การผสม Ethyl Ascorbic Acid และ Perfect-C™ ในเซรั่ม

คุณกำลังวางแผนที่จะทำเซรั่มโดยใช้ Vitamin C อนุพันธ์ 2 ชนิด ได้แก่ Ethyl Ascorbic Acid และ Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate) โดยแต่ละชนิดใช้ความเข้มข้น 10%

จากข้อมูลผลิตภัณฑ์:

• Ethyl Ascorbic Acid เป็น Vitamin C อนุพันธ์ที่ ละลายในน้ำ มีความเสถียรสูงและผสมได้ง่ายในส่วนของน้ำในสูตร อัตราการใช้ที่แนะนำคือ 1-10% โดยทั่วไปแนะนำที่ 3% ช่วง pH ที่เหมาะสมคือ 3.5-6.0
• Perfect-C™ (Ascorbyl Tetraisopalmitate) เป็น Vitamin C อนุพันธ์ที่ ละลายในน้ำมัน มีความเสถียรสูงเช่นกัน ควรผสมในส่วนของน้ำมันหรือในขั้นตอนการทำครีม อัตราการใช้ที่แนะนำคือ 1-10% โดยทั่วไปแนะนำที่ 5% ช่วง pH ที่เหมาะสมคือ 5.0-5.5

ความเป็นไปได้ในการผสม

การผสมส่วนผสมที่ละลายในน้ำและละลายในน้ำมันเข้าด้วยกันจำเป็นต้องใช้ประเภทของสูตรเฉพาะ เซรั่มที่เป็นเบสน้ำอย่างเดียวหรือเบสน้ำมันอย่างเดียวจะไม่สามารถใช้ได้กับทั้งสองชนิด เพื่อให้สามารถผสม Ethyl Ascorbic Acid และ Perfect-C™ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณจะต้องสร้างสูตรแบบ อิมัลชัน (เช่น โลชั่นหรือครีม) หรืออาจเป็น เซรั่มแบบสองเฟส ที่มีทั้งส่วนของน้ำและน้ำมันที่ต้องเขย่าผสมก่อนใช้

ความเข้มข้นและโอกาสในการระคายเคือง

คุณเสนอที่จะใช้ส่วนผสมละ 10% ซึ่งจะทำให้มีความเข้มข้นรวมของ Vitamin C อนุพันธ์อยู่ที่ 20%

• แม้ว่าอัตราการใช้สูงสุดที่แนะนำสำหรับแต่ละส่วนผสม แยกกัน คือ 10% แต่การนำมารวมกันที่ความเข้มข้นสูงเช่นนี้ทำให้ความเข้มข้นรวมสูงมาก
• อนุพันธ์ทั้งสองชนิดนี้โดยทั่วไปถือว่าระคายเคืองน้อยกว่า L-Ascorbic Acid อย่างไรก็ตาม ความเข้มข้นรวม 20% ถือว่าสูงมากสำหรับผิวหน้า และ อาจจะแรงเกินไปหรือทำให้เกิดการระคายเคืองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
• อัตราการใช้ที่แนะนำโดยทั่วไปจะต่ำกว่า (3% สำหรับ Ethyl Ascorbic Acid และ 5% สำหรับ Perfect-C™) ซึ่งเป็นความเข้มข้นที่มีประสิทธิภาพในการให้ประโยชน์ด้านความขาวใสและลดริ้วรอย โดยมีความเสี่ยงในการระคายเคืองน้อยกว่า

ความเข้ากันได้

ส่วนผสมทั้งสองชนิดระบุว่า ไม่ควรใช้ร่วมกับ Vitamin B3 (Niacinamide) และ Zinc PCA ในสูตรเดียวกัน

สรุป

ในทางเทคนิคแล้วสามารถทำสูตรผลิตภัณฑ์ที่มีทั้ง Ethyl Ascorbic Acid และ Perfect-C™ ได้โดยการสร้างระบบอิมัลชันหรือแบบสองเฟส อย่างไรก็ตาม การใช้แต่ละชนิดที่ความเข้มข้น 10% รวมเป็น 20% ถือเป็นความเข้มข้นที่สูงมาก แม้ว่าบางสภาพผิวอาจทนได้ แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงในการระคายเคืองอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับการใช้ความเข้มข้นที่ต่ำกว่าซึ่งแนะนำโดยทั่วไป (เช่น 3-5% ของแต่ละชนิด หรือความเข้มข้นรวม 5-10%)

โดยทั่วไปแนะนำให้เริ่มต้นด้วยความเข้มข้นที่ต่ำกว่าเมื่อผสมสารออกฤทธิ์ที่มีศักยภาพสูง และสังเกตปฏิกิริยาของผิวก่อนที่จะพิจารณาใช้ความเข้มข้นที่สูงขึ้น.