การทำเซรั่มวิตามินซีด้วยตนเอง - แก้ปัญหาการแยกชั้นของ Hyaluronic Acid

ถามโดย: shoppingist เมื่อ: March 17, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ฉันกำลังทำเซรั่มวิตามินซีด้วยตนเอง หลังจากละลายผงวิตามินซีแล้ว ฉันได้เติม Hyaluronic Acid (Standard Molecule และ Nano Molecule) อย่างละ 0.2% หลังจากแช่เย็นและเขย่าเกือบ 24 ชั่วโมง ส่วนผสมก็ยังแยกชั้นอยู่

  • สาเหตุของการแยกชั้นนี้เกิดจากอะไร?
  • การเติมผง Hyaluronic Acid ทั้งขนาด Standard และ Nano พร้อมกันทำให้สูตรเสียได้หรือไม่?
  • สูตรที่แยกชั้นต้องทิ้งหรือไม่ สามารถแก้ไขได้หรือเปล่า?

คำตอบ

การทำเซรั่มวิตามินซี อี เฟอรูลิกด้วยตนเอง

คำถามของคุณพร้อมคำตอบ

  1. เรื่อง EDTA: คุณเข้าใจถูกต้องแล้วค่ะ จากสูตรและการตอบของเจ้าหน้าที่ คุณไม่จำเป็นต้องใส่ Disodium EDTA ในสูตรนี้ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องใช้น้ำกลั่นบริสุทธิ์สูง (Purified Water) ในการผสม เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาไอออนในน้ำที่อาจรบกวนความเสถียรของ L-Ascorbic Acid
  2. เรื่องลำดับการผสม: เมื่อผสมเฟส A และเฟส B ขั้นตอนที่ถูกต้องคือให้เทเฟส B ลงในเฟส A
  3. เรื่อง Panthenol: ใช่ค่ะ Panthenol ที่กล่าวถึงในสูตรคือชนิดผง โดยเฉพาะ Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

การแก้ไขปัญหาการแยกชั้น

คุณพบปัญหาการแยกชั้นหลังจากเติมผง Hyaluronic Acid (ทั้ง Standard Molecule และ Nano Molecule) ลงในสูตรของคุณ

  • สาเหตุที่เป็นไปได้: การแยกชั้นส่วนใหญ่มักเกิดจากผง Hyaluronic Acid ละลายไม่สมบูรณ์ การละลายผง Hyaluronic Acid โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ความเข้มข้นสูง หรือเมื่อใช้ขนาดโมเลกุลต่างกันร่วมกัน จำเป็นต้องใช้เวลา การแช่เย็น และการคน (เขย่าหรือปั่น) อย่างเพียงพอเพื่อให้ผงดูดน้ำและสร้างเนื้อเจลที่สม่ำเสมอ หากการแช่เย็นและการคนไม่เพียงพอ ผงอาจยังคงไม่ละลายหรือละลายบางส่วน ทำให้เกิดการแยกชั้น การใส่ทั้งขนาด Standard และ Nano พร้อมกันไม่ได้ทำให้สูตรเสียโดยตรง แต่สามารถทำให้กระบวนการละลายยากขึ้นเมื่อเทียบกับการใช้ชนิดน้ำที่ละลายแล้ว
  • วิธีแก้ไข: คุณไม่จำเป็นต้องทิ้งสูตรที่แยกชั้น คุณสามารถกรองส่วนผสมโดยใช้กระดาษกรองละเอียด เช่น กระดาษกรองกาแฟหรือชา ซึ่งจะช่วยแยกอนุภาคของแข็งที่ไม่ละลายออกไป เหลือไว้แต่ส่วนที่เป็นของเหลว แม้ว่า Hyaluronic Acid ที่ไม่ละลายจะถูกกรองออกไป แต่ของเหลวที่เหลือก็ยังคงมีส่วนผสมสำคัญอื่นๆ ที่ละลายอยู่ เช่น Vitamin C (L-ascorbic acid), Vitamin E (Tocopheryl Acetate), Ferulic Acid (Pure-Ferulic Acid™), Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder) และ Phenoxyethanol ซึ่งยังคงให้ประโยชน์ต่อผิวได้
  • ทางเลือกสำหรับ Hyaluronic Acid: เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการละลายในอนาคต ลองพิจารณาใช้ Hyaluronic Acid ชนิดน้ำ เช่น Double Hyaluron Liquid ผลิตภัณฑ์นี้เป็น Hyaluronic Acid ชนิดน้ำที่ผสมผสานระหว่างขนาด Nano และ Standard ทำให้ผสมเข้ากับสูตรที่เป็นน้ำได้ง่ายกว่ามาก โดยไม่ต้องใช้ขั้นตอนการแช่เย็นและการคนอย่างละเอียดเพื่อละลายผง

อย่าลืมเก็บรักษาเซรั่มที่ทำเสร็จแล้วอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะส่วนประกอบของ Vitamin C ซึ่งไวต่อแสง ความร้อน และอากาศ การเก็บในที่เย็น มืด หรือในตู้เย็นจะช่วยรักษาความเสถียรและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดีที่สุด

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Vitamin C E Ferulic
Vitamin C E Ferulic
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Standard Molecule)
Hyaluronic Acid (Standard Molecule)
เครื่องสำอาง
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง
Pure-Ferulic Acid™
Pure-Ferulic Acid™
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Double Hyaluron Liquid
Double Hyaluron Liquid
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Nano Molecule, 2000daltons)
Hyaluronic Acid (Nano Molecule, 2000daltons)
เครื่องสำอาง