การปรับปรุงสูตรเซรั่ม: การควบคุมกลิ่นและการเพิ่มความชุ่มชื้น

ถามโดย: itsoat เมื่อ: July 09, 2018 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ฉันได้พัฒนาสูตรเซรั่มโดยใช้ส่วนผสมดังนี้:

  • Acetyl Hexapeptide-8
  • DMAE
  • Double Hyaluron Liquid

เซรั่มมีกลิ่นแรงและรู้สึกแห้งตึงบนผิว ทำให้ต้องทาออยล์ตามเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น

ฉันจะสามารถจัดการกับกลิ่นแรงและปรับปรุงคุณสมบัติการให้ความชุ่มชื้นของสูตรเซรั่มนี้ได้อย่างไร?

คำตอบ

การปรับปรุงสูตรเซรั่มของคุณ

ดูเหมือนว่าคุณได้สร้างเซรั่มบำรุงผิวหน้าเพื่อลดเลือนริ้วรอยและเพิ่มความชุ่มชื้น โดยใช้ Acetyl Hexapeptide-8, DMAE และ Double Hyaluron Liquid การทำสูตรใช้เองอาจพบปัญหาทั่วไป เช่น กลิ่นแรง หรือความรู้สึกบนผิว

นี่คือคำแนะนำบางส่วนจากข้อมูลผลิตภัณฑ์:

การจัดการกับกลิ่นที่แรง

ส่วนผสมออกฤทธิ์บางชนิดอาจมีกลิ่นที่ชัดเจน คุณมีสองทางเลือกในการจัดการกับปัญหานี้:

  • การใช้สารดูดซับกลิ่น: คุณสามารถเพิ่มส่วนผสมอย่าง Odor-Kill™ ลงในสูตรของคุณได้ สารนี้จะช่วยดูดซับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์จากส่วนผสมต่างๆ อัตราการใช้ที่แนะนำโดยทั่วไปจะต่ำ ประมาณ 0.3-0.5%
  • การใช้น้ำหอม: หากคุณต้องการเพิ่มกลิ่นหอมที่น่าใช้ คุณสามารถใส่น้ำหอมได้ เนื่องจากเซรั่มของคุณน่าจะมีเบสเป็นน้ำ (จากส่วนผสมที่ใช้) คุณจะต้องใช้สารช่วยละลาย (solubilizer) เพื่อช่วยให้น้ำหอมซึ่งเป็นส่วนของน้ำมันกระจายตัวเข้ากับเบสที่เป็นน้ำได้อย่างเหมาะสม Flora Solve™ Clear ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์นี้โดยเฉพาะ คุณจะต้องผสมน้ำหอมกับ Flora Solve™ Clear ก่อน (โดยทั่วไปใช้อัตราส่วน Flora Solve™ Clear 2-5 ส่วน ต่อน้ำหอม 1 ส่วน) ก่อนที่จะนำส่วนผสมนี้ไปเติมลงในสูตรเซรั่มหลักของคุณ

ข้อควรทราบที่สำคัญ: จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ Odor-Kill™ สามารถดูดซับกลิ่นน้ำหอมได้เช่นกัน ดังนั้น โดยทั่วไป ไม่ควร ใช้ทั้ง Odor-Kill™ และน้ำหอมในสูตรเดียวกัน หากคุณต้องการให้สูตรมีกลิ่นหอม เลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่งในการจัดการกับกลิ่น

การเพิ่มความชุ่มชื้น

คุณกล่าวว่าเซรั่มรู้สึกไม่ค่อยให้ความชุ่มชื้นและต้องทาออยล์ตาม เพื่อให้เซรั่มมีความชุ่มชื้นมากขึ้นในตัวมันเอง ลองพิจารณาการเพิ่มส่วนผสมเหล่านี้:

  • เพิ่มปริมาณ Double Hyaluron Liquid: Double Hyaluron Liquid มีไฮยาลูรอนทั้งขนาดมาตรฐานและนาโน ซึ่งช่วยให้ความชุ่มชื้นในระดับความลึกที่แตกต่างกันของผิว หากคุณยังไม่ได้ใช้ในความเข้มข้นสูง คุณสามารถลองเพิ่มปริมาณได้ สำหรับผิวที่แห้งมาก แนะนำให้ใช้ความเข้มข้นที่ 10-20%
  • เพิ่ม Emollient หรือน้ำมัน: เพื่อสร้างชั้นเคลือบผิวที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและลดความแห้งกร้าน คุณสามารถเพิ่มน้ำมันหรือ emollient ลงในสูตรของคุณได้ เนื่องจากเบสของคุณน่าจะเป็นเบสที่เป็นน้ำ คุณจะต้องใช้สารประสานน้ำ-น้ำมัน (emulsifier) เพื่อสร้างครีมหรือโลชั่นที่คงตัวซึ่งมีทั้งส่วนของน้ำและน้ำมัน หากคุณต้องการให้เป็นเซรั่มแต่เพิ่มความรู้สึกแบบออยล์ คุณอาจต้องใช้สารช่วยละลายที่เหมาะสม หรือพิจารณาใช้เบสประเภทอื่น ตัวอย่างของน้ำมันหรือ emollient ที่สามารถเพิ่มความเข้มข้นและความรู้สึกเคลือบผิวได้แก่ Jojoba Oil, Olive Oil หรือ Ester สังเคราะห์อย่าง LipidSoft™ Film LipidSoft™ Film มีคุณสมบัติเด่นในการเคลือบผิวได้ดี และมักใช้ในสูตรที่ต้องการความเข้มข้นสูง

การปรับปริมาณ Double Hyaluron Liquid และอาจเพิ่มน้ำมันหรือ emollient ที่เหมาะสมพร้อมกับ emulsifier (หากทำเป็นครีม/โลชั่น) จะช่วยปรับปรุงคุณสมบัติการให้ความชุ่มชื้นของเซรั่มของคุณได้

โปรดจำไว้ว่าควรทดสอบสูตรใหม่บนพื้นที่เล็กๆ ของผิวก่อนเสมอ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)
Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)
เครื่องสำอาง
Olive Oil (Extra Virgin)
Olive Oil (Extra Virgin)
เครื่องสำอาง
Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
เครื่องสำอาง
Double Hyaluron Liquid
Double Hyaluron Liquid
เครื่องสำอาง
Lift-Now™
Lift-Now™
เครื่องสำอาง
DMAE (SkinTight MD™) Liquid
DMAE (SkinTight MD™) Liquid
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Film (Tridecyl Trimellitate)
LipidSoft™ Film (Tridecyl Trimellitate)
เครื่องสำอาง
Odor-Kill™
Odor-Kill™
เครื่องสำอาง