การทำให้เซรั่ม Vitamin C E Ferulic เสถียรสำหรับการจำหน่าย

เป็นเรื่องดีมากที่คุณได้รับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมจากเซรั่ม Vitamin C E Ferulic ที่ทำเองค่ะ ปัญหาเรื่องสีเหลืองเมื่อไม่ได้แช่เย็นเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับสูตรที่ใช้ L-Ascorbic Acid ซึ่งเป็นวิตามินซีที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แต่ก็ไม่เสถียรอย่างมาก โดยเฉพาะในสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ การเกิด Oxidation ทำให้วิตามินซีเสื่อมสภาพและเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

ชุด Vitamin C E Ferulic ดั้งเดิมน่าจะใช้ Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine) ซึ่งเป็นเหตุผลที่แนะนำให้เก็บในตู้เย็นเพื่อชะลอการเสื่อมสภาพและรักษาประสิทธิภาพไว้

สำหรับการผลิตเพื่อจำหน่ายที่ไม่ต้องการการแช่เย็น คุณจำเป็นต้องใช้วิตามินซีในรูปแบบที่เสถียรมากขึ้น นี่คือตัวเลือกบางส่วน:

• Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C): เป็นวิตามินซีอนุพันธ์ที่ละลายน้ำได้และมีความเสถียรสูงกว่า L-Ascorbic Acid มาก มีประสิทธิภาพในการปรับผิวให้กระจ่างใสและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ต้องมีการปรับค่า pH ในระหว่างการผสม
• Ethyl Ascorbic Acid (3-O-ethyl ascorbic acid, Vitamin C Ethyl Ether): เป็นวิตามินซีอนุพันธ์ที่ละลายน้ำได้และมีความเสถียรสูงอีกชนิดหนึ่ง มีความเสถียรดีเยี่ยมและช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำได้
• Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate): เป็นวิตามินซีอนุพันธ์ที่ละลายในน้ำมัน มีความเสถียรสูงและสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ประโยชน์ด้านความกระจ่างใส การต้านอนุมูลอิสระ และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี

การเปลี่ยนไปใช้วิตามินซีอนุพันธ์ที่มีความเสถียรเหล่านี้ จะช่วยให้คุณสร้างเซรั่มที่คงคุณภาพและประสิทธิภาพได้โดยไม่ต้องเก็บในตู้เย็น อย่าลืมว่า Pure-Ferulic Acid™ และ Vitamin E ยังคงมีบทบาทในการป้องกันอนุมูลอิสระและสามารถใช้ร่วมกับวิตามินซีรูปแบบที่เสถียรได้

นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง ควรใช้ขวดทึบแสงและปิดสนิทเพื่อลดการสัมผัสกับแสงและอากาศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิด Oxidation ได้เช่นกัน