การปรับปรุงและข้อเสนอแนะสำหรับสูตร

สูตรของคุณมีส่วนประกอบที่ดีหลายอย่างสำหรับการดูแลเส้นผม โดยเน้นความอ่อนโยนและการบำรุง

• Lauryl Glucoside (ID 177) และ Coco-Betaine (ID 126075) เป็นสารลดแรงตึงผิวแบบอ่อนโยน Lauryl Glucoside เป็นชนิดไม่มีประจุและอ่อนโยนมาก แต่ไม่สร้างฟองได้ดีด้วยตัวเอง ส่วน Coco-Betaine เป็นชนิดซวิตเตอร์ไอออนิก ช่วยเสริมฟองและเป็นสารลดแรงตึงผิวรอง เพิ่มความอ่อนโยนและการปรับสภาพเส้นผม
• WaterLock™ (ID 258) เป็นโพลิเมอร์ปรับสภาพเส้นผมที่ช่วยให้ผมคงความชุ่มชื้นและให้สัมผัสที่เรียบลื่น
• SiliWater™ (ID 525) เป็นซิลิโคนชนิดละลายน้ำได้ ช่วยเพิ่มความนุ่ม เงางาม และช่วยให้ผมไม่พันกันโดยไม่สะสมบนเส้นผมมากนัก
• Vitamin B5 (Panthenol) (ID 6873) ดีเยี่ยมในการให้ความชุ่มชื้นและเสริมความแข็งแรงให้เส้นผม ซึ่งช่วยลดการขาดหลุดร่วงและผมแตกปลาย
• Natural Moisturizing Amino Acids (ID 214) ให้ความชุ่มชื้นและช่วยปรับปรุงโครงสร้างเส้นผม
• Hydro Protein (Hydrolyzed Silk Protein) (ID 995) ช่วยเสริมความแข็งแรงให้เส้นผมและปรับปรุงเนื้อสัมผัส ลดการขาดหลุดร่วงและให้สัมผัสที่เรียบเนียนขึ้น

นี่คือข้อควรพิจารณาและการปรับเปลี่ยนที่อาจทำได้:

1. น้ำหอม: ความเข้มข้น 4% สูงมากสำหรับแชมพู โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีหนังศีรษะที่บอบบางหรือผมขาดหลุดร่วงง่าย น้ำหอมความเข้มข้นสูงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ แนะนำอย่างยิ่งให้ลดความเข้มข้นของน้ำหอมลงอย่างมาก โดยทั่วไปควรใช้ที่ 0.5-1% ในแชมพู
2. ความเข้มข้นของ Coco-Betaine: ความคิดเห็นในฟอรัมแนะนำให้ลด Coco-Betaine จาก 20% เหลือ 10% แม้ว่า 20% จะค่อนข้างสูงสำหรับ Coco-Betaine ในฐานะสารลดแรงตึงผิวรอง แต่การลดลงจะทำให้ฟองน้อยลงไปอีก เมื่อพิจารณาถึงความกังวลของคุณเรื่องฟองน้อย คุณอาจคงความเข้มข้นไว้สูงกว่า 10% แต่ 15% อาจเป็นจุดที่สมดุลระหว่างความอ่อนโยน ฟอง และต้นทุน ความเข้มข้นรวมของสารลดแรงตึงผิว (Lauryl Glucoside + Coco-Betaine) เป็นปัจจัยสำคัญในการทำความสะอาดและสร้างฟอง
3. สารเพิ่มความข้น: ตามที่ระบุไว้ สูตรจะเหลวมากหากไม่มีสารเพิ่มความข้น จำเป็นต้องเพิ่มสารเพิ่มความข้นที่เหมาะสมสำหรับระบบสารลดแรงตึงผิว เช่น SugarThick™ (ID 510) เพื่อให้ได้เนื้อแชมพูที่ใช้งานได้ เริ่มต้นที่ 1-3% และปรับตามความต้องการ
4. สารกันเสีย: จำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องเติมสารกันเสียลงในผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เช่น แชมพู เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อรา ซึ่งอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสียและเป็นอันตรายได้ สูตรของคุณ ต้อง มีสารกันเสีย พิจารณาสารกันเสียแบบ Broad-spectrum เช่น Mild Preserved Eco™ (ID 1001) ที่ 1.0-1.5% หรือ Mild Preserved™ COS (ID 33939) ที่ 0.75-1.5%

ลำดับการผสมที่แนะนำ

ลำดับการผสมทั่วไปสำหรับสูตรแชมพูลักษณะนี้คือ:

1. เติมน้ำลงในภาชนะผสม
2. ค่อยๆ เติม Lauryl Glucoside (ID 177) ลงในน้ำพร้อมคนเบาๆ Lauryl Glucoside มีความหนืดและเป็นด่าง การคนเบาๆ สำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดฟองมากเกินไปและช่วยให้กระจายตัวได้ดี การอุ่นเล็กน้อย (ประมาณ 50-60°C) ก่อนเติมจะช่วยให้ผสมง่ายขึ้น แต่หลีกเลี่ยงการอุ่นส่วนผสมหลักให้ร้อนเกินไป
3. ค่อยๆ เติม Coco-Betaine (ID 126075) ลงในส่วนผสม คนเบาๆ ต่อไป
4. เติมส่วนผสมที่ละลายน้ำได้: WaterLock™ (ID 258), SiliWater™ (ID 525), Vitamin B5 (ID 6873), Natural Moisturizing Amino Acids (ID 214), และ Hydrolyzed Silk Protein (ID 995) คนเบาๆ จนละลายหมด
5. ในภาชนะเล็กๆ แยกต่างหาก ผสม น้ำหอม กับ Flora Solve™ Clear (ID 718) ใช้ Flora Solve™ Clear 2-3 ส่วน ต่อน้ำหอม 1 ส่วน คนให้เข้ากันจนน้ำหอมละลายหมดและส่วนผสมใส
6. เติมส่วนผสมน้ำหอมที่ละลายแล้วลงในส่วนผสมหลัก คนเบาๆ ให้เข้ากัน
7. ปรับค่า pH ของสูตร Lauryl Glucoside มีค่า pH สูง และค่า pH สุดท้ายของแชมพูควรอยู่ที่ประมาณ 5.0-6.5 เพื่อสุขภาพผมและความอ่อนโยน รวมถึงประสิทธิภาพสูงสุดของส่วนผสมบางชนิดและสารกันเสีย ใช้กรดที่เหมาะสม เช่น สารละลาย Citric Acid หรือ Lactic Acid ค่อยๆ เติมและตรวจสอบค่า pH ด้วยเครื่องวัด pH หรือกระดาษวัด pH จนกว่าจะได้ค่าที่ต้องการ
8. เติมสารเพิ่มความข้น SugarThick™ (ID 510) สามารถเติมลงไปตรงๆ แล้วคนเบาๆ หรืออุ่นเล็กน้อยก่อนเพื่อให้ใช้งานง่ายขึ้น ค่อยๆ เติมพร้อมคนจนกว่าจะได้ความหนืดที่ต้องการ หลีกเลี่ยงการคนแรงเกินไป
9. เติม สารกันเสีย (เช่น Mild Preserved Eco™ ID 1001 หรือ Mild Preserved™ COS ID 33939) คนเบาๆ ให้เข้ากัน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุณหภูมิเหมาะสมกับสารกันเสียที่เลือก (ต่ำกว่า 80°C สำหรับ Mild Preserved Eco™, ต่ำกว่า 45°C สำหรับ Mild Preserved COS)

การแก้ไขปัญหาฟองน้อย

คุณกล่าวว่าแชมพูที่ผสมออกมาแล้วมีฟองไม่มากนัก ซึ่งน่าจะเกิดจากการเลือกชนิดและความเข้มข้นของสารลดแรงตึงผิว:

• Lauryl Glucoside (ID 177) เป็นที่ทราบกันดีว่าอ่อนโยนมาก แต่มีคุณสมบัติในการสร้างฟองต่ำ
• Coco-Betaine (ID 126075) เป็นสารเสริมฟอง แต่ไม่ได้ให้ฟองหลักในการทำความสะอาดเหมือนสารลดแรงตึงผิวประจุลบ (เช่น SLS, SLES, Sodium Cocoyl Isethionate)
• สูตรของคุณส่วนใหญ่ใช้สารลดแรงตึงผิวชนิดอ่อนโยน ไม่มีประจุและซวิตเตอร์ไอออนิก ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วจะสร้างฟองได้น้อยกว่าเมื่อเทียบกับสูตรที่ใช้ซัลเฟตหรือสารลดแรงตึงผิวประจุลบที่แรงกว่า

เพื่อปรับปรุงฟองในขณะที่ยังคงความอ่อนโยนของสูตรไว้ คุณอาจพิจารณา:

• ตรวจสอบค่า pH: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายอยู่ในช่วงที่แนะนำ (5.0-6.5) ค่า pH มีผลต่อประสิทธิภาพของสารลดแรงตึงผิว รวมถึงฟอง
• เพิ่มสารเสริมฟอง/สารช่วยให้ฟองคงตัว: คุณอาจลองเพิ่มสารลดแรงตึงผิวร่วมชนิดอ่อนโยนอื่นๆ ที่ช่วยเสริมฟองได้ เช่น Decyl Glucoside หรือ Coco Glucoside (หากเข้ากันได้และต้องการ) หรือสารช่วยให้ฟองคงตัวแบบดั้งเดิม เช่น Cocamide MEA (ตรวจสอบความเข้ากันได้และข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ) อย่างไรก็ตาม การเพิ่มส่วนผสมมากขึ้นจะทำให้สูตรซับซ้อนขึ้น
• ยอมรับฟองที่อ่อนโยนกว่า: แชมพูสูตรอ่อนโยนมักจะมีฟองน้อยหรือไม่คงตัวเท่าแชมพูทั่วไป ความอ่อนโยนเป็นสิ่งที่ต้องแลกมากับฟองที่น้อยลง หากความอ่อนโยนเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก (โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับปัญหาผมขาดหลุดร่วง) ระดับฟองปัจจุบันอาจเป็นที่ยอมรับได้
• เทคนิคการผสม: หลีกเลี่ยงการคนแรงๆ ในระหว่างการเตรียม เพราะอาจทำให้เกิดฟองอากาศขนาดใหญ่และไม่คงตัวในตอนแรก ซึ่งจะยุบตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้รู้สึกว่าฟองน้อยในระหว่างใช้งาน การคนเบาๆ จะดีกว่า

โดยสรุป สูตรของคุณมีส่วนผสมที่ดีสำหรับการบำรุงผมเส้นเล็กที่ขาดหลุดร่วงง่าย การปรับเปลี่ยนที่สำคัญคือการลดน้ำหอม การเพิ่มสารเพิ่มความข้น และการเพิ่มสารกันเสียเพื่อความปลอดภัย ฟองที่น้อยเป็นสิ่งที่คาดหวังได้จากสารลดแรงตึงผิวชนิดอ่อนโยนเหล่านี้ แต่การตรวจสอบค่า pH ที่ถูกต้องและการคนเบาๆ สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้