ ไม่มีผลึกเลยครับ

ส่วนผสม 100 กรัม ที่ผมปรับลดมีดังนี้:

  • Water (ผสม Disodium EDTA 0.2%): 63 กรัม (เพิ่มจาก 43.7 กรัม)
  • Triethanolamine: 2.5 กรัม
  • Ferulic Acid: 0.5 กรัม
  • Panthenol: ไม่ใส่ (เดิม 0.5 กรัม)
  • Ethoxydiglycol: 10 กรัม (ลดจาก 20 กรัม)
  • Propylene glycol: 5 กรัม (ลดจาก 10 กรัม)
  • Glycerin: ไม่ใส่ (เดิม 3 กรัม)
  • Laureth-23: 1.7 กรัม (ลดจาก 3 กรัม)
  • d-Alpha Tocopherol: 1 กรัม
  • L-Ascorbic Acid: 15 กรัม
  • Hyaluronic Acid: 0.3 กรัม
  • Hyaluronic Acid Nano: 0.5 กรัม

ผมไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไรครับ เป็นไปได้ไหมว่าเกิดปฏิกิริยาระหว่างน้ำด่าง Triethanolamine กับกรดของ L-Ascorbic Acid? เคยได้ยินมาว่าถ้าใส่เยอะๆ กรดกับด่างเจอกัน จะเกิดตะกอนผลึกเกลือได้

หรือว่าเกิดจากส่วนผสมที่ผมตัดลดทอนออก? Propylene glycol ซึ่งเป็นตัวทำละลายตัวนี้หรือเปล่า ที่ใส่น้อยลงครึ่งนึง เลยทำให้สูตรไม่เสถียร? หรือว่าเป็นตัว Laureth-23 ที่ลดเกือบครึ่ง ทำให้ส่วนผสมน้ำกับน้ำมันผสานกันได้ไม่ดี? (แต่ตัวนี้ไม่น่าเกี่ยวกับการตกผลึก)

หรือว่าเป็นไปได้ไหมที่เกิดจากน้ำที่ไม่มีคุณภาพ? เพราะผมใช้น้ำจากบ่อพักน้ำ (ก่อด้วยซีเมนต์) ซึ่งอาจมีพวกตะกอนหรือสิ่งแปลกปลอมไปทำปฏิกิริยาเคมีกับส่วนผสมในเซรั่ม (แต่น้ำผ่านการต้มและใส่ Disodium EDTA 0.2% แล้ว)

สาเหตุที่ทำให้วิตามินซีเซรั่มสูตรปรับปรุงของผมเกิดการตกผลึกคืออะไรครับ?

คำตอบ

การตกผลึกในวิตามินซีเซรั่ม

จากคำอธิบายของคุณและการปรับเปลี่ยนสูตรที่คุณได้ทำไป การปรากฏของผลึกในวิตามินซีเซรั่มหลังจากนำไปแช่เย็น มีแนวโน้มสูงว่าเกิดจากการลดปริมาณตัวทำละลาย โดยเฉพาะ Propylene Glycol และ Ethoxydiglycol

สาเหตุที่เป็นไปได้มีดังนี้:

  • ความสามารถในการละลายลดลง: L-Ascorbic Acid (วิตามินซี) มีข้อจำกัดในการละลายในน้ำ ตัวทำละลายอย่าง Propylene Glycol และ Ethoxydiglycol มีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้ L-Ascorbic Acid ละลายอยู่ในสูตร โดยเฉพาะในความเข้มข้นสูง (สูตรของคุณใช้ 15%) การที่คุณลดปริมาณ Propylene Glycol (จาก 10 กรัม เหลือ 5 กรัม) และ Ethoxydiglycol (จาก 20 กรัม เหลือ 10 กรัม) ทำให้ความสามารถโดยรวมของสูตรในการละลาย L-Ascorbic Acid ลดลง เมื่อนำไปแช่เย็น อุณหภูมิที่ต่ำลงยิ่งทำให้การละลายของ L-Ascorbic Acid ลดลงไปอีก จึงเกิดการตกผลึกแยกออกมาจากสารละลาย นี่เป็นปัญหาที่พบบ่อยมากในสูตร L-Ascorbic Acid ที่มีความเข้มข้นสูงและมีตัวทำละลายร่วม (co-solvents) ไม่เพียงพอ

  • ปฏิกิริยาระหว่าง Triethanolamine และ L-Ascorbic Acid: แม้ว่าการผสมกรด (L-Ascorbic Acid) กับเบส (Triethanolamine) อาจทำให้เกิดเกลือ และเกลือบางชนิดอาจตกตะกอนได้ แต่ปัญหาหลักของเซรั่ม L-Ascorbic Acid ความเข้มข้นสูงมักอยู่ที่การละลายของ L-Ascorbic Acid เอง อย่างไรก็ตาม หากค่า pH ของเซรั่มของคุณไม่ได้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับความเสถียรของ L-Ascorbic Acid (pH 2.0-4.0) ซึ่งอาจเกิดจากการใช้ Triethanolamine เพื่อปรับ pH ก็อาจมีส่วนทำให้เกิดการเสื่อมสภาพและปัญหาการตกตะกอนได้

  • คุณภาพของน้ำ: การใช้น้ำที่มีสิ่งเจือปนของแร่ธาตุ แม้จะผ่านการต้มและใส่ Disodium EDTA แล้ว ก็อาจมีส่วนทำให้สูตรไม่เสถียรได้ Disodium EDTA ช่วยจับไอออนของโลหะที่สามารถทำให้วิตามินซีเสื่อมสภาพได้ แต่ก็อาจไม่เพียงพอหากน้ำมีปริมาณแร่ธาตุสูงมาก อย่างไรก็ตาม สาเหตุนี้มีแนวโน้มน้อยกว่าที่จะเป็นสาเหตุหลักของการตกผลึกที่สังเกตเห็น เมื่อเทียบกับการลดปริมาณตัวทำละลายลงอย่างมาก

สรุป: สาเหตุที่เป็นไปได้มากที่สุดสำหรับการตกผลึกคือปริมาณ Propylene Glycol และ Ethoxydiglycol ไม่เพียงพอที่จะช่วยละลาย L-Ascorbic Acid 15% ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเก็บไว้ในตู้เย็น

คำแนะนำ:

  • เพื่อป้องกันการตกผลึก ลองเพิ่มความเข้มข้นของ Propylene Glycol และ/หรือ Ethoxydiglycol ในสูตรของคุณ อาจจะต้องกลับไปใช้ปริมาณเดิม หรือหาสมดุลที่เหมาะสมที่ช่วยให้การละลายเพียงพอโดยที่เซรั่มไม่เหนอะหนะจนเกินไป
  • ใช้น้ำกลั่น (distilled water) หรือน้ำ DI (deionized water) เพื่อลดสิ่งเจือปนของแร่ธาตุให้น้อยที่สุด
  • วัดและปรับค่า pH ของเซรั่มให้อยู่ในช่วง 2.0-4.0 อย่างระมัดระวัง เพื่อความเสถียรสูงสุดของ L-Ascorbic Acid การใช้ Triethanolamine ต้องมีการควบคุม pH อย่างแม่นยำ

การลดปริมาณตัวทำละลายอย่าง Propylene Glycol และ Ethoxydiglycol เพื่อลดความเหนอะหนะ ส่งผลโดยไม่ได้ตั้งใจให้ความสามารถในการละลายของ L-Ascorbic Acid ลดลง นำไปสู่การตกผลึก

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Pure-Ferulic Acid™
Pure-Ferulic Acid™
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)
เครื่องสำอาง
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
เครื่องสำอาง
Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)
Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)
เครื่องสำอาง
Propylene Glycol
Propylene Glycol
เครื่องสำอาง
Triethanolamine 99%
Triethanolamine 99%
เครื่องสำอาง
Laureth-23
Laureth-23
เครื่องสำอาง
Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Large Molecule, 2M Daltons)
Hyaluronic Acid (Large Molecule, 2M Daltons)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Super Low Molecule, 7000daltons)
Hyaluronic Acid (Super Low Molecule, 7000daltons)
เครื่องสำอาง