การปรับปรุงสูตรโพเมดทำเอง: เนื้อสัมผัส การล้างออก และความเงางาม

ถามโดย: xchai_1 เมื่อ: July 21, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ผมได้ลองทำโพเมดใส่ผมโดยใช้สูตรดังนี้:

  • Beeswax: 43%
  • Cocoa Butter: 4%
  • Shea Butter: 13%
  • Olive Oil: 39%
  • Essential oil: ประมาณ 10 หยด (ปริมาณน้อยมาก)

ผลที่ได้คือ เนื้อโพเมดแข็งตัวดีในอุณหภูมิห้อง ละลายเวลาเจออุณหภูมิจากมือ พอถูแล้วก็ละลายได้ง่าย แต่ผมกังวลว่าถ้าใช้งานจริงโดนแดดร้อนๆ มันจะละลายทำให้เยิ้มไหมครับ พอละลายแล้วมันมากๆ ทำให้คิดว่าน่าจะเงามากด้วย (ยังไม่ได้ลองใช้เต็มที่) และล้างออกยาก

ผมอยากให้โพเมดมีคุณสมบัติดังนี้:

  • เงางามน้อยกว่านี้
  • ล้างออกได้ง่ายกว่านี้
  • ยังคงความอยู่ทรง
  • มีเนื้อออกไปทางเจลนิดนึงเพื่อให้ควักมาใช้ได้ง่ายขึ้น

สามารถทำได้ไหมครับ?

นอกจากนี้ ผมมีคำถามเพิ่มเติม:

  • ผมคิดจะสลับอัตราส่วนระหว่าง Shea Butter กับ Cocoa Butter (เช่น เพิ่ม Cocoa Butter เป็น 13% และลด Shea Butter เป็น 4%) จะให้ผลต่างกันอย่างไรบ้างครับ?
  • ผมคิดว่าอาจจะใช้ Coconut Butter หรือ Fractionated Coconut Oil เพิ่มด้วย ช่วยแนะนำทีครับว่าแบบไหนถึงจะเหมาะกับเป้าหมายของผม และจะส่งผลต่อสูตรอย่างไร?
  • เรื่องกลิ่น ผมกลัวใส่เยอะแล้วจะฉุน (กลิ่น lemon) เลยใส่น้อย ถ้าใส่เยอะกว่านี้ จะมีผลกับเนื้อโพเมดด้วยไหมครับ?

คำตอบ

คำแนะนำในการปรับปรุงสูตรโพเมด

จากสูตรโพเมดปัจจุบันและการสังเกตของคุณ นี่คือการวิเคราะห์และข้อเสนอแนะเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่เงางามน้อยลง ล้างออกง่ายขึ้น และมีความเป็นเจลเล็กน้อยในขณะที่ยังคงความอยู่ทรง

สูตรปัจจุบันของคุณใช้ขี้ผึ้งและน้ำมันในสัดส่วนที่สูง ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมเนื้อโพเมดถึงแข็งตัวที่อุณหภูมิห้อง ละลายเมื่อเจอความร้อนจากมือ รู้สึกมันเยิ้ม/เงางาม และล้างออกยาก ปริมาณขี้ผึ้งที่สูงช่วยให้โครงสร้างอยู่ทรงแต่ก็ทำให้เนื้อแข็ง ในขณะที่น้ำมันมะกอกมีส่วนสำคัญที่ทำให้รู้สึกมันและเงางาม

การบรรลุเป้าหมายของคุณ

  • ล้างออกง่ายขึ้น: ในการทำให้โพเมดล้างออกง่ายด้วยน้ำ คุณจำเป็นต้องใส่อิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) เข้าไป อิมัลซิไฟเออร์ช่วยให้น้ำมันและน้ำผสมกันได้ ทำให้สามารถล้างน้ำมันและขี้ผึ้งออกได้ง่ายขึ้น ผลิตภัณฑ์อย่าง Oilsify 15 หรือ Oilsify Eco ถูกออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์นี้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแบบน้ำมัน และสามารถพิจารณาใช้ในสูตรโพเมดได้ การเพิ่มอิมัลซิไฟเออร์จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของโพเมดกับน้ำโดยพื้นฐาน

  • เงางามน้อยลง/มันน้อยลง: สัดส่วนของน้ำมันมะกอกที่สูง (39%) มีแนวโน้มที่จะเป็นสาเหตุหลักของความเงางามและความรู้สึกมันเยิ้ม การลดปริมาณน้ำมันหนักๆ อย่างน้ำมันมะกอก และอาจแทนที่บางส่วนด้วยน้ำมันที่เบาลง เช่น Fractionated Coconut Oil สามารถช่วยลดความรู้สึกมันและความเงางามได้

  • เนื้อสัมผัสเป็นเจลมากขึ้น/ตักง่ายขึ้น: ปริมาณขี้ผึ้งของคุณที่สูง (43%) ทำให้โพเมดค่อนข้างแข็ง ในการทำให้เนื้อสัมผัสอ่อนนุ่มขึ้น มีความเป็นเจลเล็กน้อย และตักง่ายขึ้น คุณสามารถลดสัดส่วนของขี้ผึ้งลงได้ การเพิ่มสัดส่วนของบัตเตอร์ที่นุ่มกว่าอย่าง Shea Butter เมื่อเทียบกับขี้ผึ้งก็สามารถช่วยให้เนื้อนุ่มขึ้นได้ แม้ว่าคุณจะกล่าวถึง Fractionated Coconut Oil Gel แต่โดยทั่วไปแล้วนี่คือเบสสำเร็จรูปมากกว่าที่จะเป็นสารก่อเจลสำหรับน้ำมันที่มีอยู่ การปรับอัตราส่วนของขี้ผึ้งและบัตเตอร์เป็นการเข้าถึงที่ตรงกว่าด้วยประเภทส่วนผสมที่คุณมีอยู่

  • คงความอยู่ทรง: การลดปริมาณขี้ผึ้งเพื่อทำให้เนื้อนุ่มขึ้นอาจลดความอยู่ทรงลงเล็กน้อย คุณจะต้องรักษาสมดุลปริมาณขี้ผึ้งเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ตักง่ายตามต้องการโดยไม่สูญเสียความอยู่ทรงมากเกินไป การทดลองทำในปริมาณน้อยเป็นสิ่งสำคัญในจุดนี้

คำถามเกี่ยวกับส่วนผสมเฉพาะ

  • การสลับสัดส่วน Shea Butter และ Cocoa Butter: Shea Butter โดยทั่วไปแล้วจะนุ่มและเป็นครีมมากกว่า Cocoa Butter ซึ่งแข็งกว่าและเปราะกว่า การสลับสัดส่วน (เพิ่ม Cocoa Butter เป็น 13% และลด Shea Butter เป็น 4%) มีแนวโน้มที่จะทำให้โพเมดแข็งขึ้นเล็กน้อยและอาจมีเนื้อสัมผัสที่ไม่เรียบเนียนเท่าสูตรปัจจุบันของคุณ

  • การเพิ่ม Coconut Butter หรือ Fractionated Coconut Oil:

    • Coconut Butter เป็นไขมันแข็งที่อุณหภูมิห้อง และจะช่วยเพิ่มความแข็งและความนุ่มนวลคล้ายกับ Shea หรือ Cocoa Butter แต่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป การเพิ่ม Coconut Butter มีแนวโน้มที่จะคงไว้หรือเพิ่มความแข็งของโพเมด
    • Fractionated Coconut Oil เป็นน้ำมันเหลวที่เบาและไม่มันเยิ้มเท่า Olive Oil การเพิ่ม Fractionated Coconut Oil จะทำให้โพเมดนุ่มขึ้น ลดความมันเยิ้มและความเงางาม และทำให้ตักง่ายขึ้น เป็นตัวเลือกที่ดีหากคุณต้องการลดความรู้สึกหนักและปรับปรุงเนื้อสัมผัส
  • น้ำมันหอมระเหย: น้ำมันหอมระเหยในปริมาณน้อย (เช่น 10 หยดในปริมาณการทำปกติ) มีผลกระทบต่อเนื้อสัมผัสโดยรวมของโพเมดที่ประกอบด้วยขี้ผึ้งและน้ำมันเป็นหลักน้อยมาก การเพิ่มปริมาณที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อาจ ทำให้ส่วนผสมนุ่มลงเล็กน้อยเนื่องจากเป็นของเหลว แต่ข้อควรพิจารณาหลักในการเพิ่มความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยคือความเข้มของกลิ่นและโอกาสในการระคายเคืองผิว ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในเนื้อสัมผัสพื้นฐาน

ข้อแนะนำ

เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของคุณ พิจารณาการปรับเปลี่ยนเหล่านี้:

  1. เพิ่มอิมัลซิไฟเออร์: ใส่อิมัลซิไฟเออร์ที่ละลายในน้ำมันที่เหมาะสม (เช่น Oilsify 15 หรือ Oilsify Eco) เพื่อให้โพเมดสามารถล้างออกได้ด้วยน้ำ ทำตามอัตราส่วนการใช้งานที่ผู้จำหน่ายแนะนำสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันเป็นหลัก
  2. ปรับอัตราส่วนขี้ผึ้งและน้ำมัน: ลดสัดส่วนของ Beeswax และ Olive Oil เพิ่มสัดส่วนของ Shea Butter และพิจารณาเพิ่ม Fractionated Coconut Oil เพื่อทำให้เนื้อสัมผัสนุ่มขึ้น ลดความเงางาม และปรับปรุงการตักง่าย อัตราส่วนที่แน่นอนจะต้องมีการทดสอบเพื่อหาความสมดุลของความอยู่ทรง เนื้อสัมผัส และความรู้สึกที่คุณต้องการ
  3. ทดลอง: เริ่มจากการทำในปริมาณน้อยๆ และปรับเปลี่ยนสัดส่วนของขี้ผึ้ง บัตเตอร์ น้ำมัน และอิมัลซิไฟเออร์ทีละน้อย จนกว่าจะได้ความข้น ความอยู่ทรง ความเงางาม และความสามารถในการล้างออกตามที่คุณต้องการ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Olive Oil (Extra Virgin)
Olive Oil (Extra Virgin)
เครื่องสำอาง
Shea Butter (Refined , Deodorised)
Shea Butter (Refined , Deodorised)
เครื่องสำอาง
Cocoa Butter (Deodorized, Refined)
Cocoa Butter (Deodorized, Refined)
เครื่องสำอาง
Fractionated Coconut Oil
Fractionated Coconut Oil
เครื่องสำอาง
Natural White Beeswax (USA, Melting 62C, Deodorized)
Natural White Beeswax (USA, Melting 62C, Deodorized)
เครื่องสำอาง
Oilsify 15
Oilsify 15
เครื่องสำอาง
Coconut Butter
Coconut Butter
เครื่องสำอาง
Oilsify Eco (Cleansing Oil Base)
Oilsify Eco (Cleansing Oil Base)
เครื่องสำอาง