การปรับสูตรอายครีม: ความชุ่มชื้น เนื้อสัมผัส และสารออกฤทธิ์
ถามโดย: jn_andy
เมื่อ: July 01, 2016
ประเภทผลิตภัณฑ์:
เครื่องสำอาง
คำถาม
กำลังปรับสูตรอายครีมที่ใช้อยู่ค่ะ เพราะรู้สึกว่าความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ ทำให้ริ้วรอยดูชัดขึ้น และมีอาการระคายเคืองหรือกระพริบตาบ่อยบริเวณรอบดวงตา
จากปัญหาที่พบและคำแนะนำของทีมงาน มีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปรับสูตรดังนี้ค่ะ:
- เกี่ยวกับความชุ่มชื้นและเนื้อสัมผัส:
- ควรลด
Olive CLEAR
และแทนที่ด้วยshea butter
หรือไม่คะ? Olive CLEAR
ช่วยเรื่องความลื่นเวลาทา แต่glycerin
ก็ได้เรื่องความลื่นเหมือนกัน จะปรับสมดุล 3 ตัวนี้ (shea butter
,Olive CLEAR
,glycerin
) อย่างไรดี เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและความลื่น โดยเฉพาะสำหรับผิวแห้ง และรักษาสัดส่วนน้ำมันรวมให้อยู่ในช่วง 15-20% ตามที่แนะนำคะ (สูตรเดิมมีshea butter
6%,Olive CLEAR
6%,Jojoba
4% รวมน้ำมัน 16%)
- ควรลด
- เกี่ยวกับสารออกฤทธิ์และอาการระคายเคือง:
- ทีมงานแจ้งว่า Active Ingredients "มากไป" อาจเป็นสาเหตุของการระคายเคืองรอบดวงตา คำว่า "มากไป" หมายถึงจำนวนรายการของสารออกฤทธิ์หลายรายการเกินไปใช่ไหมคะ?
- ถ้าจะปรับลดสารออกฤทธิ์ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม (โดยเฉพาะสำหรับการใช้ตอนกลางวัน) ควรจะพิจารณาตัดหรือลดสัดส่วนตัวใดดีคะ เพื่อลดการระคายเคือง แต่ยังคงคุณสมบัติหลักไว้ได้ (สูตรมี Active เช่น
REGU-AGE
,Argireline
,Pep-Coll
,B3
,Beta Glucan
)
คำตอบ
สวัสดีค่ะ เข้าใจว่าคุณต้องการคำแนะนำในการปรับสูตร eye cream ที่ใช้อยู่ค่ะ
จากปัญหาที่คุณพบคือรู้สึกว่าความชุ่มชื้นไม่เพียงพอและอาจทำให้ริ้วรอยดูชัดขึ้น รวมถึงอาการระคายเคือง/กระพริบตาบ่อย:
เรื่องความชุ่มชื้น:
- การเพิ่ม Shea Butter จาก 6% เป็น 10% เป็นแนวทางที่ดีค่ะ เพราะ Shea Butter ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและสร้างชั้นเคลือบผิว (occlusive) ได้ดี เหมาะสำหรับผิวแห้ง
- ตามคำแนะนำของทีมงาน สัดส่วนน้ำมันรวม 15-20% เหมาะสำหรับผิวแห้งค่ะ สูตรเดิมมีน้ำมันรวม 16% (Shea 6 + Olive CLEAR 6 + Jojoba 4) การเพิ่ม Shea เป็น 10% จะทำให้น้ำมันรวมเป็น 20% (Shea 10 + Olive CLEAR 6 + Jojoba 4) ซึ่งอยู่ในช่วงที่เหมาะสมค่ะ
- สำหรับ Glycerin ทีมงานแนะนำให้เพิ่ม 5-10% ค่ะ สำหรับผิวแห้ง สามารถเพิ่มได้ถึง 10% ได้เลยค่ะ Glycerin เป็น humectant ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นและลื่นขึ้น
- การปรับสมดุลระหว่าง Shea Butter, Olive CLEAR, Jojoba Oil และ Glycerin: การเพิ่ม Shea Butter และ Glycerin จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดอาการแห้งตึงได้ดีค่ะ สัดส่วนน้ำมันรวม 20% (Shea 10, Olive CLEAR 6, Jojoba 4) พร้อมกับเพิ่ม Glycerin 10% น่าจะช่วยแก้ปัญหาความชุ่มชื้นไม่เพียงพอได้ค่ะ Olive CLEAR และ Jojoba Oil ก็มีส่วนช่วยให้ผิวนุ่มลื่นและชุ่มชื้นเช่นกัน การคงไว้ในสัดส่วนเดิมที่เหลือจากการเพิ่ม Shea ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ
เรื่อง Active Ingredients และอาการระคายเคือง:
- ทีมงานได้ให้คำแนะนำว่าอาการกระพริบตาบ่อยอาจเกิดจากการระคายเคืองจาก Active Ingredients ที่ซึมเข้าใกล้ดวงตาค่ะ
- สูตรที่มี Active Ingredients หลายตัวและปริมาณสูงแบบนี้ ทีมงานแนะนำให้ใช้เป็น Night Cream ก่อนนอนจะเหมาะสมกว่าค่ะ
- สำหรับการใช้ตอนกลางวัน ทีมงานแนะนำให้ลดจำนวนรายการ Active Ingredients หรือลดสัดส่วนลง หรืออาจใช้วิธีนำ Night Cream สูตรนี้ไปเจือจางลงแล้วใช้เป็น Day Cream แทนค่ะ
- การจะตัดหรือลด Active ตัวใดนั้น ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการเน้นผลลัพธ์ด้านใดเป็นพิเศษค่ะ Active แต่ละตัวมีคุณสมบัติแตกต่างกัน (เช่น REGU-AGE ลดรอยคล้ำ/บวม, Argireline ลดริ้วรอยจากการเคลื่อนไหว, Pep-Coll เสริมคอลลาเจน/ลดริ้วรอย, B3 ลดริ้วรอย/ต้านแพ้, Beta Glucan เสริมภูมิคุ้มกันผิว) หากต้องการใช้ตอนกลางวันให้เบาลง อาจพิจารณาเลือก Active ที่เน้นเรื่องความชุ่มชื้นหรือปลอบประโลมผิวเป็นหลัก และลดตัวที่เน้นลดริ้วรอยแบบเข้มข้นลง หรือใช้ในปริมาณที่น้อยลงค่ะ แต่ไม่สามารถระบุเจาะจงได้ว่าควรตัดตัวใดโดยเฉพาะค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)
เครื่องสำอาง

Pep®-Coll (Palmitoyl tripeptide-5)
เครื่องสำอาง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง

Allantoin
เครื่องสำอาง

Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
เครื่องสำอาง

Shea Butter (Refined , Deodorised)
เครื่องสำอาง

Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง

Phenoxyethanol (Extra Pure)
เครื่องสำอาง

Disodium EDTA
เครื่องสำอาง

REGU®-AGE
เครื่องสำอาง

Beta Glucan (Saccharomyces cerevisiae extract)
เครื่องสำอาง

Satin Cream Maker™
เครื่องสำอาง

MOIST72™
เครื่องสำอาง

1,2-Hexanediol (Super-Purified, Odorless)
เครื่องสำอาง

Olive CLEAR (Hydrogenated Olive Oil)
เครื่องสำอาง