การปรับค่า pH ในสูตรเซรั่มเพื่อความเสถียรและประสิทธิภาพ

ถามโดย: thaipppp เมื่อ: June 16, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

จากสูตรส่วนผสมดังต่อไปนี้ จำเป็นต้องมีการปรับค่า pH ในสูตรอีกไหมคะ?

  • Water (ส่วนที่เหลือ)
  • Disodium EDTA 0.2%
  • WaterLock™ 2%
  • Tranexamic Acid (Trans-White™) 3%
  • Active Resveratrol™ 5%
  • RETINAT™ (Starfish Extract) 1.6%
  • Reservoir-Tech (กักเก็บส่วนผสมใต้ผิว) 3%
  • BaicaVital™ (Scutellaria Baicalensis Extract) 1.5%
  • Luxury Cream Maker™ 3%
  • LipidSoft™ Moist 5%
  • Phenoxyethanol SA (Optiphen Plus) 1%

ต้องมีการปรับ pH ในสูตรอีกไหมคะ

คำตอบ

จากส่วนผสมในสูตรของคุณ โดยเฉพาะ Tranexamic Acid และระบบกันเสีย (Phenoxyethanol SA หรือที่รู้จักในชื่อ Optiphen Plus) แนะนำให้ปรับค่า pH ของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป

  • Tranexamic Acid: ส่วนผสมนี้มักจะมีความเสถียรและประสิทธิภาพสูงสุดในช่วง pH 5-8
  • Phenoxyethanol SA (Optiphen Plus): ระบบกันเสียนี้มีส่วนประกอบของ Sorbic Acid ซึ่งจะมีประสิทธิภาพดีขึ้นใน pH ที่ต่ำกว่า (ต่ำกว่า 6) โดยทั่วไปแล้ว Optiphen Plus มีช่วง pH ที่มีประสิทธิภาพอยู่ที่ 4-8

เมื่อพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ การปรับค่า pH ของสูตรให้อยู่ในช่วง 5.0-6.0 จะช่วยให้ส่วนผสมออกฤทธิ์มีความเสถียรและทำงานได้อย่างเต็มที่ รวมถึงระบบกันเสียมีประสิทธิภาพ

คุณควรตรวจสอบช่วง pH ที่แนะนำสำหรับ Luxury Cream Maker™ เพื่อให้แน่ใจว่าอิมัลชันมีความเสถียรที่ pH เป้าหมาย

ควรวัดค่า pH ของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเสมอและปรับตามความจำเป็นโดยใช้สารปรับ pH ที่เหมาะสม (เช่น สารละลาย Citric Acid หรือ Sodium Hydroxide) จนกว่าจะได้ค่า pH ที่ต้องการ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Disodium EDTA
Disodium EDTA
เครื่องสำอาง
WaterLock™ (Polyquaternium-51)
WaterLock™ (Polyquaternium-51)
เครื่องสำอาง
Luxury Cream Maker™
Luxury Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Moist (Triethylhexanoin)
LipidSoft™ Moist (Triethylhexanoin)
เครื่องสำอาง
BaicaVital™ (Scutellaria Baicalensis Extract)
BaicaVital™ (Scutellaria Baicalensis Extract)
เครื่องสำอาง
Tranexamic Acid (Trans-White™)
Tranexamic Acid (Trans-White™)
เครื่องสำอาง