การพัฒนาสูตรครีมรักแร้: เนื้อสัมผัสเมื่อใช้ Anti-Sweat™ สูงและสารกันเสีย
คำถาม
ต้องการพัฒนาสูตรครีมรักแร้โดยใช้ Anti-Sweat™ (Aluminum Chlorohydrate) ที่ความเข้มข้น 20% อยากทราบว่าความเข้มข้นนี้จะทำให้เนื้อครีมเหลวหรือไม่ และจะทำอย่างไรให้ได้เนื้อครีมที่ไม่เหลวและซึมง่าย นอกจากนี้ สูตรนี้จำเป็นต้องใส่สารกันเสียหรือไม่?
คำตอบ
การทำครีมรักแร้ด้วย Anti-Sweat™
สำหรับคำถามของคุณเกี่ยวกับการทำครีมรักแร้โดยใช้ Anti-Sweat™ (Aluminum Chlorohydrate) ที่ความเข้มข้น 20%:
เนื้อครีมที่ความเข้มข้น 20% Anti-Sweat™
การใช้ Anti-Sweat™ ที่ความเข้มข้นสูงถึง 20% ในเนื้อครีมจำเป็นต้องมีการปรับสูตรอย่างระมัดระวังเพื่อให้ได้เนื้อครีมที่ไม่เหลวและซึมง่าย Anti-Sweat™ เป็นส่วนผสมในรูปแบบผง แม้ว่าจะละลายในน้ำได้ แต่ก็มีปริมาณอิเล็กโทรไลต์สูงมาก ซึ่งหมายความว่าอิมัลซิไฟเออร์หรือสารสร้างเนื้อครีมบางชนิดอาจไม่เข้ากันและทำให้เนื้อครีมไม่คงตัว เพื่อให้ได้เนื้อครีมที่ข้นขึ้นและไม่เหลว คุณจะต้องเลือกสารสร้างเนื้อครีมหรือระบบอิมัลซิไฟเออร์ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับความเข้มข้นของอิเล็กโทรไลต์สูงโดยเฉพาะ เนื้อสัมผัสโดยรวมจะขึ้นอยู่กับสูตรทั้งหมด รวมถึงชนิดและปริมาณของอิมัลซิไฟเออร์ สารเพิ่มความข้น และส่วนผสมอื่นๆ ที่ใช้ ไม่ใช่แค่ความเข้มข้นของ Anti-Sweat™ เพียงอย่างเดียว
ความจำเป็นในการใส่สารกันเสีย
ใช่ คุณจำเป็นต้องใส่สารกันเสียในสูตรครีมรักแร้ของคุณอย่างแน่นอน ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางใดๆ ที่มีส่วนประกอบของน้ำจะเสี่ยงต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ (แบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์) สารกันเสียมีความสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องผลิตภัณฑ์จากการปนเปื้อน ทำให้มั่นใจในความปลอดภัย และยืดอายุการเก็บรักษา
มีสารกันเสียหลายชนิดให้เลือก เมื่อเลือกสารกันเสีย ควรพิจารณาช่วงค่า pH ของสูตรสุดท้ายของคุณ สูตรที่มี Anti-Sweat™ มักจะทำงานได้ดีที่สุดในช่วง pH 4-6 คุณควรเลือกสารกันเสียที่มีประสิทธิภาพในช่วงค่า pH นี้ ตัวอย่างสารกันเสียที่เหมาะสมได้แก่ NaturePreserve™ Ultra, Global Guard™ 221, Mild Preserved™ COS, Preserve-BSB™ และ NaturePreserve™ LB2 เป็นต้น
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Anti-Sweat™ (Aluminum Chlorohydrate, 100% Powder)

Global Guard™ 221 (pH 2-7, Natural)

Preserve-BSB™ (eq. Optiphen BSB-W)
