การปรับค่า pH และการเพิ่ม L-Carnitine ในสูตรที่มีส่วนผสมออกฤทธิ์

ถามโดย: pee166 เมื่อ: December 06, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังพัฒนาสูตรเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Vitamin B3, N-Acetyl-D Glucosamine, Activated Resorcinol, และ Tranexamic Acid ครับ

  1. สูตรนี้จำเป็นต้องปรับค่า pH หรือไม่ครับ? หากจำเป็น ช่วง pH ที่เหมาะสมสำหรับสูตรนี้ ควรเป็นเท่าใด เมื่อพิจารณาส่วนผสมออกฤทธิ์เหล่านี้?
  2. สามารถเพิ่ม L-Carnitine ลงในสูตรนี้ได้ไหมครับ? อัตราการใช้ที่แนะนำคือเท่าใด และจะส่งผลต่อสูตรอย่างไรบ้าง (เช่น ค่า pH)?
  3. มีข้อควรพิจารณาด้านความเสถียรเพิ่มเติม หรือมีสารเติมแต่งใดที่แนะนำสำหรับสูตรประเภทนี้อีกไหมครับ?

คำตอบ

การปรับค่า pH ของสูตรและการเพิ่ม L-Carnitine

สำหรับสูตรและคำถามของคุณ:

การปรับค่า pH

ใช่ มีแนวโน้มว่าจำเป็นต้องมีการปรับค่า pH สำหรับสูตรนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมออกฤทธิ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดและมีความเสถียร ส่วนผสมหลักหลายชนิดของคุณมีช่วง pH ที่เหมาะสมเฉพาะตัว:

  • วิตามินบี 3 (Niacinamide): ทำงานได้ดีที่สุดในช่วง pH 4.0-7.0
  • N-Acetyl-D Glucosamine: ควรอยู่ในสูตรที่มี pH ระหว่าง 3-7
  • Activated Resorcinol: มีช่วง pH ที่เหมาะสมที่สุดคือ 4.5-5.5
  • Tranexamic Acid: ทำงานได้ดีในช่วง pH 3-8

เมื่อพิจารณาช่วง pH ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Activated Resorcinol (4.5-5.5) ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ไวต่อ pH มากที่สุดในกลุ่มส่วนผสมออกฤทธิ์ของคุณ แนะนำให้ตั้งเป้าหมาย pH สุดท้ายระหว่าง 4.5 ถึง 5.5 ช่วงนี้ยังอยู่ในช่วง pH ที่เหมาะสมสำหรับวิตามินบี 3, N-Acetyl-D Glucosamine และ Tranexamic Acid รวมถึง Light Cream Maker และ Phenoxyethanol ด้วย

ให้วัดค่า pH ของส่วนผสมสุดท้ายของคุณและปรับหากจำเป็น โดยใช้กรดเกรดเครื่องสำอางที่เหมาะสม (เช่น Citric Acid หรือ Lactic Acid) หรือเบส (เช่น Triethanolamine หรือ Sodium Hydroxide solution) ทีละน้อยจนกว่าจะได้ pH ที่ต้องการ

การเพิ่ม L-Carnitine

ใช่ คุณสามารถเพิ่ม L-Carnitine ลงในสูตรนี้ได้ L-Carnitine เป็นกรดอะมิโนที่ทราบกันดีว่าช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ควบคุมความมัน ให้ความชุ่มชื้น และอาจช่วยลดเซลลูไลท์ได้

อัตราการใช้ที่แนะนำสำหรับ L-Carnitine โดยทั่วไปคือ 1-5% การเพิ่มในปริมาณนี้ควรเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ ที่มีอยู่ของคุณ

ตามที่ระบุในการตอบกลับในฟอรัม ผง L-Carnitine มีความเป็นด่าง (pH ประมาณ 7.5-9.5 ที่ความเข้มข้น 3%) การเพิ่ม L-Carnitine จะทำให้ค่า pH ของสูตรสูงขึ้น ซึ่งยิ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการวัดและปรับค่า pH สุดท้ายให้อยู่ในช่วงที่แนะนำที่ 4.5-5.5 หลังจากเพิ่มส่วนผสมทั้งหมด รวมถึง L-Carnitine แล้ว

การเพิ่ม L-Carnitine ในความเข้มข้นที่เหมาะสมและตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายอยู่ในช่วงที่แนะนำ (4.5-5.5 ซึ่งอยู่ในช่วงที่เหมาะสมของ L-Carnitine คือ 3.5-8) โดยทั่วไปแล้วไม่ควรทำให้เกิดผลเสียที่สำคัญ และสามารถให้ประโยชน์เพิ่มเติมแก่สูตรของคุณได้

ข้อควรพิจารณาเพิ่มเติมเกี่ยวกับความเสถียร

จากคุณสมบัติของส่วนผสมของคุณ:

  • Activated Resorcinol และ Tranexamic Acid อาจมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนสีได้ แนะนำอย่างยิ่งให้เพิ่ม Disodium EDTA ที่ 0.2% และ ActiveProtec™ OX ที่ประมาณ 0.5-0.6% เพื่อช่วยป้องกันปัญหานี้
  • สูตรที่มี Activated Resorcinol และ Tranexamic Acid ควรเก็บให้ห่างจากแสง โดยควรบรรจุในภาชนะทึบแสง และเก็บไว้ในที่เย็นหรือตู้เย็นเพื่อความเสถียรในระยะยาว

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
Light Cream Maker™
Light Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
L-Carnitine (Carnitine)
L-Carnitine (Carnitine)
เครื่องสำอาง
Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol)
Activated Resorcinol™ (4-Butyl Resorcinol)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Lite (Isononyl Nonanoate)
LipidSoft™ Lite (Isononyl Nonanoate)
เครื่องสำอาง
Tranexamic Acid (Trans-White™)
Tranexamic Acid (Trans-White™)
เครื่องสำอาง
ActiveProtec™ OX
ActiveProtec™ OX
เครื่องสำอาง