การปรับปรุงสูตรครีมทาส้นเท้าแตก

ถามโดย: piyanat_th เมื่อ: November 03, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังพัฒนาสูตรครีมสำหรับส้นเท้าแตก ต้องการให้ได้เนื้อสัมผัสที่ข้นเหมือนบัตเตอร์ค่ะ มีแผนจะใช้วัตถุดิบเช่น Papaya Enzyme, shea butter, Sweet Almond Oil, Disodium EDTA, Butter Cream Maker, Phenoxyethanol SA, Sodium Lactate และ Cetearyl Alcohol รบกวนแนะนำสัดส่วนที่เหมาะสมสำหรับวัตถุดิบเหล่านี้หน่อยค่ะ โดยคำนึงถึงผิวส้นเท้าที่หนา (โดยเฉพาะ Papaya Enzyme) และวิธีทำให้เนื้อไม่เหนอะหนะ (เกี่ยวกับ shea butter) นอกจากนี้ Disodium EDTA จำเป็นสำหรับความเสถียรในสูตรลักษณะนี้หรือไม่คะ?

คำตอบ

หัวข้อ: การตรวจสอบสูตรครีมทาส้นเท้าแตก

เกี่ยวกับสูตรครีมทาส้นเท้าแตกและคำถามของคุณค่ะ

ทางทีมงานได้ตรวจสอบสูตรของคุณและได้แนะนำสูตรที่ปรับปรุงแล้วเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของส้นเท้าแตกและเพื่อให้ได้เนื้อครีมที่ข้นคล้ายเนยมากขึ้นค่ะ

สรุปคำแนะนำของทีมงานและเหตุผลในการปรับปรุงมีดังนี้ค่ะ:

สูตรที่ปรับปรุง: ทีมงานได้แนะนำสูตรที่มีส่วนประกอบดังนี้ค่ะ:
- Papaya Enzyme (2.0%) - เพิ่มปริมาณขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากผิวบริเวณส้นเท้าจะหนากว่า
- shea butter (10%) - ลดปริมาณลงเพื่อไม่ให้เหนอะหนะเกินไป
- Sweet Almond Oil (4%)
- Disodium EDTA (0.2%)
- Butter Cream Maker (4%)
- Phenoxyethanol SA (1%)
- Sodium Lactate (7%) - เพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยในการผลัดเซลล์ผิวและให้ความชุ่มชื้น ซึ่งเหมาะสำหรับส้นเท้าแตกค่ะ
- Cetearyl Alcohol (5%) - เพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยให้เนื้อครีมข้นตัวมากขึ้น ให้ได้ลักษณะคล้ายเนยตามที่ต้องการค่ะ
- Water (ส่วนที่เหลือ)
ความเหมาะสมและเนื้อครีม: สูตรที่ปรับปรุงถือว่าเหมาะสมกับส้นเท้าแตกมากกว่า เนื่องจากมีการปรับระดับ Papaya Enzyme และเพิ่ม Sodium Lactate การเพิ่ม Cetearyl Alcohol มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้เนื้อครีมที่ข้นคล้ายเนยโดยเฉพาะ ซึ่งหากไม่ใส่ ส่วนผสมอาจมีลักษณะกึ่งเหลวคล้ายโลชั่นค่ะ
การไม่ใส่ Disodium EDTA: ทีมงานได้ใส่ Disodium EDTA ไว้ในสูตรที่แนะนำค่ะ แม้จะไม่ได้ระบุชัดเจนว่าไม่สามารถตัดออกได้หรือไม่ แต่ Disodium EDTA ทำหน้าที่เป็นสารคีเลต (chelating agent) ช่วยเพิ่มความเสถียรของสูตรและป้องกันปัญหาที่เกิดจากไอออนโลหะต่างๆ ดังนั้น โดยทั่วไปจึงแนะนำให้ใส่ไว้เพื่อความคงตัวและอายุการใช้งานของสูตรค่ะ