การประเมินสูตร Eye Serum: ความเข้ากันได้ของสารกันเสียและขั้นตอนการผสม

ถามโดย: pattarinsuwan เมื่อ: January 17, 2015 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ฉันได้พัฒนาสูตร Eye Serum และต้องการให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยประเมินสูตร ตรวจสอบความเข้ากันได้ของส่วนผสม และให้คำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการผสมที่ถูกต้อง เพื่อให้สูตรมีความเสถียรและได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการค่ะ

สูตรมีดังนี้:

  • REGU-AGE: 5%
  • Vitamin B3 (Niacinamide): 2%
  • NAG (Acetyl Glucosamine): 4%
  • Hyaluronic Acid (Standard Molecule): 0.5%
  • Hyaluronic Acid (Nano Molecule): 0.5%
  • Butylene Glycol: 10%
  • Eye Preserved (Polyhexamethylene Biguanide, PHMB): 1%
  • Water: q.s.

รบกวนช่วยตรวจสอบสูตรนี้ แนะนำปัญหาที่อาจเกิดขึ้น (โดยเฉพาะเรื่องความเข้ากันได้ของส่วนผสมหรือความเสถียร) แนะนำขั้นตอนการผสมที่เหมาะสม และให้คำแนะนำในการปรับเนื้อให้เป็นเจลด้วยค่ะ

คำตอบ

สูตร Eye Serum ที่คุณคิดค้นขึ้นมาน่าสนใจมากค่ะ มีการเลือกใช้สารสำคัญที่เน้นการบำรุงผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดีและตรงจุดกับปัญหาที่คุณต้องการแก้ไขค่ะ

มาดูส่วนผสมแต่ละตัวและคุณสมบัติที่คุณเลือกใช้ในสูตรนี้กันนะคะ:

  • REGU-AGE: เป็นสารสำคัญที่ออกแบบมาเพื่อดูแลปัญหาผิวรอบดวงตาโดยเฉพาะ จากข้อมูลพบว่าช่วยลดรอยคล้ำและอาการบวมใต้ตาได้ดี รวมถึงช่วยให้ผิวรอบดวงตากระชับแข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ ปริมาณ 5% ที่ใช้ในสูตรอยู่ในช่วงแนะนำเพื่อประสิทธิภาพที่ดีค่ะ
  • Vitamin B3 (Niacinamide): เป็นวิตามินที่มีประโยชน์หลากหลายต่อผิว รวมถึงช่วยลดรอยแดง/รอยดำ (hyperpigment) เพิ่มความชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเซราไมด์ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น และยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิต ซึ่งมีส่วนช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาที่เกิดจากการไหลเวียนไม่ดีได้ ปริมาณ 2% เป็นปริมาณที่เหมาะสมและอยู่ในช่วงที่แนะนำค่ะ
  • NAG (Acetyl Glucosamine): ทำงานเสริมกับ Vitamin B3 ได้ดีในการช่วยให้ผิวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ และยังช่วยกระตุ้นการสร้าง Hyaluronic Acid ตามธรรมชาติในผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ ปริมาณ 4% ที่ใช้ก็อยู่ในช่วงแนะนำเมื่อใช้ร่วมกับ Niacinamide ค่ะ
  • Hyaluronic Acid (Standard Molecule และ Nano Molecule): การใช้ Hyaluronic Acid สองขนาดโมเลกุลเป็นสิ่งที่ดีค่ะ โดยโมเลกุลมาตรฐานจะช่วยให้ความชุ่มชื้นบริเวณผิวชั้นนอกและช่วยสร้างเนื้อเซรั่ม/เจลบางๆ ส่วนโมเลกุลนาโนจะซึมซาบลงสู่ผิวได้ลึกกว่า ช่วยให้ความชุ่มชื้นในระดับลึกและมีคุณสมบัติ Anti-aging ปริมาณรวม 1% (0.5% Standard + 0.5% Nano) เป็นปริมาณที่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีค่ะ
  • Butylene Glycol: ทำหน้าที่เป็น Humectant ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และเป็นตัวทำละลายที่ดีในสูตรค่ะ ปริมาณ 10% เป็นปริมาณที่นิยมใช้ในสูตรเซรั่มค่ะ

ข้อควรพิจารณาและคำแนะนำเพิ่มเติม:

  1. ความเข้ากันได้ของสารกันเสีย (Eye Preserved) กับ Hyaluronic Acid: จากข้อมูลของ Eye Preserved (Polyhexamethylene Biguanide, PHMB) ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ไม่เข้ากัน (incompatible) กับสารกลุ่ม Anion ทุกชนิด รวมถึง Hyaluronic Acid ทุกชนิดด้วยค่ะ การใช้ Eye Preserved ในสูตรที่มี Hyaluronic Acid จะทำให้สูตรไม่คงตัว อาจเกิดการตกตะกอน หรือทำให้ประสิทธิภาพของสารลดลงได้ค่ะ จำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้สารกันเสียชนิดอื่นที่เข้ากันได้กับ Hyaluronic Acid เช่น Phenoxyethanol หรือสารกันเสียกลุ่มอื่นที่ระบุว่าเข้ากันได้กับสารกลุ่ม Anion ค่ะ
  2. ขั้นตอนการผสม: ขั้นตอนการผสมที่คุณระบุมามีบางจุดที่ควรปรับเปลี่ยนเพื่อให้สารสำคัญทำงานได้เต็มที่และสูตรมีความคงตัวค่ะ
    • Hyaluronic Acid ชนิดผง (ทั้ง Standard และ Nano) ควรนำไปละลายในน้ำก่อนเป็นอันดับแรก และต้องใช้เวลาในการ Hydrate ให้ผงละลายจนหมดและขึ้นเนื้อเจลใส ซึ่งอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงในตู้เย็น หรือใช้เครื่องปั่นความเร็วสูงช่วยค่ะ การเขย่าแรงๆ อาจทำให้เกิดฟองและผงละลายไม่หมดได้
    • สารที่ละลายน้ำได้ดีและทนความร้อนได้ เช่น Vitamin B3, NAG, Butylene Glycol สามารถผสมในน้ำพร้อมกับ Hyaluronic Acid ในขั้นตอนแรกได้เลยค่ะ
    • REGU-AGE ควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายหลังจากที่ส่วนผสมอื่นๆ เข้ากันดีแล้วและอุณหภูมิของสูตรเย็นลง (ต่ำกว่า 40°C) เนื่องจากเป็นสารที่ไม่ทนความร้อนสูงค่ะ
    • สารกันเสีย (ชนิดที่เข้ากันได้กับ Hyaluronic Acid) ควรเติมในขั้นตอนสุดท้ายเช่นกันค่ะ
  3. การปรับเนื้อให้เป็นเจล: ตามคำแนะนำของคุณครู C7 การปรับเนื้อให้เป็นเจลจะช่วยให้ใช้ง่ายขึ้นค่ะ สูตรปัจจุบันที่มี Hyaluronic Acid รวม 1% อาจได้เนื้อเซรั่มที่ค่อนข้างเหลว หากต้องการให้เป็นเนื้อเจลมากขึ้น สามารถเพิ่มปริมาณ Hyaluronic Acid ได้อีกเล็กน้อย (แต่อย่าให้เกินปริมาณที่แนะนำรวมกัน) หรือพิจารณาใช้สารสร้างเนื้อเจล (Gel Maker) ที่เข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ ในสูตร (โดยเฉพาะสารกันเสียชนิดใหม่ที่คุณจะเลือกใช้) เช่น สารสร้างเนื้อเจลกลุ่มที่ทนต่อ Electrolyte ได้ดีค่ะ

สรุปคำแนะนำ:

สูตรที่คุณคิดมามีส่วนผสมที่ดีและตรงตามคุณสมบัติที่ต้องการค่ะ แต่มีข้อผิดพลาดสำคัญเรื่องความเข้ากันไม่ได้ของสารกันเสีย Eye Preserved กับ Hyaluronic Acid ซึ่งต้องแก้ไขโดยการเปลี่ยนไปใช้สารกันเสียที่เข้ากันได้ และควรปรับลำดับขั้นตอนการผสมเพื่อให้ Hyaluronic Acid ละลายได้สมบูรณ์และสารสำคัญอื่นๆ ยังคงประสิทธิภาพค่ะ หากต้องการเนื้อเจล สามารถพิจารณาเพิ่ม Hyaluronic Acid หรือใช้สารสร้างเนื้อเจลที่เหมาะสมค่ะ

ตัวอย่างลำดับการผสมที่แนะนำ (เมื่อเปลี่ยนสารกันเสียแล้ว):

  1. นำ Hyaluronic Acid Standard และ Nano ละลายในน้ำสะอาด (ส่วนของน้ำทั้งหมด) คนหรือปั่นให้กระจายตัว นำไปแช่เย็นทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมงหรือจนกว่าผงจะละลายหมดและได้เนื้อเจลใส
  2. เมื่อ Hyaluronic Acid ละลายหมดแล้ว เติม Butylene Glycol, Vitamin B3, และ NAG ลงไป คนให้เข้ากัน
  3. เติมสารกันเสียที่เข้ากันได้กับ Hyaluronic Acid ลงไป คนให้เข้ากัน
  4. เมื่ออุณหภูมิของสูตรเย็นลง (ต่ำกว่า 40°C) เติม REGU-AGE ลงไป คนเบาๆ ให้เข้ากัน
  5. หากใช้สารสร้างเนื้อเจล ให้เติมตามคำแนะนำการใช้ของสารนั้นๆ ในขั้นตอนที่เหมาะสม

หวังว่าคำแนะนำนี้จะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงสูตร Eye Serum ของคุณนะคะ!

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Standard Molecule)
Hyaluronic Acid (Standard Molecule)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
REGU®-AGE
REGU®-AGE
เครื่องสำอาง
Eye Preserved™ (Polyhexamethylene Biguanide, PHMB)
Eye Preserved™ (Polyhexamethylene Biguanide, PHMB)
เครื่องสำอาง
Hyaluronic Acid (Nano Molecule, 800daltons)
Hyaluronic Acid (Nano Molecule, 800daltons)
เครื่องสำอาง