การตั้งสูตรน้ำมันบำรุงรอยแผลเป็น วิตามิน A, C, E

ถามโดย: benjapa เมื่อ: September 07, 2019 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

รบกวนช่วยแกะสูตรผลิตภัณฑ์น้ำมันบำรุงรอยแผลเป็นที่มีส่วนผสมของ Vitamin A, C, E ด้วยค่ะ เขา claim ว่าเป็น A 2% Retinoid, Vitamin C และ Vitamin E scar treatment oil in a dry, non-comedogenic base ค่ะ ส่วนประกอบที่ระบุคือ:

  • Squalane (Olive)
  • Propanediol
  • Simmondsia Chinensis (jojoba) seed oil
  • Polyglyceryl-4-oleate (olive-derived Emulsifier)
  • Ethyl ascoribc acid (stable non-polar Vitamin C)
  • Retinyl palmitate (stable retinol)
  • Tocopherol (Vitamin E, natural)

ผลิตภัณฑ์ claim ว่ามี A 2% Retinoid

ลองตั้งสูตรดู แบบนี้พอจะได้ไหมคะ:

  • Propylene Glycol 5%
  • Ascorbyl Palmitate 15% (มันจะละลายได้หมดไหมคะ)
  • palmitate retinol 2%
  • tocopheryl Vitamin E 0.1%
  • ส่วนที่เหลือ Olive CLEAR แทนน้ำมันและให้ผิวสัมผัสคล้าย Cyclomethicone

คำถามคือ:

  1. สูตรที่ตั้งขึ้นมานี้พอจะได้ไหมคะ (โดยเฉพาะเรื่อง Ascorbyl Palmitate 15% มันจะละลายได้หมดไหมคะ)
  2. ต้องเพิ่ม/ลด/เปลี่ยน สาร active ตัวไหนบ้างคะ
  3. ต้องใช้ Emulsifier ตัวไหนช่วยประสานค่ะ
  4. อยากเลี่ยงการใช้ Squalane กับ Jojoba Oil เพราะราคามันแพงเกินไป ขอคำแนะนำว่าใช้ตัวไหนแทนได้ค่ะ คิดเอาเองว่า Olive CLEAR น่าจะแทนกันได้ และให้ผิวสัมผัสดีกว่าด้วยค่ะ

ได้ลอง search ข้อมูลเก่าๆ ในกระทู้ ไม่พบครีมที่มีส่วนผสมของ Vitamin A, C, E เลยค่ะ มีสูตรใดแนะนำไหมคะ

คำตอบ

คำแนะนำการตั้งสูตรน้ำมันบำรุงรอยแผลเป็น วิตามิน A, C, E

จากการวิเคราะห์ส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เดิมที่คุณแจ้งมา และสูตรที่คุณเสนอ มีคำแนะนำสำหรับการสร้างน้ำมันบำรุงรอยแผลเป็นที่มีส่วนผสมของวิตามิน A, C, และ E ดังนี้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์เดิมดูเหมือนจะใช้ส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันและส่วนผสมที่อาจละลายในน้ำ (เช่น Propanediol และ Ethyl Ascorbic Acid) ร่วมกับอิมัลซิไฟเออร์ชนิดน้ำในน้ำมัน (Polyglyceryl-4 Oleate) ซึ่งบ่งชี้ว่าอาจเป็นสูตรอิมัลชันชนิด W/O หรือเป็นเนื้อกระจายตัว แม้ว่าจะให้ความรู้สึกเหมือนน้ำมันก็ตาม

สูตรที่คุณเสนอใช้ Propylene Glycol และ Ascorbyl Palmitate ในเบส Olive CLEAR ร่วมกับ Retinyl Palmitate และ Tocopheryl Acetate

การวิเคราะห์สูตรที่คุณเสนอ:

  • การละลายของ Ascorbyl Palmitate: การใช้ Ascorbyl Palmitate ที่ความเข้มข้น 15% ในเบสน้ำมันมีปัญหาเรื่องการละลาย Ascorbyl Palmitate มีความสามารถในการละลายในน้ำมันธรรมชาติ (ประมาณ 0.03-0.12%) และ Propylene Glycol (ประมาณ 0.48%) ต่ำมาก ความเข้มข้น 15% สูงกว่าขีดจำกัดการละลายอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะทำให้เกิดเนื้อทรายและลดประสิทธิภาพ เนื่องจากส่วนผสมไม่กระจายตัวหรือพร้อมใช้งานบนผิวอย่างสม่ำเสมอ
  • Propylene Glycol: Propylene Glycol ละลายในน้ำ ในสูตรที่เน้นน้ำมันเป็นหลักโดยไม่มีอิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสม จะไม่สามารถเข้ากันได้ดีและอาจทำให้สูตรไม่เสถียร ผลิตภัณฑ์เดิมใช้ Propanediol ซึ่งเป็นทางเลือกจากธรรมชาติแทน Propylene Glycol และละลายในน้ำเช่นกัน
  • อิมัลซิไฟเออร์: หากเป้าหมายคือการทำเซรั่มน้ำมันบริสุทธิ์ (ไม่มีเฟสน้ำ) ไม่จำเป็นต้องใช้อิมัลซิไฟเออร์เพื่อสร้างอิมัลชัน หากคุณต้องการรวมส่วนผสมที่ละลายน้ำ อิมัลซิไฟเออร์จะจำเป็นเพื่อป้องกันการแยกชั้น แต่จะทำให้ประเภทผลิตภัณฑ์เปลี่ยนไป ผลิตภัณฑ์เดิมใช้ Polyglyceryl-4 Oleate ซึ่งเป็นอิมัลซิไฟเออร์ W/O ซึ่งอาจบ่งชี้ว่ามีเฟสน้ำเล็กน้อยหรือใช้อิมัลซิไฟเออร์เพื่อช่วยกระจายส่วนผสมที่ไม่ละลายในน้ำมันได้อย่างสมบูรณ์
  • ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์: Retinyl Palmitate ที่ความเข้มข้น 2% สูงกว่าอัตราการใช้สูงสุดที่แนะนำโดยทั่วไปที่ 1.0% เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้น แม้ว่าบางแหล่งอาจแนะนำให้ใช้สูงกว่าเล็กน้อย คำอธิบายผลิตภัณฑ์สำหรับ Vitamin A Palmitate (ID 192) เตือนว่าการใช้มากกว่า 1% อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวและอาจเป็นอันตรายได้ การใช้ภายในช่วงที่แนะนำจะปลอดภัยกว่า Tocopheryl Acetate ที่ 0.1% อยู่ในเกณฑ์ที่แนะนำ (0.1-1%)

ทางเลือกแทน Squalane และ Jojoba Oil:

คุณเข้าใจถูกต้องแล้วว่า Olive CLEAR (Hydrogenated Olive Oil) เป็นทางเลือกที่ดีเยี่ยมและราคาไม่แพงแทน Squalane และ Jojoba Oil ให้ความรู้สึกบางเบา ไม่เหนอะหนะ คล้ายซิลิโคนอย่าง Cyclomethicone แต่เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ และมีความเสถียรสูงกว่าน้ำมันธรรมชาติหลายชนิด รวมถึง Jojoba Oil จึงเป็นเบสที่เหมาะสมสำหรับเซรั่มน้ำมันของคุณ เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่แห้ง ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน และคุ้มค่า

แนวคิดสูตรที่ปรับปรุงใหม่ที่แนะนำ (เซรั่มน้ำมัน):

เพื่อให้ได้เซรั่มน้ำมันที่เสถียรและมีประสิทธิภาพ พร้อมเนื้อสัมผัสที่แห้ง ควรใช้ส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันในเบสน้ำมัน สำหรับวิตามินซี ควรใช้รูปแบบอนุพันธ์ที่ละลายในน้ำมันได้ดีกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่าสำหรับความเข้มข้นที่สูงขึ้น

  • น้ำมันเบส: ใช้ Olive CLEAR (Hydrogenated Olive Oil) เป็นน้ำมันเบสหลัก (สูงสุด 100%)
  • วิตามิน A: ใช้ Vitamin A Palmitate (Retinyl Palmitate) ที่ความเข้มข้น 0.5% ถึง 1.0% เพื่อให้อยู่ในอัตราการใช้ที่ปลอดภัยและให้ประโยชน์ต่อผิว
  • วิตามิน C: เปลี่ยนจาก Ascorbyl Palmitate เป็น Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate) นี่คืออนุพันธ์วิตามินซีที่ละลายในน้ำมัน ซึ่งมีความสามารถในการละลายในน้ำมันดีกว่ามากและมีประสิทธิภาพสูงกว่า Ascorbyl Palmitate สำหรับประโยชน์ต่อผิว มีความเสถียรสูง ใช้ที่ความเข้มข้น 5% ถึง 10% (5% เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับประสิทธิภาพที่ดี) ซึ่งจะละลายได้ดีในเบสน้ำมัน หลีกเลี่ยง Ascorbyl Palmitate ที่ความเข้มข้นสูงในเบสน้ำมัน
  • วิตามิน E: ใช้ Vitamin E (Tocopheryl Acetate) ที่ 0.1% ถึง 0.5% ช่วยต้านอนุมูลอิสระทั้งต่อผิวและต่อสูตร
  • สารช่วยเพิ่มความเสถียร: เพื่อป้องกันวิตามิน (อนุพันธ์วิตามิน A และ C) จากการเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะหากไม่ได้ใช้บรรจุภัณฑ์ทึบแสง ควรเติมสารต้านอนุมูลอิสระและสารดูดซับรังสี UV:
    • Protec™ OX ที่ 0.01% - 0.05% (สารต้านอนุมูลอิสระ).
    • Protec™ UV ที่ 0.03% - 0.1% (สารดูดซับรังสี UV).

แนวคิดสูตรที่ปรับปรุงใหม่:

  • Vitamin A Palmitate (Retinyl Palmitate): 0.5 - 1.0%
  • Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate): 5.0 - 10.0%
  • Vitamin E (Tocopheryl Acetate): 0.1 - 0.5%
  • Protec™ OX: 0.01 - 0.05%
  • Protec™ UV: 0.03 - 0.1%
  • Olive CLEAR (Hydrogenated Olive Oil): ส่วนที่เหลือจนครบ 100%

ขั้นตอนการผสม (ทั่วไปสำหรับเซรั่มน้ำมัน):

  1. รวม Olive CLEAR และ Protec™ OX เข้าด้วยกัน อาจใช้ความร้อนอ่อนๆ (ประมาณ 70-80°C) เพื่อช่วยให้ Protec™ OX ละลายหมด คนให้เข้ากัน หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนนานเกินไป
  2. เติม Vitamin A Palmitate และ Protec™ UV ลงในเฟสน้ำมันที่อุ่น คนให้ละลาย หาก Retinyl Palmitate เป็นของแข็ง ต้องแน่ใจว่าละลายและกระจายตัวดี
  3. ปล่อยให้ส่วนผสมเย็นลงต่ำกว่า 40°C
  4. เติม Perfect-C™ และ Vitamin E (Tocopheryl Acetate) คนให้เข้ากันดี
  5. บรรจุในภาชนะทึบแสงเพื่อป้องกันส่วนผสมที่ไวต่อแสง

สูตรที่ปรับปรุงใหม่นี้จะช่วยแก้ปัญหาการละลายของ Ascorbyl Palmitate ที่ความเข้มข้นสูง และใช้ Olive CLEAR เป็นเบสที่มีประสิทธิภาพและประหยัด ให้เซรั่มน้ำมันที่เสถียรและมีประโยชน์ในการดูแลรอยแผลเป็น โดยไม่ต้องใช้อิมัลซิไฟเออร์สำหรับสูตรน้ำมันบริสุทธิ์นี้

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
เครื่องสำอาง
Squalane (Olive)
Squalane (Olive)
เครื่องสำอาง
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
เครื่องสำอาง
Propylene Glycol
Propylene Glycol
เครื่องสำอาง
Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)
Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)
เครื่องสำอาง
Vitamin A Palmitate (retinyl palmitate, 1MIU/g)
Vitamin A Palmitate (retinyl palmitate, 1MIU/g)
เครื่องสำอาง
Vitamin C Ester (Ascorbyl Palmitate, Enzymatic)
Vitamin C Ester (Ascorbyl Palmitate, Enzymatic)
เครื่องสำอาง
Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)
Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)
เครื่องสำอาง
Olive CLEAR (Hydrogenated Olive Oil)
Olive CLEAR (Hydrogenated Olive Oil)
เครื่องสำอาง
Propanediol (1,3-Propanediol) (e.q. Zemea)
Propanediol (1,3-Propanediol) (e.q. Zemea)
เครื่องสำอาง
Polyglyceryl-4 Oleate
Polyglyceryl-4 Oleate
เครื่องสำอาง