การปรับปรุงทรีทเม้นท์ผมสำเร็จรูปด้วยการเพิ่มส่วนผสม
คำถาม
สอบถามวิธีการและข้อแนะนำในการปรับปรุงทรีทเม้นท์ผมสำเร็จรูปด้วยการเพิ่มส่วนผสมหลายชนิดตามขั้นตอนที่กำหนด รวมถึงการใช้ Heat Plex ในสูตร มีปัญหาหรือข้อควรปรับปรุงอย่างไรบ้าง?
คำตอบ
การใช้ HeatPlex™ ในสูตรของคุณ
จากข้อมูลเกี่ยวกับ HeatPlex™ (Cystine Bis-PG-Propyl Silanetriol) คุณสามารถใช้ส่วนผสมนี้ในสูตรของคุณได้ค่ะ
HeatPlex™ เป็นส่วนผสมที่ออกแบบมาเพื่อสร้างฟิล์มเคลือบเส้นผม ซึ่งจะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อได้รับความร้อนจากการจัดแต่งทรงผม เช่น การเป่าไดร์ เมื่อได้รับความร้อน จะเกิดการยึดเกาะกับโปรตีนในเส้นผม ช่วยบำรุงและเคลือบผมได้ยาวนานขึ้น (หลายวัน) หากไม่ใช้ความร้อนในการกระตุ้น ก็ยังคงเกาะติดผมได้ แต่จะอยู่ได้ไม่นานเท่า (ประสิทธิภาพจะหมดไปภายในประมาณ 1 วัน) ช่วยให้ผมอยู่ทรงและเพิ่มความเงางาม
HeatPlex™ สามารถละลายน้ำได้ และสามารถผสมลงในส่วนของน้ำได้โดยตรง ในขั้นตอนของคุณ คุณสามารถเพิ่ม HeatPlex™ พร้อมกับส่วนผสมที่เป็นของเหลวอื่นๆ (ข้อ 9-19) ที่คุณเติมลงในบีกเกอร์ที่ผสมทรีทเม้นท์ L'Oreal กับส่วนผสมที่เคี่ยวแล้วและเย็นลงแล้ว
อัตราส่วนการใช้ HeatPlex™ ที่แนะนำในครีมนวดผมและทรีทเม้นท์คือ 20-25% โดยมีช่วงการใช้งานทั่วไปที่ 5-30% คุณได้เพิ่ม Hair Plex (Bis-Aminopropyl Diglycol Dimaleate) 10 มล. และกำลังพิจารณาเพิ่ม Heat Plex เมื่อเพิ่ม Heat Plex ควรพิจารณาปริมาณรวมทั้งหมดของสูตรสุดท้ายของคุณ (ทรีทเม้นท์เดิม 100 มล. + ส่วนผสมทั้งหมดที่เพิ่มเข้าไป) เพื่อคำนวณเปอร์เซ็นต์ของ Heat Plex ที่คุณใส่ลงไป
ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสูตรโดยรวมของคุณ
การเพิ่มส่วนผสมหลายชนิดลงในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน ซึ่งอาจส่งผลต่อความคงตัวและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์สุดท้ายได้
- ความคงตัว: การนำส่วนผสมที่ผ่านความร้อนมาผสมกับอิมัลชันที่มีอยู่เดิม และจากนั้นยังเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ อีกจำนวนมาก อาจทำให้โครงสร้างอิมัลชันเดิมของทรีทเม้นท์ L'Oreal ไม่คงตัว และอาจเกิดการแยกชั้นได้เมื่อเวลาผ่านไป ปริมาณส่วนผสมที่เพิ่มเข้าไปจำนวนมากเมื่อเทียบกับปริมาณทรีทเม้นท์เดิมเป็นปัจจัยสำคัญในเรื่องนี้
- ความเข้ากันได้: แม้ว่าส่วนผสมที่คุณเลือกจะใช้กันทั่วไปในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม แต่การทำให้แน่ใจว่าส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันได้ดีระหว่างกันและเข้ากันได้กับส่วนประกอบในทรีทเม้นท์ L'Oreal สูตรเฉพาะนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ความไม่เข้ากันอาจทำให้เกิดการตกตะกอน ความขุ่น หรือลดประสิทธิภาพลงได้
- สารกันเสีย: คุณได้ใส่ Mild Preserved Eco ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น อย่างไรก็ตาม การเพิ่มส่วนผสมจำนวนมากและเพิ่มปริมาณรวมทั้งหมด จะทำให้ระบบสารกันเสียเดิมในผลิตภัณฑ์ L'Oreal เจือจางลง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปริมาณ Mild Preserved Eco เพียงพอสำหรับปริมาณรวมทั้งหมดและความซับซ้อนของส่วนผสมสุดท้ายของคุณ เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์
- ประสิทธิภาพ: การเพิ่มส่วนผสมที่มีประโยชน์หลายชนิดไม่ได้หมายความว่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นตามสัดส่วนเสมอไป ปฏิกิริยาระหว่างส่วนผสมและจุดอิ่มตัวของส่วนผสมบางชนิดอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพสุดท้ายได้
- เนื้อสัมผัส: เนื้อสัมผัสสุดท้ายอาจแตกต่างจากทรีทเม้นท์ L'Oreal เดิม เนื่องจากส่วนผสมที่เพิ่มเข้าไปและการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นกับความคงตัว
- วิธีการทำ: วิธีการของคุณในการเคี่ยวส่วนผสมบางส่วนแยกต่างหาก แล้วนำมาผสมกับอิมัลชันเดิม ต้องใช้ความระมัดระวังในการผสมและการทำให้เย็นลง เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายอิมัลชันที่มีอยู่ของทรีทเม้นท์ L'Oreal
คำแนะนำ:
- ทดลองทำในปริมาณน้อย: ควรเริ่มต้นด้วยการทำในปริมาณน้อยๆ ก่อนเสมอ (เช่น ใช้ทรีทเม้นท์ L'Oreal 10-20 มล.) เพื่อสังเกตว่าส่วนผสมเข้ากันได้ดีหรือไม่ เนื้อสัมผัสสุดท้ายเป็นอย่างไร และมีความคงตัวหรือไม่เมื่อเวลาผ่านไปหลายสัปดาห์
- ตรวจสอบค่า pH: ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม โดยเฉพาะครีมนวดผม มักจะทำงานได้ดีที่สุดในช่วง pH ที่เป็นกรดเล็กน้อย (โดยทั่วไปคือ pH 4-5) การเพิ่มส่วนผสมหลายชนิดอาจทำให้ค่า pH เปลี่ยนไป หากเป็นไปได้ ให้ตรวจสอบค่า pH ของส่วนผสมสุดท้ายของคุณ และปรับหากจำเป็น (อย่างระมัดระวัง โดยใช้สารละลายกรดเจือจาง เช่น กรดซิตริก ค่อยๆ เติมทีละหยด คนให้เข้ากัน แล้ววัดค่าซ้ำ)
- สังเกตความคงตัว: เก็บตัวอย่างที่ทดลองทำไว้ที่อุณหภูมิห้อง และสังเกตการเปลี่ยนแปลงในช่วงหลายสัปดาห์ เช่น การแยกชั้น การเปลี่ยนสีหรือกลิ่น หรือการเจริญเติบโตของเชื้อรา
- ศึกษาอัตราส่วนการใช้ส่วนผสม: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าความเข้มข้นของส่วนผสมที่คุณเพิ่มเข้าไปอยู่ในช่วงที่แนะนำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ โดยไม่ก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ เช่น การสะสมบนเส้นผม หรือความเหนอะหนะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

HairPLEX™ (Bis-Aminopropyl Diglycol Dimaleate)
