การทำให้ครีมกันแดดเนื้อน้ำนมกันน้ำได้ สำหรับการออกแดดนาน

หัวข้อ: สูตรกันแดด SPF สูง กันน้ำ เนื้อน้ำนม

ขอบคุณสำหรับคำถามเกี่ยวกับสูตรกันแดดที่มีค่า SPF สูง กันน้ำ เนื้อน้ำนม ที่เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานกลางแดดนานๆ ค่ะ

จากที่ได้มีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้ สูตรที่ให้ไว้ซึ่งประกอบด้วย SPF Protect Ultra II (รหัสสินค้า 1048), Milk Lotion Maker (รหัสสินค้า 1040), Satin Cream Maker (รหัสสินค้า 247), น้ำ และ Mild Preserved Eco (รหัสสินค้า 1001) ถือเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับเนื้อสัมผัสแบบน้ำนม (milky lotion) ค่ะ

เพื่อให้สูตรนี้มีคุณสมบัติกันน้ำได้ คุณจำเป็นต้องเพิ่มสารที่ช่วยในการกันน้ำเข้าไปค่ะ ดังที่ได้กล่าวไป สูตรพื้นฐานที่ใช้ Milk Lotion Maker และ Satin Cream Maker น่าจะเป็นอิมัลชันแบบ Oil-in-Water (O/W) ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะไม่กันน้ำได้ดีนักด้วยตัวมันเอง

มีแนวทางหลักๆ สองแนวทางในการปรับปรุงสูตรนี้เพื่อให้กันน้ำได้:

1. การเพิ่มสารสร้างฟิล์ม: คือการเพิ่มส่วนผสมอย่าง WaterGuard™ Lite (รหัสสินค้า 287) หรือ WaterGuard™ Ultra (รหัสสินค้า 1338) เข้าไปในสูตร O/W เดิม ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยสร้างฟิล์มบางๆ บนผิวเพื่อกันน้ำ คุณได้กล่าวถึงว่าการใช้ WaterGuard™ Ultra ที่ 6% รู้สึกเหนียว WaterGuard™ Lite อาจให้ความเหนียวน้อยกว่าในขณะที่ยังคงคุณสมบัติกันน้ำได้ หรืออีกทางเลือกคือลองลดเปอร์เซ็นต์ของ WaterGuard™ Ultra ลง โดยต้องคำนึงว่าการลดเปอร์เซ็นต์อาจทำให้ประสิทธิภาพการกันน้ำลดลงด้วยค่ะ มักจะมีการแลกเปลี่ยนระหว่างระดับการกันน้ำกับความรู้สึกเหนียวเมื่อใช้สารสร้างฟิล์มค่ะ

2. การสร้างอิมัลชันแบบ Water-in-Oil (W/O): คือการใช้อิมัลซิไฟเออร์อย่าง Water-in-Oil EZ™ (รหัสสินค้า 726) เพื่อสร้างระบบ W/O ซึ่งโมเลกุลของน้ำจะถูกกระจายอยู่ในเฟสน้ำมัน อิมัลชันแบบ W/O โดยธรรมชาติแล้วจะกันน้ำได้ดีกว่าอิมัลชันแบบ O/W อย่างไรก็ตาม วิธีนี้จะต้องสร้างสูตรพื้นฐานใหม่โดยใช้ Water-in-Oil EZ™ เป็นอิมัลซิไฟเออร์หลัก ซึ่งอาจทำให้เนื้อสัมผัสมีความเข้มข้นหรือรู้สึกมันกว่าเนื้อน้ำนมแบบ O/W ทั่วไปค่ะ ดังที่ Staff ได้แนะนำ Water-in-Oil EZ™ ที่ 2% อาจเหนียวน้อยกว่า WaterGuard™ Ultra ที่ 6% แต่ประสิทธิภาพการกันน้ำก็อาจด้อยกว่าเช่นกันค่ะ

เมื่อพิจารณาถึงความต้องการเนื้อสัมผัสแบบน้ำนมและประสบการณ์เรื่องความเหนียวจาก WaterGuard™ Ultra การปรับปรุงสูตรเดิมโดยการเพิ่ม WaterGuard™ Lite หรือลดเปอร์เซ็นต์ของ WaterGuard™ Ultra อาจเป็นวิธีที่ตรงที่สุดในการเพิ่มคุณสมบัติกันน้ำในขณะที่พยายามคงเนื้อสัมผัสแบบน้ำนมไว้ค่ะ

วิธีการผสม WaterGuard™ Lite หรือ Ultra เข้าไปในสูตรที่ให้ไว้:
ส่วนผสมเหล่านี้มักจะถูกเติมในเฟสน้ำมันหรือในอิมัลชันที่ทำเสร็จแล้ว ขึ้นอยู่กับคำแนะนำเฉพาะของผลิตภัณฑ์นั้นๆ ค่ะ กรุณาตรวจสอบวิธีการใช้งานที่แนะนำในหน้ารายละเอียดผลิตภัณฑ์ค่ะ

สำหรับปัญหาอาการแสบหน้าและคราบขาวที่คุณเคยพบในสูตร เดิม ที่คุณทำเอง (ไม่ใช่สูตรที่ให้ไว้ในกระทู้นี้) ปัญหาเหล่านี้อาจเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดและความเข้มข้นของสารกันแดดที่ใช้ ส่วนผสมอื่นๆ หรือความเสถียรโดยรวมของสูตร การควบคุมค่า pH ที่เหมาะสมและการทำอิมัลชันที่ถูกต้องก็มีความสำคัญต่อความสบายผิวและลักษณะของผลิตภัณฑ์ค่ะ

สำหรับการทำงานกลางแดดนานๆ สูตรที่กันน้ำได้จริงหรือกันน้ำได้ดีมีความสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้แน่ใจว่าครีมกันแดดยังคงมีประสิทธิภาพแม้มีเหงื่อออกหรือสัมผัสกับน้ำค่ะ

เราขอแนะนำให้ทดสอบสูตรที่ปรับปรุงแล้วอย่างรอบคอบเพื่อให้แน่ใจว่าได้เนื้อสัมผัส ความรู้สึก ระดับ SPF (หากมีวิธีทดสอบ) และคุณสมบัติการกันน้ำตามที่ต้องการ และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองค่ะ