การพัฒนาสูตรครีมสำหรับริ้วรอยใต้ตาและเนื้อสัมผัสด้วย Light Cream Maker™
คำถาม
ต้องการพัฒนาสูตรครีมที่มีส่วนผสมของ Sweet Almond Oil, B3, Aloe Vera, Eyeseryl, Argireline และ Sesaflash โดยสนใจใช้ Light Cream Maker™ แทน Laureth-23
- ควรใช้น้ำมัน/น้ำ ในสัดส่วนเท่าใดเมื่อใช้ Light Cream Maker™?
- เมื่อผสมเสร็จแล้ว เนื้อครีมจะแยกชั้นหรือไม่ และจำเป็นต้องเขย่าก่อนใช้หรือไม่?
นอกจากนี้ มีสูตรเดิมที่ใช้ Hyaluronic Acid, Argireline, B3, NAG ซึ่งได้ผลดีโดยรวม แต่รู้สึกว่า Argireline ยังไม่เห็นผลชัดเจนสำหรับริ้วรอยใต้ตา อยากขอคำแนะนำเปปไทด์ตัวอื่น หรือการปรับปรุงสูตรสำหรับปัญหานี้โดยเฉพาะค่ะ
คำตอบ
คำแนะนำการทำครีมด้วย Light Cream Maker™
สำหรับสูตรครีมที่คุณต้องการประสานน้ำกับน้ำมัน โดยมีส่วนผสมของ Sweet Almond Oil, B3, Aloe Vera, Eyeseryl, Argireline และ Sesaflash นั้น แนะนำให้ใช้ Light Cream Maker™ มากกว่า Laureth-23 ค่ะ
เหตุผลที่แนะนำ Light Cream Maker™ คือ:
- ใช้งานง่าย: Light Cream Maker™ ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
- ไม่ต้องใช้ความร้อน: การใช้ Light Cream Maker™ ไม่จำเป็นต้องใช้ความร้อนในการผสม ซึ่งสำคัญมากในการรักษาคุณภาพของเปปไทด์ต่างๆ เช่น Eyeseryl, Argireline และ Sesaflash ที่อาจเสื่อมสภาพได้ง่ายเมื่อโดนความร้อนสูง
สัดส่วนน้ำมันและน้ำ
Light Cream Maker™ สามารถช่วยประสานน้ำมันในสูตรได้สูงสุดถึง 50% ของปริมาณทั้งหมดค่ะ สำหรับสูตรของคุณที่มี Sweet Almond Oil แนะนำให้เริ่มต้นใช้น้ำมันที่สัดส่วนประมาณ 10-20% ก่อน แล้วปรับเพิ่มหรือลดในครั้งต่อไปได้ตามความชอบในเนื้อสัมผัสค่ะ ส่วนที่เหลือจะเป็นส่วนของน้ำ ซึ่งรวมน้ำและสารที่ละลายน้ำได้ทั้งหมด (B3, Aloe Vera, Eyeseryl, Argireline, Sesaflash)
วิธีการผสม
การผสมโดยใช้ Light Cream Maker™ ทำได้โดยไม่ต้องใช้ความร้อน เพื่อป้องกันเปปไทด์เสื่อมสภาพ:
- ผสมส่วนของน้ำมันทั้งหมด (Sweet Almond Oil) เข้ากับ Light Cream Maker™
- ในภาชนะแยกต่างหาก ให้ผสมส่วนของน้ำเข้ากับสารที่ละลายน้ำได้ทั้งหมด (น้ำ, B3, Aloe Vera, Eyeseryl, Argireline, Sesaflash) คนให้เข้ากัน
- ค่อยๆ เทส่วนของน้ำที่ผสมแล้วลงในส่วนของน้ำมันที่ผสม Light Cream Maker™ ไว้ ค่อยๆ เทและคนไปเรื่อยๆ
- คนผสมไปเรื่อยๆ เนื้อครีมจะค่อยๆ ข้นขึ้นจนได้เนื้อครีมตามต้องการ หากยังข้นไม่พอ สามารถเติม Light Cream Maker™ เพิ่มได้ทีละน้อย
หากผสมได้เข้ากันดีแล้ว เนื้อครีมที่ได้จะไม่แยกชั้นค่ะ ไม่จำเป็นต้องเขย่าก่อนใช้ แต่ต้องแน่ใจว่าคนผสมจนเนื้อเข้ากันอย่างสมบูรณ์ดีแล้วนะคะ
ประสบการณ์จากสูตรเดิมและคำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับริ้วรอยใต้ตา
ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์ดีๆ จากสูตรเดิม (Hyaluronic Acid, Argireline, B3, NAG) นะคะ ดีใจด้วยที่เห็นผลลัพธ์ที่ดีทั้งกับตัวเองและคุณแม่ค่ะ
สำหรับริ้วรอยใต้ตาที่คุณรู้สึกว่า Argireline ยังไม่เห็นผลชัดเจนเท่าที่ควร อาจลองพิจารณาเพิ่มเปปไทด์ตัวอื่นที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นสำหรับปัญหาริ้วรอยโดยเฉพาะ เช่น SNAP-8 และ Leuphasyl เข้าไปในสูตรได้ค่ะ เปปไทด์เหล่านี้มีคุณสมบัติช่วยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าได้ดีค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Acetyl Hexapeptide-8 (eq Argireline)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Aloe Vera Extract (อัตราสกัด 10:1 FullAssay™)

Hyaluronic Acid (Standard Molecule)

NaturalProfile™ Sweet Almond Oil (Cold-Pressed)

Laureth-23

Light Cream Maker™

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)

Acetyl Octapeptide-3 (eq. SNAP-8)

Pep®-Eye (Acetyl Tetrapeptide-5)
