การผสมเบสสำหรับก้านไม้หอมและน้ำหอม และสูตรถุงหอมเพื่อความติดทน

ถามโดย: pinto.herbs.spa เมื่อ: November 11, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

มีคำถาม 2 ข้อเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์น้ำหอมค่ะ:

  1. ก้านไม้หอม: สามารถนำ Reed Diffuser Base (Type 2) ผสมกับหัวน้ำหอมได้เลยหรือไม่ หรือต้องเติมส่วนผสมอื่น ๆ เช่น DPG, แอลกอฮอล์ หรือน้ำบริสุทธิ์ด้วย?
  2. ถุงหอม: ต้องการทำถุงหอมให้กลิ่นติดทนและค่อย ๆ กระจายกลิ่น มีผลิตภัณฑ์ชื่อ Flora Fix™ และใช้สูตรที่มีส่วนผสมของ หัวน้ำหอม + Ethyl Alcohol + มัส (Musk) + DPG อยากทราบอัตราส่วนผสมของ Flora Fix™ สำหรับการทำถุงหอม และสูตรปัจจุบันที่ใช้ถูกต้องหรือไม่สำหรับการทำให้กลิ่นติดทนนาน?

คำตอบ

สวัสดีค่ะ

สำหรับคำถามเรื่องการผสมเบสสำหรับก้านไม้หอม (Reed Diffuser Base) และการทำถุงหอมนะคะ

การผสมเบสสำหรับก้านไม้หอม

สำหรับการผสม Reed Diffuser Base (Type 2) กับน้ำหอม วิธีการทั่วไปคือการนำเบสมาผสมกับน้ำหอมได้โดยตรงค่ะ จากข้อมูลของ Reed Diffuser Base (Type 1) ซึ่งมีลักษณะคล้ายกัน เบสเหล่านี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยละลายน้ำหอมและกระจายกลิ่นผ่านก้านไม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • อัตราส่วนผสม: อัตราส่วนที่นิยมใช้คือเบสประมาณ 70-75% ต่อน้ำหอม 25-30% คุณสามารถปรับปริมาณน้ำหอมได้ตามความเข้มข้นของกลิ่นที่ต้องการ
  • ส่วนผสมเพิ่มเติม: โดยทั่วไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องเติม DPG, แอลกอฮอล์ หรือน้ำบริสุทธิ์ เพิ่มเติมลงใน Reed Diffuser Base โดยตรงค่ะ เพราะตัวเบสเองถูกออกแบบมาให้ทำหน้าที่ละลายและกระจายกลิ่นน้ำหอมได้ดีอยู่แล้ว การเติมน้ำไม่แนะนำเนื่องจากน้ำกับน้ำหอมไม่เข้ากัน และการเติมแอลกอฮอล์หรือ DPG เพิ่มเติมมักจะไม่จำเป็นและอาจทำให้คุณสมบัติของเบสเปลี่ยนไปได้
  • กรณีที่น้ำหอมแยกชั้น: หากผสมแล้วพบว่าน้ำหอมแยกชั้นออกจากเบส diffuser จากข้อมูลของ Reed Diffuser Base (Type 1) แนะนำให้ลองนำน้ำหอมไปผสมกับ Ethyl Alcohol เล็กน้อยก่อน แล้วจึงนำส่วนผสมนี้ไปเติมในเบส diffuser ค่ะ

ถุงหอมและ Flora Fix™

คุณต้องการทำถุงหอมให้กลิ่นติดทนและค่อยๆ กระจายกลิ่น และสอบถามเกี่ยวกับอัตราส่วนผสมของ Flora Fix™ รวมถึงสูตรปัจจุบันของคุณ (หัวน้ำหอม + แอลกอฮอล์ + มัส + DPG) ว่าถูกต้องหรือไม่

  • Flora Fix™: ดิฉันไม่พบข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงหรืออัตราส่วนการใช้งานที่แนะนำสำหรับ "Flora Fix™" ในฐานข้อมูลจากการค้นหาที่ทำได้ในขณะนี้ จึงไม่สามารถให้คำแนะนำเฉพาะเจาะจงสำหรับการใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ได้ค่ะ
  • สูตรปัจจุบันของคุณ: สูตรที่คุณใช้ซึ่งมี หัวน้ำหอม, Ethyl Alcohol, มัส (Musk) และ DPG เป็นแนวทางที่ดีสำหรับการทำผลิตภัณฑ์ให้ความหอมอย่างถุงหอม และมีการใช้ส่วนผสมที่ช่วยให้กลิ่นติดทน
    • หัวน้ำหอม: ให้กลิ่นหลัก
    • Ethyl Alcohol: ทำหน้าที่เป็นตัวทำละลายช่วยละลายหัวน้ำหอม และช่วยในการกระจายกลิ่นช่วงแรกเมื่อระเหยไป
    • DPG (Dipropylene Glycol): จากข้อมูลผลิตภัณฑ์ DPG เหมาะสำหรับใช้เป็นเบสในน้ำหอมและทำหน้าที่เป็นสารตรึงกลิ่น (fixative) ช่วยให้น้ำหอมระเหยช้าลง ทำให้กลิ่นติดทนยาวนานขึ้น
    • มัส (Musk): มักใช้ในน้ำหอมเป็น Base Note และเป็นสารตรึงกลิ่นเพื่อเพิ่มความซับซ้อนของกลิ่นและช่วยให้กลิ่นติดทน
  • การผสมสำหรับถุงหอม: ในการทำถุงหอม คุณจะผสมส่วนผสมน้ำหอมของคุณ (หัวน้ำหอม, แอลกอฮอล์, มัส, DPG) เข้าด้วยกัน จากนั้นนำไปหยดหรือคลุกเคล้ากับวัสดุพาหะ เช่น เวอร์มิคูไลท์, ไม้แห้ง, บุหงา หรือเม็ดบีดส์ดูดซับกลิ่น แล้วจึงนำไปใส่ในถุงผ้าตาข่าย อัตราส่วนของส่วนผสมน้ำหอมขึ้นอยู่กับความเข้มข้นและความติดทนของกลิ่นที่ต้องการ แต่การใช้ DPG และ Musk เป็นส่วนผสมนั้นเหมาะสมกับการช่วยยืดอายุความหอมค่ะ

โดยสรุป สำหรับก้านไม้หอม ให้ผสม Reed Diffuser Base (Type 2) กับน้ำหอมโดยตรงในอัตราส่วนประมาณ 70-75% ต่อ 25-30% ไม่ต้องเติม DPG, แอลกอฮอล์ หรือน้ำเพิ่มเติม ยกเว้นกรณีที่ต้องละลายน้ำหอมกับแอลกอฮอล์ก่อนหากพบการแยกชั้น สำหรับถุงหอม สูตรปัจจุบันของคุณที่มีหัวน้ำหอม, แอลกอฮอล์, มัส, และ DPG เหมาะสมกับการทำให้กลิ่นติดทน แต่ดิฉันไม่สามารถให้คำแนะนำเฉพาะสำหรับ Flora Fix™ ได้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Dipropylene glycol
Dipropylene glycol
เครื่องสำอาง
Ethyl Alcohol (99.9% , 200 Proof, Research/Perfumer Grade)
Ethyl Alcohol (99.9% , 200 Proof, Research/Perfumer Grade)
เครื่องสำอาง
Reed Diffuser Base (Type 1)
Reed Diffuser Base (Type 1)
เครื่องสำอาง
Ethyl Alcohol (96% , Perfumer Grade, Low-Odor)
Ethyl Alcohol (96% , Perfumer Grade, Low-Odor)
เครื่องสำอาง