การทำน้ำตบ: การเก็บรักษา อายุการใช้งาน และสารกันเสีย

ถามโดย: auai282 เมื่อ: June 26, 2019 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

สวัสดีค่ะ

พอดีกำลังจะผสมน้ำตบสำหรับผิวธรรมดา จนถึงผิวแห้ง จากสูตรที่ staff เคยตอบลูกค้าไว้:

  1. Galactomyces Ferment Filtrate (Pitera) - ส่วนที่เหลือ ให้ครบ 100%
  2. Double Hyaluron Liquid - 5% (แทน Hyaluronic Acid Standard/Nano ซึ่งจะอยู่ในรูปผง และใช้งานยากกว่า)
  3. Vitamin B3, Niacinamide (Safe-B3™) - 5%
  4. Phenoxyethanol SA - 0.2% (ลดจาก 1% เนื่องจาก Pitera ที่ใช้ในปริมาณมากในสูตร มีสารกันเสียมาจากทางผู้ผลิตแล้วคะ)
  5. Vitamin B5 - 1%
  6. Ethoxydiglycol - 5% (ช่วยให้ผิวสามารถดูดซึมส่วนผสมต่างๆได้ดีขึ้นคะ)
  7. Flora Solve Clear - 1% (ช่วยให้สูตรสามารถเกาะอยู่บนผิวหน้าได้ดีขึ้นคะ)

อยากทราบว่า:

  1. ผสมแล้วควรเก็บไว้ในตู้เย็นมั้ยคะ
  2. อายุของน้ำตบนี้ดูจากวันหมดอายุของสารตัวไหนคะ
  3. สารตัวที่ 4 (Phenoxyethanol SA) ไม่ใส่ได้มั้ยคะ

คำตอบ

สวัสดีค่ะ

สำหรับคำถามเกี่ยวกับการผสมน้ำตบตามสูตรที่คุณสอบถามมา มีคำแนะนำดังนี้ค่ะ

  1. การเก็บรักษา: แนะนำอย่างยิ่งให้เก็บผลิตภัณฑ์ที่ผสมเสร็จแล้วไว้ในตู้เย็นค่ะ การเก็บในตู้เย็นจะช่วยรักษาความเสถียรและความสดใหม่ของส่วนผสม โดยเฉพาะ Galactomyces Ferment Filtrate และช่วยยืดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์โดยการชะลอการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ค่ะ
  2. อายุการใช้งาน: โดยทั่วไปแล้ว อายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ผสมเองจะขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่มีวันหมดอายุสั้นที่สุด โดยต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่ามีการใช้วัตถุกันเสียอย่างเหมาะสมและรักษาความสะอาดในระหว่างการผสม อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการใช้วัตถุกันเสีย ผลิตภัณฑ์ที่ทำเองมักจะมีอายุสั้นกว่าผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในเชิงพาณิชย์ เนื่องจากอาจมีการปนเปื้อนในระหว่างการเตรียมและไม่ได้ผ่านการทดสอบความเสถียรอย่างเข้มงวด คำแนะนำทั่วไปคือควรใช้ผลิตภัณฑ์ให้หมดภายใน 3-6 เดือนหลังจากผสมเสร็จ โดยไม่คำนึงถึงวันหมดอายุของส่วนผสมแต่ละตัวที่ยาวกว่านั้น ควรสังเกตการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์ เช่น สี กลิ่น หรือเนื้อสัมผัส หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ควรทิ้งผลิตภัณฑ์นั้นไปค่ะ
  3. การงดใช้วัตถุกันเสีย (Phenoxyethanol SA): ไม่แนะนำอย่างยิ่งให้งดใช้วัตถุกันเสีย (Phenoxyethanol SA / Optiphen Plus) ค่ะ แม้ว่า Galactomyces Ferment Filtrate อาจมีวัตถุกันเสียมาจากผู้ผลิต แต่โดยทั่วไปแล้วปริมาณนั้นมักจะไม่เพียงพอที่จะรักษาสูตรทั้งหมดให้คงสภาพได้ โดยเฉพาะเมื่อมีการเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ เข้าไป และผลิตภัณฑ์ต้องสัมผัสกับอากาศและอาจมีการปนเปื้อนระหว่างการใช้งาน การงดใช้วัตถุกันเสียจะทำให้ผลิตภัณฑ์มีโอกาสสูงมากที่จะเกิดการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์ ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์ไม่ปลอดภัยและเสียได้อย่างรวดเร็ว (อาจภายในไม่กี่วันหรือหนึ่งสัปดาห์) ปริมาณที่ลดลงเหลือ 0.2% น่าจะเป็นระดับขั้นต่ำที่แนะนำสำหรับสูตรนี้ วัตถุกันเสียมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของน้ำเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและความเสถียรค่ะ

หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง
Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)
Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)
เครื่องสำอาง
Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)
Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)
เครื่องสำอาง
Double Hyaluron Liquid
Double Hyaluron Liquid
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
เครื่องสำอาง