การทำเซรั่มวิตามินซีด้วยตัวเองครั้งแรกและการตรวจสอบส่วนผสม
คำถาม
ดิฉันเป็นมือใหม่หัดทำเซรั่มด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก โดยทำตามสูตรที่เจอ (อ้างอิงจากกระทู้เกี่ยวกับเซรั่ม L-Ascorbic Acid) และได้สั่งซื้อสินค้าวัตถุดิบไปแล้ว (ตามเลขที่ใบสั่งซื้อ #014577)
รบกวนช่วยตรวจสอบให้หน่อยค่ะว่ารายการที่สั่งซื้อไปนั้นถูกต้องเหมาะสมกับสูตรที่ต้องการทำหรือไม่ หรือมีข้อผิดพลาดในการเลือกส่วนผสมสำหรับการทำเซรั่มวิตามินซีหรือไม่ค่ะ
คำตอบ
คำแนะนำสำหรับการทำเซรั่มวิตามินซีครั้งแรกของคุณ
ยินดีต้อนรับสู่โลกของการทำสกินแคร์ DIY ค่ะ เป็นเรื่องที่ดีมากที่คุณกำลังพยายามทำเซรั่มด้วยตัวเอง สำหรับเลขที่ใบสั่งซื้อ #014577 นั้น ดิฉันไม่สามารถเข้าถึงรายละเอียดคำสั่งซื้อที่เฉพาะเจาะจงได้ อย่างไรก็ตาม ดิฉันสามารถให้คำแนะนำตามสูตรเซรั่มวิตามินซีที่คุณอ้างอิงจากลิงก์และประเภทของวิตามินซีที่มีอยู่ค่ะ
กระทู้ที่คุณอ้างถึงกล่าวถึงเซรั่มวิตามินซีที่ใช้ L-Ascorbic Acid ซึ่งเป็นวิตามินซีรูปแบบที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นที่รู้จักในด้านความสามารถในการทำให้ผิวกระจ่างใส ลดเลือนริ้วรอย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ผลิตภัณฑ์ของเรา เช่น Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine) และ Vitamin C (L-ascorbic acid) (Standard) เป็นตัวอย่างของวิตามินซีประเภทนี้ค่ะ
เมื่อทำงานกับ L-Ascorbic Acid สิ่งสำคัญคือต้องทราบว่ามันไม่เสถียรมากนักเมื่อละลายในน้ำโดยตรงและสามารถเกิดการออกซิเดชันได้ เพื่อช่วยให้มันเสถียร สูตรควรมีค่า pH ต่ำ โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 2.0-4.0 (อย. กำหนดให้เครื่องสำอางที่ใช้ทาผิวต้องมีค่า pH อย่างน้อย 3.5) แนะนำให้ใส่ Disodium EDTA ในสูตรด้วยเพื่อช่วยป้องกันวิตามินซีจากไอออนของโลหะที่อาจทำให้คุณภาพลดลงค่ะ
การผสม L-Ascorbic Acid มักจะเกี่ยวข้องกับการละลายผงในส่วนของน้ำ การใช้ความร้อนอ่อนๆ ในระยะเวลาสั้นๆ (50-70°C เป็นเวลา 1-3 นาที) บางครั้งอาจช่วยในการละลายได้ ควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายของการทำสูตรเมื่ออุณหภูมิต่ำกว่า 30°C สำหรับการเก็บรักษาในระยะยาว แนะนำอย่างยิ่งให้เก็บเซรั่มที่ทำเสร็จแล้วไว้ในตู้เย็นที่อุณหภูมิ 6-8°C หลีกเลี่ยงแสงและความร้อน ในภาชนะที่ปิดสนิท เพื่อรักษาประสิทธิภาพค่ะ
นอกจากนี้ยังมีวิตามินซีรูปแบบอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติและความเสถียรแตกต่างกัน ซึ่งอาจง่ายกว่าสำหรับผู้เริ่มต้นหรือเหมาะสำหรับสูตรประเภทต่างๆ:
- Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C): วิตามินซีที่ละลายในน้ำ มีความเสถียรมากกว่า L-Ascorbic Acid แต่ต้องปรับค่า pH ให้อยู่ในช่วง 6.5-6.8 เพื่อความเสถียรสูงสุด
- Ethyl Ascorbic Acid (3-O-ethyl ascorbic acid, Vitamin C Ethyl Ether): วิตามินซีที่ละลายในน้ำ มีความเสถียรสูง ผสมง่าย และมีประสิทธิภาพในการทำให้ผิวกระจ่างใส
- Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate): วิตามินซีที่ละลายในน้ำมัน มีความเสถียรมากและมีประสิทธิภาพในการทำให้ผิวขาว ต่อต้านริ้วรอย และกระตุ้นคอลลาเจน ผสมในส่วนของน้ำมันและสูตรต้องมีค่า pH 5.0-5.5
- Sodium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C SAP, e.q. Stay C50): วิตามินซีที่ละลายในน้ำ มีความเสถียรสูง มีความเป็นด่าง (pH 8-11) และทำงานได้ดีที่สุดในสูตรที่มีค่า pH 7-9
- Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum: เบสวิตามินซีชนิดน้ำพร้อมใช้ที่มี L-Ascorbic Acid 15% มีความเสถียรสูง แต่ไม่เหมาะสำหรับการเพิ่มส่วนผสมอื่น ๆ เนื่องจากอาจส่งผลต่อความเสถียรได้
- Vitamin C E Ferulic: ส่วนผสมที่ใช้ Ascorbic Acid ที่มีความเสถียรด้วย Vitamin E และ Ferulic Acid
ในการตรวจสอบว่าส่วนผสมที่คุณสั่งซื้อมานั้นเหมาะสมกับสูตรเซรั่ม L-Ascorbic Acid ที่คุณทำตามหรือไม่ โปรดเปรียบเทียบส่วนผสมที่คุณได้รับกับข้อกำหนดของสูตรนั้น โดยให้ความสำคัญกับประเภทของวิตามินซีและส่วนประกอบเฉพาะอื่นๆ ที่กล่าวถึงในสูตร ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณปฏิบัติตามคำแนะนำในการผสมและข้อกำหนดค่า pH สำหรับวิตามินซีประเภทที่คุณใช้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์และความเสถียรที่ดีที่สุดค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin C E Ferulic

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)

Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)

Stabilized Vitamin C (Natural-C Glycol™) Serum

Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate)
