การผสมและเก็บรักษาน้ำมันโรสฮิปผสม

ถามโดย: poohdislers เมื่อ: December 22, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

มีน้ำมันโรสฮิป และต้องการนำไปผสมกับน้ำมัน grape seed oil และน้ำมัน sweet almond oil เพื่อใช้ทาผิว

  1. สามารถผสมรวมกับน้ำมัน grape seed oil และน้ำมัน sweet almond oil เพื่อใช้ทาผิวได้เลยไหมครับ
  2. สามารถเก็บได้นานเหมือนกับตอนยังไม่ผสมกันหรือเปล่า
  3. วิตามินอีที่ใช้ในการรักษาคุณภาพน้ำมัน (anti-oxidant) ควรใช้ชนิดใด
  4. สามารถใส่น้ำมันหอมระเหย เช่น Geranium หรือ Lavender ลงไปเพื่อปรับกลิ่นได้หรือไม่ และควรใช้ในอัตราส่วนเท่าใด

คำตอบ

การเก็บรักษาและใช้น้ำมันโรสฮิป

สำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการเก็บรักษาน้ำมันโรสฮิป การผสมกับน้ำมันอื่นๆ ชนิดของวิตามินอีที่ใช้ในการถนอมอาหาร และการเติมน้ำมันหอมระเหยเพื่อปรับกลิ่น:

1. การเก็บรักษาน้ำมันโรสฮิปให้อยู่ได้นาน

น้ำมันโรสฮิปจากบริษัทของเรามีการเติมวิตามินอีและสารสกัดจากโรสแมรี่แล้ว ซึ่งช่วยรักษาความสดใหม่ของน้ำมัน หากต้องการเก็บรักษาไว้เป็นเวลานาน (3-6 เดือน) ที่อุณหภูมิปกติ โดยไม่ให้เสื่อมสภาพหรือเหม็นหืน สิ่งสำคัญคือต้อง:

  • หลีกเลี่ยงแสงทุกชนิด: เก็บน้ำมันในภาชนะทึบแสง
  • หลีกเลี่ยงความร้อน: เก็บน้ำมันไว้ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 25°C

การปฏิบัติตามคำแนะนำในการจัดเก็บเหล่านี้จะช่วยให้น้ำมันอยู่ได้นาน 6 เดือน หรือจนกว่าจะถึงวันหมดอายุที่ระบุบนฉลาก

หากคุณต้องการเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มเติมเพื่อการปกป้องที่มากขึ้น คุณสามารถพิจารณาเพิ่ม Vitamin E (Tocopheryl Acetate) หรือ Rosemary Oleoresin Extract (ROE) อัตราส่วนที่แนะนำสำหรับวิตามินอีเพื่อทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระในน้ำมันคือประมาณ 0.01% ในขณะที่ ROE มักใช้อยู่ที่ 0.02% - 0.1% การใช้ทั้งสองชนิดร่วมกันจะช่วยเสริมประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น

2. การผสมกับน้ำมันเกรปซีดและน้ำมันสวีทอัลมอนด์

ได้ คุณสามารถผสมน้ำมันโรสฮิปกับ น้ำมันเกรปซีด และ น้ำมันสวีทอัลมอนด์ เพื่อใช้ทาผิวได้ การผสมน้ำมันหลายชนิดเข้าด้วยกันเป็นเรื่องปกติเพื่อรวมคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ของแต่ละชนิด

ในส่วนของอายุการเก็บรักษาหลังการผสม หากคุณผสมน้ำมันที่ยังสดใหม่และยังไม่เหม็นหืน และมีการเติมสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินอี หรือสารสกัดจากโรสแมรี่โอเลโอเรซิน ลงในส่วนผสม การผสมกันเองไม่ได้ทำให้อายุการเก็บรักษาสั้นลงอย่างมีนัยสำคัญ สารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยปกป้องส่วนผสมจากการเกิดออกซิเดชัน เช่นเดียวกับการปกป้องน้ำมันแต่ละชนิด

3. วิตามินอีที่ใช้ในการถนอมน้ำมัน

ชนิดของวิตามินอีที่นิยมใช้ในการถนอมน้ำมันและทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระคือ Vitamin E (Tocopheryl Acetate) และ Vitamin E (dl-alpha tocopherol)

  • Vitamin E (Tocopheryl Acetate): เป็นรูปแบบที่เสถียร มีอายุการเก็บรักษานาน แต่ประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระต่ำกว่า dl-alpha tocopherol เล็กน้อย โดยทั่วไปมีราคาถูกกว่าและผสมเข้ากับสูตรได้ง่ายกว่า
  • Vitamin E (dl-alpha tocopherol): ชนิดนี้มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่า แต่อายุการเก็บรักษาสั้นกว่า (โดยทั่วไปประมาณหนึ่งปี) และมักมีราคาแพงกว่าและมีความหนืดสูงกว่า

ทั้งสองชนิดมีจำหน่าย การเลือกขึ้นอยู่กับความสมดุลระหว่างความเสถียร ประสิทธิภาพ และราคา สารสกัดจากโรสแมรี่โอเลโอเรซินก็มีประสิทธิภาพสูงเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับวิตามินอี

4. การเติมน้ำมันหอมระเหยเพื่อปรับกลิ่น

ได้ คุณสามารถเติมน้ำมันหอมระเหย เช่น น้ำมันเจอเรเนียม หรือน้ำมันลาเวนเดอร์ เพื่อปรับปรุงกลิ่นของน้ำมันผสมได้ อย่างไรก็ตาม น้ำมันหอมระเหยมีความเข้มข้นสูงและควรใช้ในปริมาณที่น้อยมาก

แนะนำให้เริ่มต้นเติมน้ำมันหอมระเหยในความเข้มข้นไม่เกิน 1% ของปริมาณน้ำมันทั้งหมด คุณสามารถเริ่มต้นด้วยเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำกว่า (เช่น 0.1-0.5%) และปรับตามความชอบ โดยให้แน่ใจว่าปริมาณทั้งหมดไม่เกิน 1% เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคืองต่อผิวที่อาจเกิดขึ้นได้

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
NaturalProfile™ Grape Seed Oil (Cold-Pressed)
NaturalProfile™ Grape Seed Oil (Cold-Pressed)
เครื่องสำอาง
NaturalProfile™ Sweet Almond Oil (Cold-Pressed)
NaturalProfile™ Sweet Almond Oil (Cold-Pressed)
เครื่องสำอาง
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
Vitamin E (dl-alpha tocopherol)
เครื่องสำอาง
Rosemary Oleoresin Extract (ROE)
Rosemary Oleoresin Extract (ROE)
เครื่องสำอาง
Rose Hip Oil (Virgin, Fresh)
Rose Hip Oil (Virgin, Fresh)
เครื่องสำอาง
Rose Hip Oil (Extra Virgin)
Rose Hip Oil (Extra Virgin)
เครื่องสำอาง