การปรับค่า pH และความหนืดในสูตรเจลที่มี L-Carnitine, Sodium Lactate, Urea และ Sodium PCA

ถามโดย: nipatladac เมื่อ: October 11, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังพัฒนาสูตรเจลที่มีส่วนผสมของ L-Carnitine (3%), Sodium Lactate (3%), Urea (3%), Sodium PCA (3%), Lemon Oil และ Pro Polymer โดยมีค่า pH เป้าหมายที่ 5.5

  1. Sodium Lactate มีความเป็นกรดเพียงพอที่จะปรับค่า pH ให้เป็น 5.5 ได้หรือไม่ หรือยังจำเป็นต้องใช้ Lactic Acid หรือ Citric Acid เพิ่มเติม?
  2. การเติม Sodium Lactate, Urea และ Sodium PCA จะส่งผลต่อความหนืดของเจลที่ขึ้นเนื้อด้วย Pro Polymer อย่างไร?
  3. หน้าที่หลักของ Lemon Oil และ Sodium Lactate ในสูตรลักษณะนี้คืออะไร โดยเฉพาะในด้านการลดเซลลูไลท์และการให้ความชุ่มชื้น?

คำตอบ

ทำความเข้าใจค่า pH ในสูตรของคุณ

คุณกำลังสอบถามเกี่ยวกับผลกระทบของ Sodium Lactate ต่อค่า pH และความจำเป็นในการใช้ Lactic Acid เพื่อปรับค่า pH

  • Sodium Lactate: ตามที่ได้รับคำตอบถูกต้องแล้ว Sodium Lactate ไม่ใช่กรด แต่เป็นเกลือของ Lactic Acid และมีค่า pH ใกล้เคียงความเป็นกลาง โดยทั่วไปอยู่ในช่วง 6.5 ถึง 7.5 บทบาทหลักในสูตรของคุณที่ความเข้มข้น 3% คือเป็นสารให้ความชุ่มชื้น (Humectant) ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว แม้ว่า Sodium Lactate สามารถ ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวได้ที่ความเข้มข้นสูงกว่า 3% แต่หน้าที่หลักในระดับนี้คือการให้ความชุ่มชื้น
  • L-Carnitine: ข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ L-Carnitine ระบุว่ามีค่า pH อยู่ในช่วงประมาณ 7.5-9.5 และที่ความเข้มข้น 3% ค่า pH จะอยู่ที่ประมาณ 7.5 ถูกอธิบายว่าเป็นกรดอะมิโนที่ช่วยเร่งการผลัดเซลล์ผิวโดยไม่เป็นกรด ทำงานได้ดีในช่วง pH 6-7
  • ค่า pH เมื่อผสมกัน: เมื่อคุณรวม L-Carnitine (pH ~7.5) และ Sodium Lactate (pH ~6.5-7.5) เข้าด้วยกันในสูตร พร้อมกับส่วนผสมอื่นๆ ค่า pH เริ่มต้นของส่วนผสมมีแนวโน้มที่จะอยู่ในช่วงกลางถึงด่างเล็กน้อย ซึ่งน่าจะสูงกว่าค่า pH เป้าหมายของคุณที่ 5.5

ดังนั้น จากค่า pH ของ L-Carnitine และ Sodium Lactate คุณ ยังคงต้องใช้กรด เช่น Lactic Acid หรือ Citric Acid เพื่อลดค่า pH ของสูตรสุดท้ายของคุณให้ถึงค่าเป้าหมายที่ 5.5 ข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ L-Carnitine ยังแนะนำให้ใช้กรดเช่น citric acid หรือ lactic acid เพื่อปรับค่า pH ลงมาอยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิวคือ 4-7

ส่วนผสมอื่นๆ

  • Lemon Oil: คุณเข้าใจถูกต้องแล้วว่า Lemon Oil โดยทั่วไปเป็นน้ำมันหอมระเหย มักใช้เพื่อกลิ่นหอมและคุณสมบัติในการกระตุ้น ซึ่งบางคนเชื่อว่าสามารถช่วยเรื่องเซลลูไลท์ได้ แม้ว่า L-Carnitine จะเป็นที่รู้จักในด้านนี้มากกว่าก็ตาม
  • Urea และ Sodium PCA: การเพิ่ม Urea และ Sodium PCA เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการเสริมประสิทธิภาพการให้ความชุ่มชื้นของเจล ส่วนผสมเหล่านี้ร่วมกับ Sodium Lactate เป็นองค์ประกอบสำคัญของ Natural Moisturizing Factor (NMF) ในผิว และทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Pro Polymer และ Electrolytes: โปรดทราบว่าส่วนผสมที่มีอิเล็กโทรไลต์ เช่น Sodium Lactate และ Sodium PCA สามารถส่งผลต่อความหนืดของเจลที่ทำด้วย Pro Polymer ข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ Pro Polymer ระบุว่าอิเล็กโทรไลต์สามารถทำให้เนื้อเจลอ่อนลงได้ วิธีการผสมของคุณโดยการเติมส่วนผสมอื่นๆ ลงในเจลที่ขึ้นรูปไว้แล้วนั้นเหมาะสมแล้ว แต่คุณอาจพบว่าจำเป็นต้องปรับปริมาณ Pro Polymer หรือเพิ่มเล็กน้อยหลังจากใส่ Sodium Lactate และ Sodium PCA เพื่อให้ได้ความข้นของเจลตามที่คุณต้องการ

สรุปคือ Sodium Lactate ไม่ใช่กรดและให้ประโยชน์หลักในการให้ความชุ่มชื้นที่ 3% สูตรของคุณที่มี L-Carnitine และ Sodium Lactate มีแนวโน้มที่จะต้องปรับค่า pH ด้วยกรดเช่น Lactic Acid เพื่อให้ได้ค่า pH เป้าหมายที่ 5.5 การเพิ่ม Urea และ Sodium PCA จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้ความชุ่มชื้น แต่ควรระวังผลกระทบต่อความหนืดของเจล

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)
Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)
เครื่องสำอาง
Urea (High Purity, Cosmetics, Powder)
Urea (High Purity, Cosmetics, Powder)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol (Extra Pure)
Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง
Sodium PCA 50%
Sodium PCA 50%
เครื่องสำอาง
L-Carnitine (Carnitine)
L-Carnitine (Carnitine)
เครื่องสำอาง
Pro Polymer™ (Gel Maker)
Pro Polymer™ (Gel Maker)
เครื่องสำอาง
Lemon Oil (Peel, India, Sour)
Lemon Oil (Peel, India, Sour)
เครื่องสำอาง