การปรับปรุงสูตรโลชั่นบำรุงผิวกายหลายสูตร (กลิ่น, กันแดด, ผิวขาว, ชะลอวัย)
คำถาม
มีสูตรโลชั่นบำรุงผิวกายอยู่ 4 สูตร ต้องการคำแนะนำในการปรับปรุงดังนี้ค่ะ:
- โลชั่นบำรุงผิวสูตร Hydrating: สูตรนี้มีปัญหากลิ่นหืนแรง อาจเกิดจากน้ำมันธรรมชาติ เช่น Argania Spinosa Kernel Oil จะแก้ไขอย่างไรดีคะ?
- โลชั่นกันแดดสำหรับผิวกาย: ต้องการนำสูตรกันแดดทาหน้า (SPF50+ PA+++) มาปรับใช้กับผิวกาย สูตรปัจจุบันมีการเคลมการป้องกันรังสี UVA, UVB, Infrared และ Blue Light ต้องปรับปรุงอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะเรื่องการเคลม IR/Blue Light และการปรับให้เหมาะกับผิวกาย?
- โลชั่นบำรุงผิวสูตร Whitening: สูตรนี้ช่วยให้ผิวสว่างขึ้นได้ดี แต่ยังขาดความชุ่มชื้น โดยเฉพาะสำหรับผิวที่เริ่มแห้งกร้านและมีสัญญาณแห่งวัย (ผิวหยาบกร้าน รอยดำ/แผลจางช้าลง ผิวเริ่มมีลักษณะคล้ายหนังไก่) เมื่ออายุใกล้ 40 ปี จะเพิ่มความชุ่มชื้นให้สูตรนี้ได้อย่างไรคะ?
- โลชั่นบำรุงผิวสูตร Anti-Aging: ต้องการใช้สูตรนี้เพื่อลดเลือนริ้วรอยบนผิวกาย ได้รับแจ้งว่า Cholecalciferol ในสูตรนี้ผิดกฎหมายสำหรับการใช้ในเครื่องสำอางในประเทศไทยและยุโรป ควรปรับปรุงสูตรอย่างไรเพื่อนำส่วนผสมที่ผิดกฎหมายออก และเพิ่มประสิทธิภาพ Anti-Aging ให้เหมาะกับปัญหาผิวมีอายุ เช่น ผิวหยาบกร้าน การสมานแผลช้าลง และผิวคล้ายหนังไก่?
คำตอบ
การปรับปรุงสูตรโลชั่นบำรุงผิวกาย
นี่คือคำแนะนำในการปรับปรุงสูตรโลชั่นบำรุงผิวกายทั้งสี่สูตรของคุณ เพื่อแก้ไขปัญหาที่คุณพบและนำคำแนะนำของทีมงานไปปรับใช้
1. โลชั่นบำรุงผิวสูตร Hydrating (ปัญหาเรื่องกลิ่น)
คุณแจ้งว่าสูตรนี้มีกลิ่นหืนแรง ทีมงานแนะนำให้ลองตัดส่วนผสมที่เป็นน้ำมันธรรมชาติออก โดยเฉพาะ Argania Spinosa Kernel Oil หรือเติมสารช่วยดับกลิ่น
น้ำมันธรรมชาติสามารถเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันและทำให้เกิดกลิ่นหืนได้ สูตรของคุณมีส่วนผสมของ Argania Spinosa Kernel Oil และ butyrospermum parkii butter (เชียบัตเตอร์)
คำแนะนำในการปรับปรุง:
- ทางเลือกที่ 1 (แนะนำ): เปลี่ยน Argania Spinosa Kernel Oil ที่ใช้อยู่ เป็น "Argan Oil (Organic - Virgin - Deodorized)" ซึ่งเป็นชนิดที่ผ่านกระบวนการกำจัดกลิ่นถั่ว/กลิ่นหืนออก ทำให้เหมาะสำหรับใช้ในสูตรเครื่องสำอางโดยไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่น แต่ยังคงคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นไว้
- ทางเลือกที่ 2: หากกลิ่นยังคงอยู่ หรือสงสัยว่าน้ำมันธรรมชาติอื่นๆ เป็นต้นเหตุร่วมด้วย ให้พิจารณาลดความเข้มข้นของน้ำมันธรรมชาติ หรือใช้อีโมลเลียนต์สังเคราะห์ที่มีความเสถียรมากกว่า เช่น Caprylic/Capric Triglyceride หรือ Ethylhexyl Stearate ซึ่งมีอยู่ในสูตรเดิมของคุณแล้ว
- ทางเลือกที่ 3: เติมสารช่วยดับกลิ่นที่ออกแบบมาสำหรับใช้ในเครื่องสำอางโดยเฉพาะ ทีมงานได้กล่าวถึง "Citromask" แม้จะไม่พบผลิตภัณฑ์ชื่อนี้ตรงๆ จากการค้นหา คุณสามารถหาส่วนผสมเกรดเครื่องสำอางที่ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในสูตรได้
การแก้ไขที่ต้นเหตุของกลิ่นหืน จะช่วยให้คุณกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ในขณะที่ยังคงประสิทธิภาพการให้ความชุ่มชื้นที่ดีของสูตรไว้
2. โลชั่นกันแดดสำหรับผิวกาย (SPF50+ PA+++, การเคลม IR/Blue Light)
คุณต้องการนำสูตรกันแดดทาหน้ามาปรับใช้กับผิวกาย และกล่าวถึงการเคลมการป้องกันรังสี UVA, UVB, Infrared และ Blue-Light ทีมงานได้แจ้งว่าการเคลมการป้องกันรังสี Infrared และ Blue Light ยังไม่มีการกำกับดูแลโดย อย. ประเทศไทยในปัจจุบัน
สูตรของคุณมีส่วนผสมของ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ซึ่งเป็นสารกันแดดแบบ Physical ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UVA และ UVB
คำแนะนำในการปรับปรุง:
- การป้องกันแสงแดด: การผสมผสานระหว่าง Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ให้การป้องกัน UV แบบ Broad-spectrum การจะให้ได้ SPF50+ PA+++ สำหรับผลิตภัณฑ์ทาตัวนั้น ความเข้มข้นและการกระจายตัวของสารกันแดดเหล่านี้มีความสำคัญมาก ควรแน่ใจว่าคุณใช้ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide เกรดที่เหมาะสำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์กันแดด ไม่ใช่เกรดที่ใช้เป็นเม็ดสีเพียงอย่างเดียว จากการค้นหา มีตัวเลือกเช่น "Titanium Dioxide Transparent (15nm, Water-Dispersion)" หรือ "Zinc Oxide 40nm Dispersion (Water Base)" ที่ช่วยให้กระจายตัวได้ดีและลดความขาววอก ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับโลชั่นทาตัว
- การเคลม IR และ Blue Light: ดังที่ทีมงานแจ้ง การเคลมการป้องกันรังสี Infrared และ Blue Light ยังไม่มีมาตรฐานหรือการกำกับดูแลโดย อย. ในประเทศไทย แม้ว่าส่วนผสมบางชนิดอาจมีคุณสมบัติช่วยป้องกันได้บ้าง แต่คุณควรหลีกเลี่ยงการเคลมค่า SPF/PA สำหรับรังสีเหล่านี้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย การกล่าวถึงส่วนผสมที่ อาจ ช่วยป้องกันแสงเหล่านี้ได้ แต่เน้นการเคลมหลักไปที่การป้องกัน UVA/UVB ที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
- การปรับสูตรสำหรับผิวกาย: เนื่องจากสูตรนี้เดิมเป็นสูตรสำหรับทาหน้า คุณอาจต้องการปรับเนื้อสัมผัสให้เหมาะกับการทาผิวกาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการปรับระดับของอีโมลเลียนต์ (เช่น Cyclomethicone, Dimethicone, Hydrogenated Polydecene) หรือสารเพิ่มความหนืด (เช่น Talc, Carbomer) เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสและการเกลี่ยที่ต้องการสำหรับบริเวณผิวที่กว้างขึ้น
3. โลชั่นบำรุงผิวสูตร Whitening (ต้องการความชุ่มชื้นเพิ่ม)
คุณพบว่าสูตรนี้ช่วยให้ผิวสว่างขึ้นได้ดี แต่ยังขาดความชุ่มชื้น โดยเฉพาะสำหรับผิวที่เริ่มแห้งกร้านและมีสัญญาณแห่งวัย (ผิวหยาบกร้าน รอยดำ/แผลจางช้าลง ผิวเริ่มมีลักษณะคล้ายหนังไก่) เมื่ออายุใกล้ 40 ปี
สูตรของคุณมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นและส่วนผสมเพื่อผิวกระจ่างใสอยู่หลายชนิด
คำแนะนำในการปรับปรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น:
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้ความชุ่มชื้นสำหรับผิวแห้งและมีอายุ พิจารณาเพิ่มความเข้มข้นของสาร Humectant และ Emollient ที่มีอยู่ หรือเพิ่มส่วนผสมใหม่ๆ:
- เพิ่ม Humectant: เพิ่มเปอร์เซ็นต์ของ Glycerin, Sodium Lactate หรือ Sodium Hyaluronate คุณยังสามารถพิจารณาใช้ Hyaluronic Acid ที่มีขนาดโมเลกุลต่างกัน เพื่อให้ความชุ่มชื้นได้หลายระดับชั้นผิว
- เพิ่ม Emolliency: เพิ่มปริมาณของน้ำมันและบัตเตอร์ที่มีอยู่ เช่น Cocos Nucifera Oil, Olive Butter, Argan Oil (พิจารณาใช้ชนิดที่สกัดกลิ่นแล้ว), หรือ Sunflower Oil การเพิ่มบัตเตอร์หรือน้ำมันที่ให้ความชุ่มชื้นสูงชนิดอื่นๆ ก็เป็นประโยชน์
- เสริมไขมันที่ช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว: ส่วนผสมอย่าง Ceramides และ Cholesterol เป็นส่วนประกอบสำคัญของเกราะป้องกันผิว และสามารถช่วยปรับปรุงปัญหาผิวแห้งกร้านได้อย่างมาก พิจารณาเพิ่มหรือเพิ่มปริมาณส่วนผสมเหล่านี้ในสูตร Whitening นี้
- เพิ่ม Occlusives: ส่วนผสมที่ช่วยสร้างชั้นฟิล์มเคลือบผิวเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดี แม้จะไม่ได้มีปริมาณมากในรายการส่วนผสมของคุณ แต่อีโมลเลียนต์อย่าง Caprylic/Capric Triglyceride และ Dimethicone ที่มีอยู่ในสูตรเดิมก็มีส่วนช่วยในด้านนี้
การเน้นการผสมผสานระหว่าง Humectant, Emollient และส่วนผสมที่ช่วยฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว จะช่วยแก้ไขปัญหาผิวแห้งกร้าน และปรับปรุงเนื้อสัมผัสและความยืดหยุ่นของผิว ควบคู่ไปกับผลลัพธ์ด้านความกระจ่างใส
4. โลชั่นบำรุงผิวสูตร Anti-Aging
คุณต้องการใช้สูตรนี้เพื่อลดเลือนริ้วรอยบนผิวกาย ทีมงานได้แจ้งอย่างถูกต้องว่า Cholecalciferol ในสูตรนี้เป็นส่วนผสมที่ผิดกฎหมายสำหรับการใช้ในเครื่องสำอางในประเทศไทยและยุโรป
สูตรของคุณมีส่วนผสม Anti-Aging และส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น/Emollient อยู่หลายชนิด
คำแนะนำในการปรับปรุง:
- นำส่วนผสมที่ผิดกฎหมายออก: คุณต้องนำ Cholecalciferol ออกจากสูตร เนื่องจากเป็นส่วนผสมที่ห้ามใช้
- เพิ่มประสิทธิภาพ Anti-Aging: สูตรเดิมมีส่วนผสม Anti-Aging ที่ดีอยู่แล้ว เช่น Retinol, Retinyl Palmitate, Ascorbic Acid และ Vitamin E ควรแน่ใจว่าใช้ส่วนผสมเหล่านี้ในความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย พิจารณาใช้ Vitamin C ในรูปแบบที่มีความเสถียรสูงกว่า หากกังวลเรื่องความเสถียรของ Ascorbic Acid
- ดูแลปัญหาผิวมีอายุ: จากปัญหาผิวที่คุณแจ้ง (ผิวหยาบกร้าน การสมานแผลช้าลง ผิวคล้ายหนังไก่) ควรเน้นส่วนผสมที่ช่วยสนับสนุนการผลัดเซลล์ผิว การทำงานของเกราะป้องกันผิว และการให้ความชุ่มชื้น ส่วนผสมอย่าง Allantoin ช่วยปลอบประโลมและส่งเสริมการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ Ceramides และ Cholesterol ก็เป็นส่วนผสมที่ดีเยี่ยมในการปรับปรุงการทำงานของเกราะป้องกันผิวและสุขภาพผิวโดยรวม ซึ่งสำคัญมากสำหรับ Anti-Aging Peptides เป็นอีกกลุ่มส่วนผสมที่ทราบกันดีว่ามีประโยชน์ด้าน Anti-Aging
- ความชุ่มชื้นและเนื้อสัมผัส: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบ Emollient และ Humectant (น้ำมัน, บัตเตอร์, Glycerin ฯลฯ) เพียงพอที่จะรักษาความชุ่มชื้นและความเรียบเนียนของผิวมีอายุ การปรับระดับส่วนผสมอย่าง Dimethicone, Caprylic/capric triglyceride และแว็กซ์อย่าง Beeswax สามารถช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่ต้องการสำหรับโลชั่นทาตัว
การนำส่วนผสมที่ผิดกฎหมายออก และเน้นการผสมผสานส่วนผสม Anti-Aging ที่ถูกกฎหมายและมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นและช่วยเสริมสุขภาพผิว จะช่วยให้คุณสร้างโลชั่นบำรุงผิวกายสูตร Anti-Aging ที่มีประสิทธิภาพได้
คำแนะนำเหล่านี้เป็นคำแนะนำทั่วไป ปริมาณที่เฉพาะเจาะจงของส่วนผสมแต่ละชนิดจะต้องพิจารณาตามเนื้อสัมผัส ประสิทธิภาพที่ต้องการ และข้อจำกัดด้านกฎระเบียบสำหรับส่วนผสมแต่ละชนิด ควรทำการทดสอบความเสถียรของสูตรสำเร็จรูปของคุณเสมอ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Allantoin

Argan Oil (Organic - Virgin - Deodorized)

Macadamia Nut Oil (Deodorized)

Hyaluronic Acid (Small Molecule)

Shea Butter (Refined , Deodorised)

NaturalProfile™ Grape Seed Oil (Cold-Pressed)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Glycerin (USP/Food Grade)

Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)

Fractionated Coconut Oil

Dimethicone (Medium/350, Low-Odor)

Vitamin A Palmitate (retinyl palmitate, 1MIU/g)

Natural White Beeswax (USA, Melting 62C, Deodorized)

Talc Powder (5 Micron, Methicone Coated)

PowderCream™ (Water Absorbing PMMA)

Cholesterol (95%, NF, Fine Powder)

Carbomer 940 (EasyDisperse™, France)

Butylated Hydroxytoluene (BHT)
