การพัฒนาสูตรครีมกันแดด: ส่วนน้ำมันสูง, อิมัลซิไฟเออร์, ความเสถียร และสารต้านอนุมูลอิสระ

ถามโดย: cram-croo เมื่อ: October 04, 2014 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ตามสูตรครีมกันแดดที่เสนอมา:

  • SPF Protect Ultra II 20%
  • LipidSoft Lite 10%
  • DHHB 10%
  • Oxybenzone 10%
  • Vitamin E 1%
  • น้ำ, Light Cream Maker 1%, สารกันเสีย

มีคำถามดังนี้:

  1. ส่วนของน้ำมัน/สารกันแดดในสูตรนี้จะถือว่าเกิน 50% หรือไม่?
  2. Light Cream Maker สามารถประสานและทำให้สูตรที่มีส่วนน้ำมัน/สารกันแดดสูงขนาดนี้เสถียรได้หรือไม่?
  3. การเพิ่ม Vitamin E และ Coenzyme Q10 ในสูตรครีมกันแดดเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการต้านอนุมูลอิสระจาก UVA จะเหมาะสมหรือไม่?
  4. OMC (Octyl Methoxycinnamate) ถือเป็นสารกันแดดที่ไม่เสถียรหรือไม่?

คำตอบ

การวิเคราะห์สูตรครีมกันแดดและความเสถียรของ OMC

ขอบคุณสำหรับคำถามโดยละเอียดและการแบ่งปันสูตรของคุณนะคะ แสดงให้เห็นว่าคุณได้ศึกษาค้นคว้ามาอย่างดีเยี่ยมสำหรับการพัฒนาสูตรค่ะ!

เรามาดูเรื่องความเสถียรของ OMC ก่อน จากนั้นจะวิเคราะห์สูตรครีมกันแดดทั้งสามสูตรของคุณค่ะ

OMC ไม่เสถียรจริงหรือ?

จากข้อมูลและการวิจัยที่ได้มีการแบ่งปัน OMC (Octyl Methoxycinnamate) เป็นสารกันแดด UVB ที่นิยมใช้และมีประสิทธิภาพสูง แม้ว่าเมื่อโดนแสง UV จะมีการเสื่อมสภาพ (photodegradation) ทำให้โครงสร้างทางเคมีเปลี่ยนแปลงไปบางส่วนเมื่อเวลาผ่านไป (เปลี่ยนเป็น Z-OMC) แต่โดยทั่วไปถือว่ามีความเสถียรเพียงพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ได้หมายความว่าจะหมดประสิทธิภาพทันทีที่โดนแดด และสามารถเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระอย่าง Vitamin E ในปริมาณน้อยๆ (ประมาณ 0.1%) เพื่อช่วยเพิ่มความเสถียรได้ค่ะ

สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าสารกันแดดทุกชนิด ทั้งแบบเคมีและแบบกายภาพ ล้วนได้รับผลกระทบจากการโดนแสง UV เมื่อเวลาผ่านไป หัวใจหลักคือความสามารถโดยรวมของสูตรในการปกป้องผิวได้นานตามระยะเวลาที่ต้องการใช้งานค่ะ

การวิเคราะห์สูตรครีมกันแดดของคุณ

นี่คือการวิเคราะห์สูตรครีมกันแดดทั้งสามสูตรที่คุณเสนอมาค่ะ:

สูตรที่ 1: Physical Sunscreen

  • ส่วนประกอบ: Zinc Oxide 15%, Titanium Dioxide 7%, LipidSoft Lite 30%, น้ำ, Light Cream Maker 1%, สารกันเสีย
  • การประเมิน: สูตรนี้ใช้สารกันแดดแบบกายภาพคือ Zinc Oxide และ Titanium Dioxide ซึ่งให้การปกป้องแบบ Broad-spectrum (ทั้ง UVA/UVB) และขึ้นชื่อเรื่องความเสถียรต่อแสงที่ดีเยี่ยม เนื่องจากทำงานโดยการสะท้อนและกระจายแสง UV แทนที่จะดูดซับแล้วเกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี วิธีการผสมของคุณที่กระจายผงสารกันแดดในส่วนน้ำมัน (LipidSoft Lite) ก่อนที่จะอิมัลชันกับ Light Cream Maker และน้ำ เป็นวิธีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพสำหรับครีมกันแดดแบบกายภาพค่ะ
  • ความเสถียร: สูตรนี้คาดว่าจะมีความเสถียรและให้การปกป้องแสงแดดได้อย่างน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะสำหรับการโดนแดดในชีวิตประจำวันทั่วไป

สูตรที่ 2: Hybrid Sunscreen

  • ส่วนประกอบ: Zinc Oxide 10%, DHHB 5%, OMC 10%, LipidSoft Lite 30%, น้ำ, Light Cream Maker 1%, สารกันเสีย
  • การประเมิน: สูตรนี้เป็นการผสมผสานที่ดีระหว่างสารกันแดดแบบกายภาพ (Zinc Oxide) กับสารกันแดดแบบเคมี (DHHB และ OMC) ทำให้ได้การปกป้องแบบ Broad-spectrum ที่ครอบคลุม โดย Zinc Oxide ช่วยปกป้องทั้ง UVA และ UVB, DHHB ให้การปกป้อง UVA ที่ดีเยี่ยม และ OMC เน้นการปกป้อง UVB การผสมผสานนี้ให้การปกป้องที่ครอบคลุมดีมากค่ะ
  • OMC เทียบกับ Octocrylene: OMC เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการปกป้อง UVB ในสูตรนี้ Octocrylene เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งมักใช้เพื่อช่วยเพิ่มความเสถียรให้กับ Avobenzone (ซึ่งไม่ได้อยู่ในสูตรนี้) แม้ว่า Octocrylene อาจมีราคาถูกกว่าเล็กน้อย แต่ OMC ก็เป็นสารกันแดดที่มีประสิทธิภาพสูง การเลือกระหว่าง OMC และ Octocrylene มักขึ้นอยู่กับเป้าหมายเฉพาะของสูตร เนื้อสัมผัสที่ต้องการ ต้นทุน และข้อกำหนดทางกฎหมาย เมื่อพิจารณาจากสารกันแดดในสูตรนี้ OMC ทำงานได้ดีค่ะ
  • วิธีการผสม: การละลาย DHHB และ OMC ใน LipidSoft Lite จากนั้นเติม Zinc Oxide แล้วอิมัลชันกับ Light Cream Maker และน้ำ เป็นวิธีการที่สมเหตุสมผลสำหรับการรวมสารกันแดดแบบเคมีที่ละลายแล้วและสารกันแดดแบบกายภาพที่กระจายตัวอยู่ในส่วนน้ำมันก่อนที่จะทำอิมัลชัน
  • ความเสถียร: สูตรนี้คาดว่ามีความเสถียรที่ดีสำหรับการโดนแดดในชีวิตประจำวันปกติ (ไม่ใช่การโดนแดดจัดต่อเนื่องยาวนาน)

สูตรที่ 3: Chemical Sunscreen

  • ส่วนประกอบ: Oxybenzone 10%, DHHB 10%, OMC 10%, LipidSoft Lite 30%, น้ำ, Light Cream Maker 1%, สารกันเสีย
  • การประเมิน: สูตรนี้ใช้สารกันแดดแบบเคมีล้วน ให้การปกป้องแบบ Broad-spectrum โดย Oxybenzone ปกป้องทั้ง UVA/UVB, DHHB เป็นสารกันแดด UVA ที่ดีเยี่ยม และ OMC เป็นสารกันแดด UVB ที่ดีเยี่ยม การผสมผสานนี้ให้การปกป้องที่ครอบคลุมค่ะ
  • ความเสถียรสำหรับการโดนแดดช่วงสั้นๆ: สำหรับการโดนแดดช่วงสั้นๆ ไม่ต่อเนื่อง (เช่น เดินระหว่างอาคารเรียน) สูตรนี้คาดว่าจะมีความเสถียรและให้การปกป้องที่เพียงพอค่ะ
  • ทางเลือกอื่น (Avobenzone): ดังที่ได้กล่าวไป กลยุทธ์ทั่วไปอีกอย่างสำหรับการปกป้อง UVA ที่ดีเยี่ยมคือการใช้ Avobenzone (สารกันแดด UVA ที่มีประสิทธิภาพสูง) ร่วมกับสารช่วยเพิ่มความเสถียร เช่น Oxybenzone, Octocrylene, หรือ Octisalate เนื่องจาก Avobenzone ไม่เข้ากันกับ OMC และสารกันแดดแบบกายภาพอย่าง Zinc Oxide และ Titanium Dioxide สูตรของคุณใช้ OMC และ Oxybenzone โดยไม่มี Avobenzone ซึ่งเป็นแนวทางที่ใช้ได้และให้การปกป้องที่ดี แต่หากเป้าหมายคือการปกป้อง UVA สูงสุดจากสารเคมีล้วนๆ ระบบที่ใช้ Avobenzone ร่วมกับสารช่วยเพิ่มความเสถียรก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งค่ะ

การเพิ่ม Vitamin E และ Q10 และสูตรเคมีที่ปรับปรุง

คุณสอบถามเกี่ยวกับการเพิ่ม Vitamin E และ Q10 เพื่อประโยชน์ด้านสารต้านอนุมูลอิสระ และเสนอสูตรเคมีที่ปรับปรุงโดยใช้สารกันแดดและน้ำมันในปริมาณสูง

  • สารต้านอนุมูลอิสระ (Vitamin E, Q10): แม้ว่า Vitamin E และ Coenzyme Q10 จะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีเยี่ยมที่ช่วยปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระที่เกิดจากแสง UV ได้ แต่การใส่ในปริมาณมากในสูตรครีมกันแดดที่ต้องการเนื้อบางเบาอาจเป็นเรื่องท้าทาย สารเหล่านี้ละลายในน้ำมัน การเพิ่มเข้าไปจะทำให้สัดส่วนของส่วนน้ำมันในสูตรสูงขึ้น ซึ่งอาจทำให้ครีมกันแดดรู้สึกหนักหรือเหนอะหนะ และอาจทำให้สูตรอิมัลชันไม่เสถียรได้ โดยเฉพาะเมื่อใช้อิมัลซิไฟเออร์ที่ออกแบบมาสำหรับเนื้อบางเบาอย่าง Light Cream Maker (ซึ่งมีข้อจำกัดเรื่องปริมาณส่วนน้ำมันที่รองรับได้ โดยทั่วไปประมาณไม่เกิน 20%) หากต้องการประโยชน์ด้านสารต้านอนุมูลอิสระ มักจะมีประสิทธิภาพมากกว่าหากใช้ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ แยกต่างหาก (เช่น เซรั่ม หรือไนท์ครีม) หรือใส่ในครีมกันแดดในปริมาณที่น้อยมาก (เช่น Vitamin E ประมาณ 0.1%) โดยเน้นที่บทบาทในการช่วยเพิ่มความเสถียรให้กับสารกันแดด มากกว่าเพื่อประโยชน์ในการต้านอนุมูลอิสระโดยตรงต่อผิว
  • ข้อเสนอสูตรเคมีที่ปรับปรุง: สูตรที่คุณเสนอโดยใช้ SPF Protect Ultra II (20%), Lipidsoft lite (10%), DHHB (10%), Oxybenzone (10%), และ Vitamin E (1%) ในปริมาณสูง จะทำให้มีสัดส่วนของสารกันแดดและส่วนน้ำมันรวมกันสูงมาก (เกิน 50%) ปริมาณที่สูงขนาดนี้เกือบจะแน่นอนว่าจะทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์หนัก เหนอะหนะ และมีแนวโน้มที่จะเกินความสามารถของ Light Cream Maker ในการทำอิมัลชันและทำให้สูตรเสถียรอย่างเหมาะสม ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงที่สูตรจะแยกชั้นได้
  • คำแนะนำในการปรับปรุง: เพื่อให้ได้การปกป้องที่สูง (เช่น PA++++ และ SPF 50+) ในขณะที่ยังคงเนื้อสัมผัสที่ยอมรับได้และความเสถียร ควรใช้สารกันแดดและส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันในปริมาณที่ลดลง ตัวอย่างเช่น การใช้ DHHB ประมาณ 7%, SPF Protect Ultra II ประมาณ 15%, Oxybenzone ประมาณ 5%, และ Vitamin E 0.1% เป็นแนวทางที่สมดุลกว่า ซึ่งยังคงให้การปกป้องที่ดีเยี่ยมโดยไม่ทำให้สูตรหนักหรือขาดความเสถียรค่ะ

สูตรเริ่มต้นของคุณเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และการทำความเข้าใจคุณสมบัติและความเข้ากันได้ของสารกันแดดและส่วนผสมต่างๆ ในสูตรเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาครีมกันแดดที่ประสบความสำเร็จ ควรพิจารณาถึงความสมดุลระหว่างระดับการปกป้อง เนื้อสัมผัส ความเสถียร และต้นทุนเสมอค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Light Cream Maker™
Light Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Zinc Oxide 200nm EasyDisperse™
Zinc Oxide 200nm EasyDisperse™
เครื่องสำอาง
Avobenzone (Butyl Methoxydibenzoylmethane)
Avobenzone (Butyl Methoxydibenzoylmethane)
เครื่องสำอาง
Octocrylene
Octocrylene
เครื่องสำอาง
Octisalate / Ethylhexyl Salicylate / Octyl Salicylate
Octisalate / Ethylhexyl Salicylate / Octyl Salicylate
เครื่องสำอาง
OMC (Octinoxate, Octyl methoxycinnamate, OM-Cinnamate)
OMC (Octinoxate, Octyl methoxycinnamate, OM-Cinnamate)
เครื่องสำอาง
Oxybenzone (Benzophenone-3)
Oxybenzone (Benzophenone-3)
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ Lite (Isononyl Nonanoate)
LipidSoft™ Lite (Isononyl Nonanoate)
เครื่องสำอาง
Coenzyme Q10 (98%, Powder, Oil-Soluble)
Coenzyme Q10 (98%, Powder, Oil-Soluble)
เครื่องสำอาง
SPF Protect Ultra™ II
SPF Protect Ultra™ II
เครื่องสำอาง