การผสมน้ำหอม: ส่วนประกอบ สารตรึงกลิ่น และการคำนวณปริมาณต่อการฉีด

ถามโดย: nuttadetse เมื่อ: September 12, 2017 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

เกี่ยวกับการผสมน้ำหอม ฉันมีคำถามเกี่ยวกับบทบาทของส่วนประกอบต่างๆ และวิธีการกำหนดปริมาณที่ถูกต้องต่อการฉีดหนึ่งครั้งค่ะ

1. บทบาทเฉพาะของ Glycerin, Ethanol และ Water ในการผสมน้ำหอมคืออะไรคะ?
2. ช่วยแนะนำโครงสร้างสูตรสำหรับน้ำหอมที่เน้นความติดทนนานสูงสุด โดยใช้ส่วนประกอบต่างๆ เช่น Pheromone (DHEAS), หัวน้ำหอม (เช่น Rose Blossom), LastFix, Glycerin, Water และ Ethyl Alcohol (เกรดน้ำหอม) ได้ไหมคะ?
3. ฉันจะทราบได้อย่างไรว่าปริมาณ (น้ำหนักหรือปริมาตร) ของของเหลวที่ถูกพ่นออกมาในการฉีดหนึ่งครั้งจากหัวสเปรย์เฉพาะของฉันมีปริมาณเท่าไหร่? และจะคำนวณเปอร์เซ็นต์ของส่วนประกอบออกฤทธิ์ (เช่น DHEAS) ที่ต้องการในสูตรทั้งหมดเพื่อให้ได้ปริมาณที่ต้องการต่อการฉีดหนึ่งครั้งได้อย่างไร โดยอ้างอิงจากการคำนวณตัวอย่างเช่น "เติม 0.20% DHEAS ที่ความเข้มข้น 10%" เพื่อให้ได้ 20mcg ต่อการฉีด 0.1g?

คำตอบ

คำถามเกี่ยวกับการผสมน้ำหอม

นี่คือคำตอบสำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการผสมน้ำหอม:

บทบาทของ Glycerin, Ethanol และ Water

ในการผสมน้ำหอม:

  • Ethanol (เอทิลแอลกอฮอล์) เป็นตัวทำละลายหลักสำหรับหัวน้ำหอมและส่วนประกอบอื่นๆ ช่วยกระจายกลิ่นและทำให้กลิ่นระเหยและฟุ้งกระจายออกจากผิวได้ดี แอลกอฮอล์เกรดสำหรับน้ำหอมที่มีความบริสุทธิ์สูงเป็นที่นิยมใช้เนื่องจากมีกลิ่นอ่อนที่สุด
  • Water (น้ำ) บางครั้งใช้เป็นตัวเจือจาง แต่มักจะใช้ในปริมาณที่น้อยกว่าแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในน้ำหอมที่มีความเข้มข้นสูง
  • Glycerin (กลีเซอรีน) ทำหน้าที่เป็นสารให้ความชุ่มชื้น ช่วยดึงดูดและกักเก็บความชื้น ในน้ำหอมสามารถช่วยชะลอการระเหยของกลิ่นได้เล็กน้อย ทำหน้าที่เป็นสารตรึงกลิ่นอย่างอ่อน และช่วยให้เนื้อผลิตภัณฑ์มีความนุ่มลื่นน่าใช้ อย่างไรก็ตาม ตามที่ทีมงานได้ตอบไว้ สารตรึงกลิ่นโดยเฉพาะ เช่น LastFix จะมีประสิทธิภาพในการช่วยให้กลิ่นติดทนบนผิวได้ดีกว่า หากคุณใช้สารตรึงกลิ่นโดยเฉพาะแล้ว กลีเซอรีนจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ แต่สามารถใส่เพื่อคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นและปรับเนื้อสัมผัสได้

ส่วนประกอบเหล่านี้ไม่ได้ใส่เพียงเพื่อเพิ่มปริมาณ แต่มีบทบาทเฉพาะในการละลาย การกระจายตัว และส่งผลต่อประสิทธิภาพและสัมผัสของน้ำหอม

สูตรปรับปรุงเพื่อความติดทนนานสูงสุด

เพื่อให้ได้น้ำหอมที่มีประสิทธิภาพและความติดทนนานสูงสุดโดยใช้ส่วนประกอบที่คุณต้องการ สิ่งสำคัญคือความเข้มข้นของส่วนประกอบที่ให้กลิ่น (หัวน้ำหอม, DHEAS, สารตรึงกลิ่น) และประสิทธิภาพของสารตรึงกลิ่น

จากส่วนประกอบที่คุณเสนอและเป้าหมายที่ต้องการประสิทธิภาพสูง (เทียบเท่าความเข้มข้นระดับ Extrait de Parfum) นี่คือโครงสร้างสูตรที่แนะนำ โปรดทราบว่าควรยืนยันอัตราการใช้ DHEAS สูงสุดที่ปลอดภัยก่อนสรุปสูตร เนื่องจาก 1% ที่คุณเสนอมานั้นสูงกว่าความเข้มข้นที่ได้จากการคำนวณตัวอย่างที่คุณให้มา (ซึ่งได้ความเข้มข้น DHEAS บริสุทธิ์ 0.02% ในผลิตภัณฑ์สุดท้าย)

  • Pheromone (DHEAS): 1% (โปรดยืนยันอัตราการใช้ที่ปลอดภัย; การคำนวณตัวอย่างบ่งชี้ว่าความเข้มข้นสุดท้ายต่ำกว่านี้มาก)
  • หัวน้ำหอม (เช่น Rose Blossom): 15%
  • LastFix: 20%
  • Glycerin (กลีเซอรีน): 2% (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้; หลักๆ เพื่อให้ความชุ่มชื้น/สัมผัสผิวที่ดี, LastFix เป็นสารตรึงกลิ่นหลัก)
  • Water (น้ำ): 3%
  • Ethyl Alcohol (99.9% เกรดน้ำหอม): 59%
  • รวม: 100%

สูตรนี้มีความเข้มข้นของส่วนประกอบที่ให้กลิ่นค่อนข้างสูง (1% + 15% + 20% = 36%) และมีสารตรึงกลิ่นโดยเฉพาะ (LastFix) ซึ่งจะช่วยให้กลิ่นติดทนนาน เปอร์เซ็นต์แอลกอฮอล์เกรดน้ำหอมที่สูงช่วยให้การละลายและการกระจายตัวเป็นไปอย่างเหมาะสม การปรับสัดส่วนเล็กน้อยอาจจำเป็นขึ้นอยู่กับคุณสมบัติเฉพาะของส่วนประกอบที่คุณใช้และลักษณะผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ต้องการ

การทำความเข้าใจการคำนวณ DHEAS

การคำนวณที่คุณให้มาอธิบายวิธีการกำหนดความเข้มข้นของ DHEAS ที่ต้องใช้ในเบสน้ำหอมของคุณ เพื่อให้แน่ใจว่าการฉีดแต่ละครั้งจะให้ปริมาณ DHEAS ตามที่ต้องการ (โดส)

ปัจจัยสำคัญที่คุณต้องหาเองคือ ปริมาณ (น้ำหนักหรือปริมาตร) ของของเหลวที่ถูกพ่นออกมาในการฉีดหนึ่งครั้ง จากหัวสเปรย์เฉพาะที่คุณใช้ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละหัวสเปรย์

ในการหาค่านี้ คุณสามารถทำได้โดย:

  1. ชั่งน้ำหนักขวดเปล่าพร้อมหัวสเปรย์
  2. ฉีดสเปรย์ตามจำนวนครั้งที่กำหนด (เช่น 10 หรือ 20 ครั้ง)
  3. ชั่งน้ำหนักขวดอีกครั้ง
  4. คำนวณน้ำหนักที่หายไป (น้ำหนักเดิม - น้ำหนักใหม่) นี่คือน้ำหนักรวมที่ถูกพ่นออกมา
  5. หารน้ำหนักรวมที่ถูกพ่นออกมาด้วยจำนวนครั้งที่ฉีด เพื่อหาน้ำหนักเฉลี่ยต่อการฉีดหนึ่งครั้ง

คำอธิบายการคำนวณตัวอย่าง:

ตัวอย่างระบุว่า: "20mcg (ไมโครกรัม) เท่ากับการใช้ 0.25% 7-Keto DHEA Acetate ปริมาณ 10mg (มิลลิกรัม) (10มิลลิกรัม = 0.01กรัม)" ส่วนนี้ดูเหมือนจะเป็นการให้ข้อมูลบริบทเกี่ยวกับรูปแบบหรือความเข้มข้นอื่น (7-Keto DHEA Acetate) และปริมาณที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งอาจทำให้สับสนเมื่อตามด้วยการคำนวณ DHEAS

มาเน้นที่ตัวอย่างการคำนวณ DHEAS ที่ให้มา:

  • เป้าหมาย: ต้องการให้มี Pheromone (DHEAS) 25mcg ในการฉีดหนึ่งครั้ง
  • สมมติฐาน: การฉีดหนึ่งครั้งเท่ากับ 0.1 กรัมของของเหลว
  • การคำนวณที่แสดง: "เติม 0.20% DHEAS ที่ความเข้มข้น 10%" หมายความว่าคุณเติมส่วนผสม DHEAS ความเข้มข้น 10% ในปริมาณ 0.20 ส่วน ต่อเบสน้ำหอม 99.80 ส่วน (หรือ 0.20 กรัมของส่วนผสมเข้มข้น ต่อ 100 กรัมของผลิตภัณฑ์ทั้งหมด หากพิจารณาเป็นเปอร์เซ็นต์สุดท้าย)
  • ความเข้มข้นของ DHEAS บริสุทธิ์ ในเบสน้ำหอมสุดท้ายคำนวณได้ดังนี้: 0.20% (ของส่วนผสมเข้มข้น 10%) * 10% (ความเข้มข้นของส่วนผสมเข้มข้น) = 0.02% DHEAS บริสุทธิ์ในน้ำหอมสุดท้าย
  • หากการฉีดหนึ่งครั้งเท่ากับ 0.1 กรัม ปริมาณ DHEAS บริสุทธิ์ในการฉีดหนึ่งครั้งคือ: 0.1 กรัม/สเปรย์ * 0.02% = 0.1 * 0.0002 กรัม = 0.00002 กรัม = 0.02 มิลลิกรัม = 20 ไมโครกรัม (mcg)

ดังนั้น การคำนวณที่แสดง (การเติม 0.20% ของส่วนผสม DHEAS ความเข้มข้น 10%) จะได้ DHEAS 20mcg ต่อการฉีด 0.1 กรัม โปรดสังเกตว่าผลลัพธ์นี้ (20mcg) แตกต่างเล็กน้อยจากเป้าหมายที่ระบุในข้อความตัวอย่าง (25mcg) หากต้องการให้ได้ 25mcg ต่อการฉีด 0.1 กรัม ความเข้มข้นสุดท้ายของ DHEAS บริสุทธิ์ในน้ำหอมจะต้องเป็น 0.025%

สรุปคือ เมื่อคุณทราบน้ำหนักต่อการฉีดของหัวสเปรย์เฉพาะของคุณแล้ว คุณสามารถคำนวณเปอร์เซ็นต์ของส่วนผสม DHEAS ที่ต้องการในสูตรทั้งหมดเพื่อให้ได้ปริมาณโดสที่ต้องการต่อการฉีดหนึ่งครั้ง.

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Glycerin (USP/Food Grade)
Glycerin (USP/Food Grade)
เครื่องสำอาง
Ethyl Alcohol (99.9% , 200 Proof, Research/Perfumer Grade)
Ethyl Alcohol (99.9% , 200 Proof, Research/Perfumer Grade)
เครื่องสำอาง
Rose Blossom
Rose Blossom
เครื่องสำอาง