การปรุงกลิ่นน้ำหอมเฉพาะตัวสำหรับแบรนด์ของคุณ

ขอบคุณสำหรับคำถามเกี่ยวกับการสร้างสรรค์กลิ่นน้ำหอมเฉพาะตัวสำหรับแบรนด์เครื่องสำอางของคุณ นี่คือคำตอบตามข้อมูลที่ได้รับ:

1. ความแตกต่างระหว่างหมวด "A-Z" และ "ส่วนประกอบ"

หมวดหมู่บน bescents.com มีความแตกต่างกันในด้านส่วนประกอบและการใช้งานที่ตั้งใจไว้:

• ส่วนประกอบ (Components): หมวดหมู่นี้ประกอบด้วยสารเคมีและส่วนผสมกลิ่นแต่ละชนิด มีมากกว่า 1000 รายการ โดยแต่ละรายการจะให้กลิ่นเดี่ยวๆ ซึ่งต้องมีการจัดเก็บในสภาวะที่ควบคุมอุณหภูมิและกลิ่น และส่วนใหญ่มีไว้สำหรับผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงน้ำหอม (perfumers), มหาวิทยาลัย, และหน่วยงานวิจัยเอกชน/ราชการ ที่นำส่วนประกอบเดี่ยวๆ เหล่านี้ไปผสมผสานกันเพื่อสร้างสรรค์กลิ่นที่ซับซ้อน
• A-Z: หมวดหมู่นี้ประกอบด้วยเบสกลิ่นที่ผสมสำเร็จแล้ว โดยเป็นการรวมกลุ่มส่วนประกอบแต่ละชนิดเข้าด้วยกันเพื่อสร้างโปรไฟล์กลิ่นที่กว้างขึ้นในหมวดหมู่เฉพาะ (เช่น กลิ่นดอกไม้, กลิ่นไม้ เป็นต้น) เบสเหล่านี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้สะดวกต่อผู้พัฒนาสูตรในการนำไปใช้สร้างสรรค์น้ำหอม เนื่องจากให้โปรไฟล์กลิ่นแบบรวมๆ แทนที่จะเป็นกลิ่นเดี่ยวๆ นี่คือเหตุผลที่หมวด "A-Z" มีให้ทดสอบในห้องแล็บ ในขณะที่หมวด "ส่วนประกอบ" ที่มีจำนวนมากไม่มีให้ทดสอบ

ชื่อบางรายการอาจซ้ำกันได้ หากเบสในหมวด "A-Z" ถูกตั้งชื่อตามโปรไฟล์กลิ่นเด่น ซึ่งอาจมีส่วนประกอบเดี่ยวๆ ที่มีชื่อเดียวกันอยู่ด้วย

2. แนวทางการ Blend กลิ่นแนวผู้ชาย Woody/Smoky

ในการสร้างสรรค์น้ำหอมแนวผู้ชายที่มีลักษณะเด่นเป็นกลิ่นไม้ (Woody) หรือกลิ่นควัน (Smoky) โดยใช้ส่วนผสมจาก bescents.com คุณสามารถทำตามแนวทางนี้ได้:

เริ่มต้นด้วยเบสน้ำหอมคลาสสิก ตามที่แนะนำ โดยใช้กลิ่นดอกไม้ เช่น Jasmine Petal หรือ Jasmine Fresh, Muguet Shiseol, Mayol, P-enamel-7 -ol, และ Rose Petal หรือ Rose Blossom ปรับอัตราส่วนของกลิ่นดอกไม้เหล่านี้เพื่อให้ได้โทนกลิ่นพื้นฐานที่คุณต้องการ

จากนั้น เพิ่มองค์ประกอบของกลิ่นไม้และกลิ่นควัน พิจารณาเพิ่มกลิ่นจากหมวดหมู่กลิ่นไม้ เช่น Woody & Earthy หรือ Lost in Forest สำหรับกลิ่นควัน คุณสามารถสำรวจตัวเลือกอย่าง Birch Sweet Oil หรือ Cade Oil ส่วนผสมเหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างกลิ่นพื้นฐาน (Base Note) และกลิ่นกลาง (Middle Note) ของน้ำหอมของคุณ ทำให้มีความลุ่มลึกและติดทนนาน

เคล็ดลับเทคนิคการ Blend:

• ทำความเข้าใจ Notes ของน้ำหอม: น้ำหอมมักประกอบด้วย Top Note (กลิ่นแรกที่ได้กลิ่น), Middle Note (Heart Note - กลิ่นหลักที่ปรากฏหลังจาก Top Note จางลง), และ Base Note (กลิ่นพื้นฐานที่ติดทนนานที่สุด) กลิ่นไม้และกลิ่นควันมักจะเป็น Base Note หรือ Heart Note ในน้ำหอมผู้ชาย
• เริ่มต้นจากปริมาณน้อยๆ: เริ่มต้นด้วยการผสมส่วนผสมที่คุณเลือกในปริมาณน้อยๆ ใช้หลอดหยดหรือเครื่องมือวัดที่แม่นยำเพื่อควบคุมอัตราส่วน
• ทดลองกับอัตราส่วน: กุญแจสำคัญในการสร้างสรรค์กลิ่นเฉพาะตัวคือการทดลองอัตราส่วนที่แตกต่างกันของส่วนผสมแต่ละชนิด จนกว่าจะได้ความสมดุลและความเข้มข้นที่ต้องการ
• ปล่อยให้กลิ่นเข้ากัน (Mature): หลังจากผสมแล้ว ควรปล่อยให้น้ำหอมที่ผสมไว้นั้นตั้งทิ้งไว้เป็นระยะเวลาหนึ่ง (โดยทั่วไปคือสองสามวันถึงสองสามสัปดาห์) ในภาชนะที่ปิดสนิท เก็บให้ห่างจากแสงและความร้อน กระบวนการนี้ช่วยให้ส่วนประกอบต่างๆ ผสมผสานเข้ากันได้อย่างลงตัว
• การเจือจาง: เมื่อคุณได้หัวน้ำหอมเข้มข้นแล้ว คุณจะต้องนำไปเจือจางในเบสที่เหมาะสมสำหรับ EDT (โดยทั่วไปคือหัวน้ำหอม 5-15% ในแอลกอฮอล์หรือเบสที่ไม่มีแอลกอฮอล์)

โปรดจำไว้ว่าการ Blend เป็นศิลปะ และอาจต้องใช้เวลาหลายครั้งในการทดลองเพื่อสร้างสรรค์กลิ่นเฉพาะตัวของคุณให้สมบูรณ์แบบ ส่วนผสมที่กล่าวถึงเป็นเพียงข้อเสนอแนะ และคุณสามารถสำรวจกลิ่นไม้ กลิ่นดิน หรือกลิ่นควันอื่นๆ ที่มีใน bescents.com เพื่อปรับแต่ง Blend ของคุณเพิ่มเติมได้

3. บริการปรุงกลิ่นน้ำหอมเฉพาะตัว

สำหรับบริการปรุงกลิ่นน้ำหอมเฉพาะตัว ปัจจุบันบริษัทมีบริการรับพัฒนาสูตรสำหรับการดัดแปลงกลิ่นที่มีอยู่แล้ว โดยบริการนี้สำหรับคำสั่งซื้อตั้งแต่ 5 กิโลกรัมขึ้นไป หากคุณมีกลิ่นที่ชอบและต้องการให้ดัดแปลงหรือปรับเปลี่ยนเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสำหรับแบรนด์ของคุณ บริการนี้สามารถช่วยเหลือคุณได้

เราหวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการสร้างสรรค์กลิ่นน้ำหอมอันเป็นเอกลักษณ์สำหรับแบรนด์ของคุณ!