การสร้างสูตรเจลบำรุงผิวของคุณ

คุณต้องการสร้างเจลบำรุงผิวสำหรับผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื้น และมีริ้วรอย โดยใช้เบสเจลว่านหางจระเข้ และส่วนผสมที่มีประโยชน์หลายชนิด นี่เป็นแนวทางที่ดีในการปรับแต่งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของคุณเองค่ะ

จากส่วนผสมและปริมาณที่คุณเลือก นี่คือคำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการผสมและปริมาณที่แนะนำเพื่อช่วยให้ได้เนื้อสัมผัสที่เหมาะสม:

ปริมาณที่แนะนำ

ปริมาณที่คุณเสนอมาในตอนแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปริมาณ Galactomyces Ferment Filtrate ที่สูง และการเติมน้ำมัน อาจทำให้เนื้อเจลมีความเหลวมากกว่าเบสเจลว่านหางจระเข้เดิมมาก เพื่อช่วยรักษาเนื้อเจลที่ดีขึ้นในขณะที่ยังคงได้รับประโยชน์จากส่วนผสมเหล่านี้ ลองพิจารณาปรับปริมาณดังนี้:

• Aloe Vera Gel (Heavy): 100 กรัม
• Lemon Peel Bioferment (Lemon Skin™): 3 กรัม (ปริมาณนี้อยู่ในช่วงที่แนะนำและให้ประโยชน์ด้านความกระจ่างใสและสารต้านอนุมูลอิสระ)
• Ume Extract (Anti-Glycation): 2 กรัม (ปริมาณนี้อยู่ในช่วงที่แนะนำและช่วยต่อต้านผิวที่ดูเหลืองคล้ำ)
• 4D Hyaluronic Acid: 5-10 กรัม (การใช้ 5-10% เหมาะสำหรับผิวแห้ง การเริ่มต้นที่ 5 กรัมอาจช่วยรักษาความคงตัวของเนื้อสัมผัสได้ และคุณสามารถเพิ่มได้ถึง 10 กรัม หากเนื้อสัมผัสยังคงยอมรับได้)
• Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera): 10-20 กรัม (การใช้เปอร์เซ็นต์ที่ต่ำลง เช่น 10-20% แทนที่จะเป็น 50% จะช่วยรักษาความข้นของเจลได้อย่างมาก ในขณะที่ยังคงให้ประโยชน์ในการฟื้นฟูผิว)
• Rose Hip Oil (Virgin): 5-10 กรัม (การเติมน้ำมันลงในเจลที่มีเบสเป็นน้ำโดยไม่มีอิมัลซิไฟเออร์อาจทำได้ยากและอาจทำให้แยกชั้นได้ การใช้ปริมาณที่น้อยลง เช่น 5 กรัม อาจผสมได้ง่ายกว่า คนให้เข้ากันดี)

อัตราส่วนที่ปรับปรุงนี้จะช่วยลดปริมาณของเหลว/น้ำมันที่เติมเข้าไปทั้งหมด ทำให้ควบคุมความคงตัวของเนื้อสัมผัสสุดท้ายได้ง่ายขึ้น

ขั้นตอนการผสม

การผสมส่วนผสมเหล่านี้ลงในเบสเจลว่านหางจระเข้ค่อนข้างง่าย เนื่องจากเบสนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผสมกับของเหลวได้ง่าย ทำตามขั้นตอนเหล่านี้:

1. ชั่งเบส: เริ่มต้นด้วยการชั่งเบส Aloe Vera Gel (Heavy) 100 กรัม ลงในภาชนะที่สะอาดอย่างแม่นยำ
2. เติมส่วนผสมที่เป็นของเหลวที่ละลายน้ำได้: เติม Lemon Peel Bioferment, Ume Extract, 4D Hyaluronic Acid และ Galactomyces Ferment Filtrate ตามปริมาณที่วัดไว้ลงในเบสเจลว่านหางจระเข้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเบสอยู่ในอุณหภูมิห้องหรือเย็นกว่า (ต่ำกว่า 40°C) ก่อนเติมส่วนผสมที่ไวต่ออุณหภูมิ เช่น Lemon Peel Bioferment, Ume Extract และ Galactomyces Ferment Filtrate
3. คน: คนส่วนผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึงด้วยช้อนหรือไม้พาย เป็นเวลา 1-3 นาที จนส่วนผสมที่เป็นของเหลวทั้งหมดกระจายตัวอย่างสมบูรณ์และเจลดูเป็นเนื้อเดียวกัน การคนธรรมดาก็เพียงพอสำหรับการผสมของเหลวที่ละลายน้ำได้ลงในเบสเจลประเภทนี้
4. ผสมน้ำมัน: ค่อยๆ เติม Rose Hip Oil ตามปริมาณที่วัดไว้ลงไปในขณะที่ยังคงคนอย่างต่อเนื่อง การคนจะช่วยกระจายน้ำมัน แต่โปรดทราบว่าเจลที่มีเบสเป็นน้ำและน้ำมันสามารถแยกชั้นได้เมื่อเวลาผ่านไปหากไม่มีอิมัลซิไฟเออร์ คนจนกว่าน้ำมันจะกระจายตัวสม่ำเสมอที่สุดเท่าที่จะทำได้
5. ตรวจสอบขั้นสุดท้าย: เมื่อผสมทุกอย่างเข้ากันแล้ว ให้สังเกตความคงตัว หากเหลวกว่าที่ต้องการ คุณอาจต้องลดปริมาณส่วนผสมที่เป็นของเหลวในการทำครั้งต่อไป ตรวจสอบค่า pH เพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในช่วงที่แนะนำสำหรับส่วนผสม (โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 4.0 ถึง 6.5)
6. บรรจุ: ถ่ายเจลที่ผสมเสร็จแล้วลงในภาชนะที่เหมาะสม

การคนกับการปั่น

สำหรับส่วนผสมที่เป็นของเหลวที่ละลายน้ำได้ (Lemon Peel Bioferment, Ume Extract, 4D Hyaluronic Acid, Galactomyces Ferment Filtrate) การคนธรรมดาก็เพียงพอที่จะผสมให้เข้ากับเบสเจลว่านหางจระเข้ได้ เบสนี้ถูกคิดค้นมาเพื่อให้ผสมกับของเหลวดังกล่าวได้ง่าย

อย่างไรก็ตาม การผสมน้ำมัน เช่น Rose Hip Oil ลงในเจลที่มีเบสเป็นน้ำโดยไม่มีอิมัลซิไฟเออร์นั้นทำได้ยากกว่า แม้ว่าการคนจะช่วยกระจายน้ำมันได้ในตอนแรก แต่อาจไม่สร้างส่วนผสมที่เสถียร และน้ำมันอาจแยกชั้นเมื่อเวลาผ่านไป หากคุณพบว่ามีการแยกชั้น คุณอาจพิจารณาใช้อิมัลซิไฟเออร์ที่เหมาะสมในปริมาณเล็กน้อยในการทำครั้งต่อไป แม้ว่าจะเพิ่มความซับซ้อนก็ตาม สำหรับการผสมแบบง่ายๆ นี้ การคนอย่างทั่วถึงเป็นวิธีที่ใช้ได้ แต่โปรดเข้าใจว่าความเสถียรในระยะยาวเมื่อมีน้ำมันอาจไม่เท่ากับการใช้อิมัลซิไฟเออร์

ด้วยการปรับปริมาณและทำตามขั้นตอนเหล่านี้ คุณสามารถสร้างเจลที่ปรับแต่งได้เองซึ่งตอบโจทย์ปัญหาผิวของคุณ ในขณะที่ยังคงรักษาเนื้อสัมผัสที่ต้องการได้ดียิ่งขึ้น