การพัฒนาสูตรครีมกันแดด Physical: การประสานซิลิโคนและเลือก Cyclomethicone vs Dimethicone
คำถาม
ผมกำลังพยายามพัฒนาสูตรครีมกันแดด Physical ที่ใช้ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ในรูปแบบ Nano ครับ ผมเข้าใจว่ามักจะต้องใช้ส่วนผสมอย่างกลุ่มซิลิโคนเพื่อช่วยให้สารกันแดดเกาะผิวได้ดี แต่ซิลิโคนไม่ละลายน้ำครับ
ผมกังวลเรื่องขั้นตอนการทำสูตรและไม่แน่ใจว่าจะใช้แค่ Cetyl Alcohol อย่างเดียวได้หรือไม่ หรือต้องผสมสารตัวอื่นด้วย และแต่ละตัวควรใช้ปริมาณเท่าไหร่ ผมทราบว่ามีวิธีการคำนวณจากข้อมูล HLB value ของส่วนผสมแต่ละตัวและต้องใช้ความร้อน แต่คิดว่าอาจจะยุ่งยากเกินไปสำหรับทำใช้เองครับ
จึงอยากสอบถามคำแนะนำจาก Staff ว่า:
1. ควรมีสารใดช่วยในการประสานซิลิโคนเข้ากับส่วนที่เป็นน้ำในสูตร หรือควรมีวิธีการผสมอย่างไรดีครับ
2. ควรเลือกใช้ Cyclomethicone หรือ Dimethicone ดีครับ ทั้งสองตัวนี้มีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างไร และตัวไหนจะเหมาะกับสูตรกันแดดมากกว่ากันครับ
อยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับ Emulsifier ที่ใช้ง่ายๆ และข้อมูลเปรียบเทียบระหว่าง Cyclomethicone กับ Dimethicone ในบริบทของสูตรกันแดดครับ
คำตอบ
การทำครีมกันแดด Physical ด้วย Titanium Dioxide และ Zinc Oxide Nano
สำหรับการทำครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของ Physical Sunscreen อย่าง Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ในรูปแบบ Nano ซึ่งมักจะต้องใช้ร่วมกับสารที่ช่วยให้เกาะผิวได้ดี เช่น กลุ่มซิลิโคน ซึ่งไม่ละลายน้ำ มีแนวทางและข้อควรพิจารณาดังนี้ครับ
1. ควรมีสารใดช่วย หรือควรผสมอย่างไรดี
เนื่องจากซิลิโคนไม่ละลายในน้ำ การที่จะผสมซิลิโคนเข้ากับส่วนที่เป็นน้ำในสูตรจำเป็นต้องใช้สารประสานเนื้อ (Emulsifier) ครับ
- การใช้ Emulsifier สำเร็จรูป: วิธีที่ง่ายและสะดวกสำหรับผู้ที่เริ่มต้นทำใช้เองคือการเลือกใช้ Emulsifier สำเร็จรูปที่ออกแบบมาเพื่อประสานซิลิโคนกับน้ำโดยเฉพาะ เช่น Light Cream Maker™ ซึ่งตามข้อมูลสามารถช่วยประสานซิลิโคนเข้ากับส่วนที่เป็นน้ำหรือน้ำมันได้ โดยมีข้อจำกัดว่าปริมาณซิลิโคนในสูตรไม่ควรเกิน 10% การใช้อิมัลซิไฟเออร์สำเร็จรูปจะช่วยให้การขึ้นเนื้อครีมง่ายขึ้น ไม่ต้องคำนวณค่า HLB หรือใช้ความร้อนสูง
- การใช้สารอื่นๆ: สารอย่าง Cetyl Alcohol ก็ถูกกล่าวถึงว่าสามารถช่วยประสานน้ำกับซิลิโคนได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว Cetyl Alcohol เป็นสารเพิ่มความข้นและ Emollient ที่ต้องใช้ร่วมกับ Cream Maker เพื่อประสานน้ำกับน้ำมัน การใช้สารเดี่ยวๆ อย่าง Cetyl Alcohol หรือ Stearic Acid ในการทำ Emulsion อาจมีความซับซ้อนและต้องอาศัยความเข้าใจเรื่องค่า HLB และวิธีการผสมที่ถูกต้อง ซึ่งอาจยากกว่าการใช้อิมัลซิไฟเออร์สำเร็จรูปครับ
2. ควรเลือกตัวไหนดีระหว่าง Cyclomethicone กับ Dimethicone
การเลือกระหว่าง Cyclomethicone และ Dimethicone ขึ้นอยู่กับเนื้อสัมผัสที่ต้องการในผลิตภัณฑ์กันแดดของคุณครับ
- Cyclomethicone (เช่น Cyclopentasiloxane): เป็นซิลิโคนที่มีน้ำหนักเบาและระเหยได้เร็ว ทำให้รู้สึกแห้ง เบาบาง และไม่เหนอะหนะบนผิว เหมาะสำหรับสูตรที่ต้องการความรู้สึกบางเบา ทาแล้วเหมือนระเหยไปจากผิว
- Dimethicone: เป็นซิลิโคนที่ไม่ระเหย มีหลายความหนืด ตั้งแต่เบาไปจนถึงหนัก ให้ความรู้สึกนุ่มลื่น เคลือบผิวได้ดีกว่า และให้ความรู้สึกเรียบเนียนยาวนานกว่า Cyclomethicone การเลือกความหนืดของ Dimethicone (เช่น Dimethicone Light/50 หรือ Dimethicone Medium/350) จะส่งผลต่อความรู้สึกหนักเบาของเนื้อครีม
ดังนั้น หากชอบเนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ ระเหยเร็ว ควรเลือก Cyclomethicone แต่ถ้าต้องการความรู้สึกนุ่มลื่น เคลือบผิวได้ดี และติดทน ควรเลือก Dimethicone ครับ
คำแนะนำเพิ่มเติม
- การกระจายตัวของ Physical Sunscreens: ก่อนนำ Titanium Dioxide และ Zinc Oxide ซึ่งเป็นผงมาผสมในสูตร ควรทำการกระจายผงเหล่านี้ในส่วนของน้ำมันหรือซิลิโคนให้ดีก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าผงกันแดดกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอในเนื้อครีม ซึ่งจะส่งผลต่อประสิทธิภาพในการกันแดดและความเรียบเนียนของเนื้อผลิตภัณฑ์
- การใช้ Alcohol: มีคำแนะนำว่าสามารถเติม Ethyl Alcohol ประมาณ 3-5% เพื่อช่วยให้ซิลิโคนระเหยได้เร็วขึ้น ทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์เบาลง แต่ควรพิจารณาถึงข้อเสียของ Alcohol ที่อาจทำให้ผิวแห้งหรือระคายเคืองได้
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์ในการพัฒนาสูตรครีมกันแดดของคุณนะครับ!
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Light Cream Maker™

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

Dimethicone (Medium/350, Low-Odor)

Cetyl Alcohol

Dimethicone (Light/50, Low-Odor)

Stearic Acid (Stearic: 39-45%, Palmitic: 53-60%)

Titanium Dioxide Nanosil

Ethyl Alcohol (96% , Perfumer Grade, Low-Odor)
