การผสมส่วนผสมสำหรับปัญหาสิว รอยสิว ฝ้า และผิวใส

ถามโดย: chaitawat.mano เมื่อ: December 10, 2015 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการทราบวิธีการผสมส่วนผสม Niacinamide (วิตามินบี 3), Salicylic Acid (BHA), Vitamin C (รูปแบบต่างๆ เช่น L-Ascorbic Acid, Ethyl Ascorbic Acid, Ascorbyl Glucoside, Sodium Ascorbyl Phosphate, Ascorbyl Propyl Hyaluronate) และ Alpha Arbutin เพื่อทำผลิตภัณฑ์เดียวหรือใช้ในรูทีนดูแลปัญหาสิว รอยแผลเป็นจากสิว ฝ้า และผิวหมองคล้ำให้กระจ่างใส การปรุงสูตรเองโดยรวมส่วนผสมทั้งหมดนี้เข้าด้วยกันทำได้หรือไม่ หรือมีแนวทางอื่นแนะนำ?

คำตอบ

การดูแลปัญหาสิว รอยสิว ฝ้า และผิวหมองคล้ำ

สวัสดีค่ะ เข้าใจถึงปัญหาผิวที่คุณกังวลนะคะ ทั้งเรื่องสิวที่ยังคงมีอยู่ รอยแผลเป็นจากสิว ฝ้า และความต้องการให้ผิวขาวกระจ่างใสขึ้น การดูแลปัญหาเหล่านี้พร้อมกันต้องใช้ส่วนผสมที่ออกฤทธิ์ได้หลากหลายค่ะ

ส่วนผสมหลักที่นิยมและมีงานวิจัยรองรับว่าช่วยจัดการปัญหาเหล่านี้ได้ มีดังนี้ค่ะ:

  • Niacinamide (วิตามินบี 3): ช่วยลดการอักเสบของสิว ลดรอยแดงรอยดำจากสิว เสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ลดความมันบนใบหน้า และช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้ มีหลายเกรดให้เลือก เช่น Safe-B3™ หรือ Extreme-B3™ ซึ่งมีความบริสุทธิ์สูง ลดโอกาสการเกิดอาการแดงคัน สามารถใช้ได้ในความเข้มข้น 1-10% โดยทั่วไปแนะนำที่ 5% ละลายน้ำได้ดี และมีความคงตัวในช่วง pH กว้าง (3-8)
  • Salicylic Acid (BHA): เป็นสารในกลุ่ม BHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวในรูขุมขน ลดการอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของสิว ช่วยละลายสิวอุดตัน และมีคุณสมบัติฆ่าเชื้ออ่อนๆ Salicylic Acid รูปแบบทั่วไปไม่ละลายน้ำ ต้องละลายในตัวทำละลายที่เหมาะสมก่อนใช้ในสูตร แต่ก็มีรูปแบบที่ละลายน้ำได้โดยตรง เช่น Complex Salicylic Acid, ActiveRelease™ Salicylic Acid, Acacia Salicylic Acid หรือ Liquid Salicylic Acid อัตราการใช้สำหรับผลิตภัณฑ์ทาทิ้งไว้บนผิวคือไม่เกิน 2% ตามข้อกำหนด อย.
  • Vitamin C: เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดรอยแผลเป็นจากสิว ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ และทำให้ผิวกระจ่างใส Vitamin C มีหลายรูปแบบ เช่น L-Ascorbic Acid ซึ่งเป็นรูปแบบที่ออกฤทธิ์ได้ดีที่สุด แต่ไม่คงตัวในน้ำและต้องการ pH ที่ต่ำมาก (2.0-4.0) เพื่อความคงตัวและประสิทธิภาพ หรืออนุพันธ์ที่คงตัวกว่าและผสมง่ายกว่า เช่น Ethyl Ascorbic Acid, Ascorbyl Glucoside (AA-2G), Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) หรือ Ascorbyl Propyl Hyaluronate (Vitamin C Hyaluron) ซึ่งแต่ละชนิดมีคุณสมบัติ การละลาย และช่วง pH ที่เหมาะสมแตกต่างกันไป อัตราการใช้ขึ้นอยู่กับชนิดและความเข้มข้นที่ต้องการ แต่ L-Ascorbic Acid มักใช้ที่ 10-15% เพื่อผลด้านความกระจ่างใส
  • Alpha Arbutin: เป็นสารที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานินโดยตรง มีประสิทธิภาพในการลดฝ้า กระ จุดด่างดำ และช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใส นิยมใช้ที่อัตรา 0.2-2% (แนะนำ 2% เพื่อผลสูงสุด) ละลายน้ำได้ดี และควรใช้ในสูตรที่มี pH ระหว่าง 3.5-6.5 เพื่อป้องกันการสลายตัวเป็น Hydroquinone

การปรุงสูตรใช้เอง (DIY Formulation):

การผสมส่วนผสมหลายชนิดเข้าด้วยกันในสูตรเดียวเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและมีความคงตัวเป็นเรื่องที่ต้องอาศัยความรู้และประสบการณ์ รวมถึงอุปกรณ์ที่เหมาะสม เนื่องจากส่วนผสมแต่ละชนิดมีคุณสมบัติ การละลาย ความคงตัว และช่วง pH ที่เหมาะสมแตกต่างกันมาก การผสมที่ไม่ถูกต้องอาจทำให้ส่วนผสมเสื่อมสภาพ ไม่เห็นผล หรืออาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้

ดังนั้น การให้สูตรผสม DIY ที่มีปริมาณและสัดส่วนที่แน่นอน (เปอร์เซ็นต์/มล.) โดยละเอียดในที่นี้จึงเป็นไปได้ยากและอาจไม่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ค่ะ

คำแนะนำ:

  • เริ่มต้นด้วยผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป: หากคุณยังใหม่กับการผสมสกินแคร์ แนะนำให้ลองใช้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่มีส่วนผสมเหล่านี้ในความเข้มข้นที่เหมาะสมก่อน เพื่อดูว่าผิวของคุณตอบสนองอย่างไร
  • ใช้ส่วนผสมเดี่ยวหรือผสมง่าย: หากต้องการลองผสมเอง ควรเริ่มต้นจากส่วนผสมที่ผสมง่ายและเข้ากันได้ดี หรือเลือกใช้ส่วนผสมที่มีคุณสมบัติครอบคลุมหลายด้านในตัวเอง
  • ศึกษาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ: หากต้องการทำสูตรที่ซับซ้อนขึ้น ควรศึกษาค้นคว้าสูตรผสม DIY จากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือมากๆ ซึ่งจะมีสัดส่วน วิธีการทำ และข้อควรระวังที่ผ่านการทดสอบแล้วอย่างละเอียด
  • พิจารณาการใช้ผลิตภัณฑ์หลายชนิดร่วมกัน: คุณอาจใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมหลักแตกต่างกันในแต่ละขั้นตอนของการบำรุงผิว เช่น ใช้เซรั่ม Salicylic Acid สำหรับปัญหาสิว ตามด้วยเซรั่ม Niacinamide หรือ Vitamin C สำหรับรอยสิวและความกระจ่างใส และครีมที่มี Alpha Arbutin สำหรับฝ้าและผิวขาวขึ้น การใช้ผลิตภัณฑ์แยกกันอาจช่วยลดปัญหาความเข้ากันไม่ได้ของส่วนผสมในสูตรเดียวได้

ส่วนผสมที่คุณสนใจ เช่น Safe-B3™, Extreme-B3™, Salicylic Acid (BHA) รูปแบบต่างๆ, Vitamin C รูปแบบต่างๆ (เช่น L-Ascorbic Acid, Ethyl Ascorbic Acid, Ascorbyl Glucoside, Sodium Ascorbyl Phosphate, Ascorbyl Propyl Hyaluronate) และ Alpha Arbutin เป็นส่วนผสมที่มีประสิทธิภาพในการดูแลปัญหาผิวที่คุณกล่าวมาค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)
Alpha Arbutin (Switzerland)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)
เครื่องสำอาง
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
Salicylic Acid (BHA) กรดซาลิไซลิค
เครื่องสำอาง
Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
Ascorbyl Glucoside (AA-2G Stabilized Vitamin C)
เครื่องสำอาง
Alpha Arbutin (China, Powder, Enzymatic Synthesis)
Alpha Arbutin (China, Powder, Enzymatic Synthesis)
เครื่องสำอาง
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Standard)
Vitamin C (L-ascorbic acid) (Standard)
เครื่องสำอาง
Complex Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
Complex Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)
เครื่องสำอาง
Alpha Arbutin (China, Crystal Form)
Alpha Arbutin (China, Crystal Form)
เครื่องสำอาง
Acacia Salicylic Acid
Acacia Salicylic Acid
เครื่องสำอาง
Sodium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C SAP, e.q. Stay C50)
Sodium Ascorbyl Phosphate (Vitamin C SAP, e.q. Stay C50)
เครื่องสำอาง
ActiveRelease™ Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
ActiveRelease™ Salicylic Acid (Powder, Water-Soluble)
เครื่องสำอาง
Extreme-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Highest Purity)
Extreme-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Highest Purity)
เครื่องสำอาง
Ascorbyl Propyl Hyaluronate (Vitamin C Hyaluron)
Ascorbyl Propyl Hyaluronate (Vitamin C Hyaluron)
เครื่องสำอาง