การผสมผสานเปปไทด์หลายชนิดเพื่อดูแลปัญหาผิวรอบดวงตา
คำถาม
การผสมเปปไทด์ Matrixyl 3000, Argireline, และ Pep®-Eye ในสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรอบดวงตาเหมาะสมหรือไม่? การทำงานของเปปไทด์เหล่านี้จะซ้ำซ้อนกันหรือเสริมฤทธิ์กัน และการผสมรวมกันจะช่วยดูแลปัญหาผิวรอบดวงตาได้อย่างครอบคลุมหรือไม่?
คำตอบ
การผสมผสานเปปไทด์สำหรับผลิตภัณฑ์รอบดวงตา
สำหรับส่วนผสมเปปไทด์ที่คุณสอบถามมา ได้แก่ Pal-GHK, Pal-GQPR (เทียบเท่า Matrixyl 3000), Acetyl Hexapeptide-8 (เทียบเท่า Argireline), และ Pep®-Eye (Acetyl Tetrapeptide-5) นั้น การผสมผสานส่วนผสมเหล่านี้เข้าด้วยกันในสูตรผลิตภัณฑ์ดูแลผิวรอบดวงตา ไม่น่าจะทำให้รู้สึกหนักเกินไปในแง่ของการทำงานที่ซ้ำซ้อนกัน แต่เป็นการเสริมประสิทธิภาพกันมากกว่า เนื่องจากแต่ละตัวมีกลไกการทำงานที่แตกต่างกันเพื่อดูแลปัญหาผิวรอบดวงตาในหลายมิติ
- Pal-GHK, Pal-GQPR (เทียบเท่า Matrixyl 3000): เปปไทด์กลุ่มนี้เน้นการ กระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจน และสารสำคัญอื่นๆ ในผิว ช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิวและเพิ่มความยืดหยุ่น
- Acetyl Hexapeptide-8 (เทียบเท่า Argireline): เปปไทด์ตัวนี้ทำงานโดยการ ลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า โดยเฉพาะบริเวณรอบดวงตาและหน้าผาก เหมาะสำหรับริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ
- Pep®-Eye (Acetyl Tetrapeptide-5): เปปไทด์นี้มีคุณสมบัติเด่นในการ ลดอาการบวม (ถุงใต้ตา) โดยยับยั้งกระบวนการ Glycation และ ลดรอยคล้ำใต้ตา โดยยับยั้งการซึมผ่านของหลอดเลือด
จะเห็นได้ว่า:
- Matrixyl 3000 จัดการริ้วรอยที่เกี่ยวกับโครงสร้างผิว (คอลลาเจน).
- Argireline จัดการริ้วรอยที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ (ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า).
- Pep®-Eye จัดการปัญหาถุงใต้ตาและรอยคล้ำใต้ตา.
ดังนั้น การใช้ทั้งสามตัวร่วมกันเป็นการดูแลปัญหาผิวรอบดวงตาแบบครบวงจร ทั้งเรื่องริ้วรอยจากหลายสาเหตุ อาการบวม และรอยคล้ำ การทำงานของแต่ละตัวไม่ซ้ำซ้อนกัน แต่เป็นการเสริมฤทธิ์กันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในการดูแลปัญหาที่หลากหลายของผิวรอบดวงตาครับ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)

Pal-GHK, Pal-GQPR (eq Matrixyl 3000)
