การปรับเปลี่ยนทรีทเม้นท์ผมที่มีอยู่: ข้อกังวลด้านความเสถียรและความเข้ากันได้
คำถาม
ต้องการคำแนะนำและข้อควรปรับปรุงในการปรับเปลี่ยนทรีทเม้นท์ L'Oreal ที่มีอยู่ โดยการเพิ่มส่วนผสมหลายชนิด (เช่น สารประจุบวก ซิลิโคน เคราติน สารให้ความชุ่มชื้น) ตามรายการและกระบวนการที่ได้อธิบายไว้ ซึ่งมีการให้ความร้อนส่วนผสมบางส่วนก่อนผสมเข้ากับเนื้อทรีทเม้นท์เดิม รวมถึงสอบถามว่าสามารถเพิ่ม HeatPlex™ เข้าไปในสูตรนี้ได้หรือไม่
คำตอบ
คำแนะนำเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนทรีทเม้นท์บำรุงผมที่มีอยู่
ขอบคุณสำหรับคำถามเกี่ยวกับการเสริมประสิทธิภาพทรีทเม้นท์ L'Oreal ของคุณด้วยการเพิ่มส่วนผสมต่างๆ ค่ะ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการคิดค้นสูตร ดิฉันต้องขอเรียนแจ้งว่า การเพิ่มส่วนผสมจำนวนมากและหลากหลายชนิดลงในผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่มีอยู่แล้วนั้น มีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำให้สูตรเดิมไม่เสถียร และอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสียหรือมีคุณสมบัติไม่เป็นไปตามที่คาดหวังได้ค่ะ
ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปโดยทั่วไปได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยความสมดุลของส่วนผสมที่เข้ากันได้ดี การเติมสารภายนอกเข้าไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปริมาณมากและหลากหลายตามที่คุณระบุมา อาจส่งผลให้เกิดปัญหาดังนี้:
- เนื้อผลิตภัณฑ์แยกชั้น: ส่วนผสมใหม่ๆ อาจไม่เข้ากันกับอิมัลชัน (Emulsion) เดิมในทรีทเม้นท์ ทำให้เนื้อครีมแยกเป็นน้ำกับน้ำมัน
- ความข้นเหลวเปลี่ยนแปลง: ผลิตภัณฑ์อาจข้นเกินไป เหลวเกินไป หรือจับตัวเป็นก้อน
- ประสิทธิภาพลดลง: ส่วนผสมบางอย่างอาจทำปฏิกิริยากันเอง หรือกับส่วนผสมในทรีทเม้นท์เดิม ทำให้ประสิทธิภาพของสารบำรุงลดลง
- การปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์: การเปิดภาชนะและเติมส่วนผสมหลายอย่างเข้าไป รวมถึงกระบวนการให้ความร้อนและผสมในบ้าน อาจเพิ่มความเสี่ยงในการปนเปื้อนของแบคทีเรียหรือเชื้อรา ซึ่งอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสียเร็วหรือเป็นอันตรายต่อหนังศีรษะและเส้นผมได้ แม้จะมีการเติมสารกันเสีย Mild Preserved Eco™ เข้าไปแล้วก็ตาม ระบบกันเสียเดิมของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปอาจไม่ครอบคลุมการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้
ข้อควรพิจารณาเกี่ยวกับกระบวนการและส่วนผสมที่คุณเสนอ:
- การให้ความร้อนส่วนผสม 2-8: ส่วนผสมหลายตัวในกลุ่มนี้ เช่น Cetyl Alcohol และ Butter Cream Maker™ เป็นสารที่ต้องใช้ความร้อนในการหลอมและช่วยในการสร้างเนื้อครีมหรืออิมัลชัน การให้ความร้อนตามที่คุณทำนั้นถูกต้องตามหลักการทำสูตรเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม การนำส่วนผสมที่ผ่านความร้อนแล้ว (แม้จะพักให้อุ่น) ไปผสมกับทรีทเม้นท์สำเร็จรูปที่ปกติอยู่ในอุณหภูมิห้อง อาจทำให้โครงสร้างอิมัลชันของทรีทเม้นท์เดิมเสียได้
- ปริมาณส่วนผสมที่เติม: คุณวางแผนที่จะเติมส่วนผสมรวมประมาณ 40 กรัม/มล. ลงในทรีทเม้นท์ 100 มล. ซึ่งถือเป็นปริมาณที่สูงมากเมื่อเทียบกับปริมาณผลิตภัณฑ์เดิม การเติมสารในอัตราส่วนที่สูงเช่นนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้สูตรเดิมไม่เสถียรอย่างรุนแรง
- ความเข้ากันได้ของส่วนผสม: ส่วนผสมที่คุณเลือกมีหลากหลายกลุ่ม ทั้งสารให้ความนุ่มลื่นประจุบวก (Cationic Conditioning Agents เช่น BTAC, CTAC, Comb Force Reducer, KeraQuat™, Condi B5™) ซิลิโคนอิมัลชัน (Micro-bis XL™, Hair-Cond XL™, Hair-cond SM™, Clear Cond™) เคราตินหลายชนิด (Pure Keratin™, KeraStraight™, Hydrolyzed Keratin) สารให้ความชุ่มชื้น (Sodium Lactate, Sodium PCA) และอื่นๆ การผสมสารที่มีประจุและคุณสมบัติต่างกันจำนวนมากเข้าด้วยกันโดยไม่มีการทดสอบความเข้ากันได้ อาจทำให้เกิดการตกตะกอนหรือสูญเสียประสิทธิภาพได้
- KeraStraight™: ตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ KeraStraight™ (Glyoxyloyl Carbocysteine (and) Glyoxyloyl Keratin Amino Acids) มีไว้สำหรับช่วยยืดผมชั่วคราวและต้องการความร้อนสูง (200-230°C) จากเครื่องหนีบผมเพื่อกระตุ้นให้ทำงานอย่างเต็มที่ การเติมในปริมาณ 3 มล. ในสูตรปริมาณมาก และไม่ได้ระบุขั้นตอนการใช้ความร้อนหลังหมักผม อาจทำให้ไม่เห็นผลเรื่องการยืดผม และปริมาณที่ใช้อาจต่ำเกินไปสำหรับการทำงานที่ชัดเจน (แนะนำที่ 20% ขึ้นไป)
- HeatPlex™: สำหรับคำถามเพิ่มเติมว่าสามารถใช้ HeatPlex™ (Cystine Bis-PG-Propyl Silanetriol) ในสูตรนี้ได้หรือไม่ HeatPlex™ เป็นสารที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนและจับตัวกับโปรตีนผมเมื่อได้รับความร้อน (เช่น จากการเป่าไดร์หรือหนีบผม) การเติม HeatPlex™ ในสูตรนี้สามารถทำได้หากคุณตั้งใจจะใช้ความร้อนกับผมหลังใช้ทรีทเม้นท์ อย่างไรก็ตาม ก็ต้องพิจารณาเรื่องความเข้ากันได้กับส่วนผสมอื่นๆ และปริมาณที่เหมาะสม (แนะนำ 5-30% สำหรับทรีทเม้นท์)
คำแนะนำ:
ด้วยความเสี่ยงที่กล่าวมาทั้งหมด ดิฉัน ไม่แนะนำอย่างยิ่ง ให้ผสมส่วนผสมจำนวนมากและซับซ้อนนี้ลงในทรีทเม้นท์สำเร็จรูปที่มีอยู่แล้วค่ะ การทำเช่นนี้ในระดับครัวเรือนควบคุมได้ยากมากและมีโอกาสสูงที่ผลิตภัณฑ์จะเสีย
ทางเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากกว่าคือ:
- ใช้ส่วนผสมแต่ละตัวแยกกัน: ใช้ทรีทเม้นท์ L'Oreal เดิมตามปกติ และใช้ส่วนผสมบางตัวที่คุณสนใจเป็นผลิตภัณฑ์เสริม เช่น ใช้ Hair Plex™ ผสมน้ำตามคำแนะนำเพื่อบำรุงก่อนหรือหลังทำเคมี หรือใช้เซรั่มเคราติน Pure Keratin™ หรือ Hydrolyzed Keratin ทาบำรุงปลายผม
- ลองทำสูตรทรีทเม้นท์เองจากศูนย์: หากคุณต้องการควบคุมส่วนผสมทั้งหมดจริงๆ การเริ่มต้นทำสูตรทรีทเม้นท์บำรุงผมขึ้นมาใหม่โดยใช้เบสที่เหมาะสมและส่วนผสมที่คุณต้องการในอัตราส่วนที่แนะนำสำหรับแต่ละตัว จะให้ผลลัพธ์ที่คาดเดาได้มากกว่าและสามารถควบคุมความเสถียรของสูตรได้ดีกว่ามากค่ะ
การปรับปรุงผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปโดยการเติมสารอื่นๆ ควรทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง และมักจะจำกัดอยู่แค่การเติมสารที่เข้ากันได้ง่ายในปริมาณน้อยๆ เท่านั้นค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)

Sodium PCA 50%

Cetrimonium Chloride (CTAC)

Cetyl Alcohol

Pure Keratin™ (Natural, Australian Sheep Wool)

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)

Butter Cream Maker™

Behentrimonium Chloride (BTAC)

Clear-Cond™ (Quaternium-80)

PolyCat™ (Cationic Softening Polymer)

KeraStraight™ (Keratin สำหรับยืดผม)

HairPLEX™ (Bis-Aminopropyl Diglycol Dimaleate)

Hydrolyzed Keratin (Liquid, Deodorized)
