คำแนะนำการปรับปรุงสูตร

1. การใช้ส่วนผสมประเภท Oil-in-Water (O/W) และ Water-in-Oil (W/O) ในสูตรเดียวกัน

โดยทั่วไปแล้ว การนำส่วนผสมที่ออกแบบมาสำหรับอิมัลชันประเภท Oil-in-Water (O/W) และ Water-in-Oil (W/O) มาใช้ในปริมาณมากในสูตรเดียวกันนั้นเป็นเรื่องยาก และมักจะทำให้สูตรไม่เสถียร (แยกชั้น) เนื่องจากอิมัลชันจะเป็น O/W หรือ W/O ขึ้นอยู่กับว่าเฟสใดเป็นเฟสต่อเนื่อง

• Satin Cream Maker เป็นสารสร้างเนื้อครีมและอิมัลซิไฟเออร์ประเภท O/W ซึ่งหมายความว่าช่วยกระจายหยดน้ำมันในเฟสน้ำที่เป็นเฟสต่อเนื่อง
• Silky Serum Base Plus เป็นเบสประเภท W/O ที่มีส่วนประกอบของซิลิโคนและสารสร้างอิมัลชัน W/O ซึ่งออกแบบมาเพื่อสร้างอิมัลชันที่หยดน้ำกระจายตัวอยู่ในเฟสน้ำมัน/ซิลิโคนที่เป็นเฟสต่อเนื่อง

การพยายามรวมระบบทั้งสองประเภทนี้เข้าด้วยกันโดยตรงในสูตรเดียวมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการแยกชั้นหรือได้ผลิตภัณฑ์ที่เหลวและไม่เสถียรอย่างที่คุณประสบปัญหาอยู่ ในการสร้างอิมัลชันที่เสถียร คุณควรเลือกใช้ระบบสารสร้างอิมัลชันเพียงประเภทเดียว (O/W หรือ W/O) และพัฒนาสูตรโดยใช้ระบบนั้นเป็นหลัก

2. สารทางเลือกที่ให้เนื้อสัมผัสแบบ Silky ในระบบ Oil-in-Water

คุณเข้าใจถูกต้องแล้วว่า Silky Serum Base Plus (ระบบ W/O) ไม่สามารถใช้ร่วมกันในสูตรเดียวกับ Pro Polymer, Reshape Gel และ Satin Cream Maker ซึ่งใช้สร้างระบบ O/W ได้

หากคุณต้องการเนื้อสัมผัสที่คล้ายกับ Silky Serum Base Plus (ซึ่งให้ความรู้สึกนุ่มลื่น ซึมซาบเร็ว น่าจะมาจากส่วนประกอบของซิลิโคน) แต่ต้องการให้อยู่ในระบบ O/W ที่เข้ากันได้กับ Satin Cream Maker, Pro Polymer และ Reshape Gel คุณสามารถใช้ Cyclopentasiloxane หรือ Yerba Santa Protein เป็นทางเลือกได้

• Cyclopentasiloxane เป็นซิลิโคนเนื้อบางเบา ให้ความรู้สึกนุ่มลื่น ซึมซาบเร็ว และระเหยได้ไว สามารถผสมในเฟสน้ำมันของอิมัลชัน O/W หรือใช้ร่วมกับสารสร้างเนื้อครีม O/W เช่น Satin Cream Maker ได้ (ซึ่งรองรับซิลิโคนได้ถึง 20%)
• Yerba Santa Protein เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติที่ให้เนื้อสัมผัสคล้ายซิลิโคน มีคุณสมบัติให้ความรู้สึกนุ่มลื่น สามารถละลายน้ำได้ และเข้ากันได้กับเฟสน้ำของสูตร O/W (ผสมในเฟสน้ำ หลีกเลี่ยงความร้อนเกิน 40°C, pH 3.5-7.0) นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยให้ความชุ่มชื้นและปกป้องผิวด้วย

คุณสามารถเพิ่ม Cyclopentasiloxane (ในเฟสน้ำมัน) หรือ Yerba Santa Protein (ในเฟสน้ำ) ลงในสูตร O/W ของคุณเพื่อช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มลื่นตามต้องการ โดยไม่ต้องใช้ Silky Serum Base Plus ที่ไม่เข้ากัน

3. คำแนะนำการปรับแก้สูตรเพื่อให้เนื้อครีมข้นหนืดขึ้น

สูตรปัจจุบันของคุณมีแนวโน้มที่จะเหลวเกินไปเนื่องจากคุณพยายามรวมระบบ O/W และ W/O ที่ไม่เข้ากัน (Satin Cream Maker กับ Silky Serum Base Plus) ปริมาณ Silky Serum Base Plus (12%) และ Cyclopentasiloxane (3%) ที่สูงกำลังรบกวนการสร้างอิมัลชัน O/W โดย Satin Cream Maker, Pro Polymer และ Reshape Gel

เพื่อให้ได้เนื้อครีมที่ข้นหนืดและไม่เหลวไหลในระบบ O/W โดยใช้ Satin Cream Maker, Pro Polymer และ Reshape Gel คุณจำเป็นต้องปรับแก้ดังนี้:

• ตัด Silky Serum Base Plus (12%) และ Cyclopentasiloxane (3%) ออกจากสูตร ส่วนผสมเหล่านี้ออกแบบมาสำหรับระบบอิมัลชันที่แตกต่างกันและทำให้สูตรไม่เสถียร
• เพิ่มความเข้มข้นของสารสร้างเนื้อครีม/อิมัลซิไฟเออร์ประเภท O/W Satin Cream Maker 1.3% ในปัจจุบันอาจน้อยเกินไปที่จะสร้างเนื้อครีมที่เสถียรและข้นหนืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีส่วนผสมที่ละลายน้ำอื่นๆ อยู่เป็นจำนวนมาก ลองเพิ่ม Satin Cream Maker เป็นอย่างน้อย 2.0-3.0% เพื่อให้เพียงพอต่อการสร้างอิมัลชันและเพิ่มความหนืดให้กับเฟสน้ำมันของคุณ (ซึ่งตอนนี้จะอยู่ที่ประมาณ 3.2%)

• พิจารณาเพิ่มสารสร้างเนื้อเจลในเฟสน้ำ แม้ว่า Pro Polymer และ Reshape Gel จะทนทานต่ออิเล็กโทรไลต์ แต่ความเข้มข้นของสารออกฤทธิ์ต่างๆ ในเฟสน้ำของคุณอาจยังส่งผลต่อความหนืดได้ ลองเพิ่ม Pro Polymer เป็น 1.5-2.0% และ Reshape Gel เป็น 3.0-4.0% เพื่อช่วยเสริมสร้างโครงสร้างเจลในเฟสน้ำให้แข็งแรงขึ้น

• ปรับปริมาณน้ำ เพื่อชดเชยส่วนผสม Silky Serum Base Plus และ Cyclopentasiloxane ที่ตัดออกไป และส่วนผสมสารสร้างเนื้อที่เพิ่มขึ้น ปริมาณรวมทั้งหมดควรเป็น 100%

วิธีผสมที่ปรับปรุง:

เนื่องจากส่วนผสมหลายชนิดไวต่อความร้อน (Alpha Arbutin, Matrixyl 3000, Palmitoyl Hexapeptide-12, Yerba Santa Protein, สารสกัดจากรกแกะ, White Caviar Extract, สารสกัดจากดอกบัวหลวง, สารสกัดจากนนผึ้ง สเปน, Repair Activator และ Reshape Gel ที่อุณหภูมิสูงกว่า 50°C) ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้:

1. เฟสน้ำ (Phase A): รวม น้ำกลั่น, Allantoin, EDTA, Alpha Arbutin, L-Carnitine, 4D Hyaluronic Acid, 1,2-Hexanediol, สารสกัดจากดอกบัวหลวง, สารสกัดจากไข่มุก, White Caviar Extract, สารสกัดจากรกแกะ, สารสกัดจากนนผึ้ง สเปน. ค่อยๆ โปรย Pro Polymer ลงในเฟสน้ำพร้อมคนช้าๆ หรือกระจายใน 1,2-Hexanediol ก่อนหากใช้ปริมาณ >5% กระจาย Reshape Gel ในเฟสน้ำและให้ความร้อนเบาๆ ที่ 40-50°C พร้อมคนให้กระจายตัว จากนั้นนำออกจากความร้อนและปล่อยให้เย็นลง
2. เฟสน้ำมัน (Phase B): รวม Shea Butter, Rose Hip Oil, Squalane oil, perfect c, MSH White. ให้ความร้อนเบาๆ กับ Shea Butter เพื่อให้ละลาย (ประมาณ 60-70°C) เติม MSH White และคนให้ละลายด้วยความร้อนเบาๆ (ประมาณ 60°C) เติม Rose Hip Oil, Squalane และ Perfect C เมื่อเฟสน้ำมันเย็นลงเล็กน้อย (Perfect C ทนความร้อนได้ชั่วคราว แต่ควรหลีกเลี่ยงความร้อนสูงเป็นเวลานาน)
3. การทำอิมัลชัน: เติม Satin Cream Maker ในปริมาณที่เพิ่มขึ้นลงในเฟสน้ำ (Phase A) ที่เย็นแล้ว และผสมให้เข้ากันดี จากนั้นค่อยๆ เติมเฟสน้ำมัน (Phase B) ลงในเฟสน้ำ พร้อมคนอย่างต่อเนื่อง ใช้ความเร็วปานกลาง (ต่ำกว่า 2500 rpm) จนได้เนื้อครีม
4. เติมสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อน: เมื่อได้เนื้อครีมแล้วและเย็นลงต่ำกว่า 40°C (ควรต่ำกว่า 30°C สำหรับ Alpha Arbutin) ให้เติม Yerba Santa Protein, Repair Activator, Matrixyl 3000, Palmitoyl Hexapeptide-12, สารสกัดจากรกแกะ, White Caviar Extract, สารสกัดจากดอกบัวหลวง และสารสกัดจากนนผึ้ง สเปน ผสมเบาๆ ให้เข้ากัน
5. เติมส่วนผสมสุดท้าย: เติม Mild Preserved Eco และน้ำหอม Happy Lotus ผสมเบาๆ
6. ตรวจสอบ pH: ตรวจสอบค่า pH สุดท้ายให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมต่างๆ โดยเฉพาะ Perfect C (pH 5.0-5.5) และ Alpha Arbutin (pH 3.5-6.5) ปรับค่า pH หากจำเป็นโดยใช้กรดหรือเบสที่เหมาะสม

การตัดส่วนผสม W/O ที่ไม่เข้ากันออก และเพิ่มปริมาณสารสร้างเนื้อครีม O/W และสารสร้างเนื้อเจลในเฟสน้ำ จะช่วยให้คุณได้เนื้อครีมที่เสถียรและข้นหนืดขึ้น การเพิ่ม Cyclopentasiloxane หรือ Yerba Santa Protein สามารถช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่นุ่มลื่นตามที่คุณต้องการได้