การพัฒนาสูตรครีม: แก้ปัญหาเนื้อเหนียวเหนอะหนะและอุณหภูมิการละลายสาร
คำถาม
กำลังพัฒนาสูตรครีม แต่พบปัญหาเนื้อสัมผัสเหนียวเหนอะหนะและรู้สึกมัน มีคำถามเกี่ยวกับอุณหภูมิการละลายของ Kojic Acid Dipalmitate และขั้นตอนการอุ่นส่วนผสมอื่นๆ ค่ะ
สูตรที่ใช้มีส่วนผสมดังนี้:
- Kojic Acid Dipalmitate
- E-Wax
- Cetyl Alcohol
- Stearic Acid
- Jojoba Oil, Argan Oil, Grape Seed Oil
- isohexadecane
- Dimethicone (Medium/350, Low-Odor)
- Aminocoat, Butylene Glycol, Glycerin
- สารที่ไวต่อความร้อน (Raffinose, Licorice Extract, Bisabolol, Alpha Arbutin, Vitamin B3, Tocopheryl Acetate, Phenoxyethanol EHG, Fragrance, Mulberry Extract, Aloe Vera Extract, Tomato Extract)
คำถามคือ:
- ข้อมูลระบุว่า Kojic Acid Dipalmitate ต้องละลายในน้ำมันที่อุณหภูมิไม่เกิน 60°C แต่เห็นเจ้าหน้าที่ตอบในกระทู้อื่นว่าละลายได้ที่ 80°C จึงไม่แน่ใจว่าควรละลายที่อุณหภูมิเท่าใดกันแน่คะ
- หากจำเป็นต้องละลายที่ 60°C จริงๆ คือต้องอุ่นน้ำมันไปจนถึง 70°C เพื่อละลายอย่างอื่นก่อน แล้วรออุณหภูมิลดลงมาถึง 60°C ถึงจะละลาย Kojic Acid Dipalmitate ได้ใช่ไหมคะ
- เมื่อผสมส่วนของน้ำและน้ำมัน ควรให้อุณหภูมิเท่ากัน (เช่น 60°C) ทั้งสองส่วนก่อนผสมใช่ไหมคะ
- isohexadecane และ Dimethicone (Medium/350, Low-Odor) สามารถใส่พร้อมน้ำมันแล้วไปอุ่นด้วยกันเลยได้ไหมคะ เพราะทนความร้อนได้ 80°C หรือควรเติมในขั้นตอนที่อุณหภูมิต่ำลงเพื่อปรับปรุงเนื้อสัมผัส?
คำตอบ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณที่แจ้งสูตรและขั้นตอนการทำเข้ามานะคะ เข้าใจว่าคุณทำเนื้อครีมที่ค่อนข้างเข้มข้น แต่ปัญหาเนื้อครีมเหนียวเหนอะหนะและรู้สึกมันเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยและสามารถปรับปรุงได้ค่ะ
จากสูตรและข้อมูลที่คุณได้รับ มีข้อสังเกตเกี่ยวกับสาเหตุของเนื้อสัมผัสและข้อเสนอแนะในการปรับปรุงดังนี้ค่ะ
สาเหตุที่อาจทำให้เนื้อครีมเหนียวเหนอะหนะ/มัน:
- ปริมาณไข/สารให้ความข้นในกลุ่มไขมันสูง: ปริมาณรวมของ E-Wax (4%), Cetyl Alcohol (3%), และ Stearic Acid (3%) คือ 10% ซึ่งแม้ว่าสารเหล่านี้จำเป็นสำหรับการสร้างอิมัลชันและให้เนื้อครีม แต่ปริมาณที่สูงนี้อาจทำให้เนื้อครีมรู้สึกหนัก เป็นไข หรือเหนียวเหนอะหนะได้ โดยเฉพาะเมื่อรวมกับน้ำมันและสารให้ความนุ่มลื่นอื่นๆ คำแนะนำจากคุณ
touchzhakornxx
ที่ให้ลดปริมาณ Wax (เช่น E-Wax เหลือ 1-2%) เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการลดความเหนอะหนะค่ะ - ชนิดของสารให้ความนุ่มลื่น/ซิลิโคน: isohexadecane และ Dimethicone (Medium/350) ก็มีส่วนทำให้เนื้อสัมผัสเป็นแบบที่คุณรู้สึกได้ค่ะ ตามคำแนะนำ การเปลี่ยน isohexadecane เป็นสารที่เบาลงอย่าง Isododecane และใช้ Dimethicone ที่มีความหนืดต่ำกว่า หรือ Cyclomethicone จะช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสให้เบาลง ไม่หนักและไม่มันจนเกินไปค่ะ
การพิจารณาขั้นตอนการทำเดิมและแผนการปรับปรุงของคุณ:
ขั้นตอนการทำเดิมของคุณมีการนำสารที่ไวต่อความร้อนหลายตัว (Raffinose, Licorice Extract, Bisabolol, Alpha Arbutin, Vitamin B3, Tocopheryl Acetate, Phenoxyethanol EHG, Fragrance) ไปอุ่นที่อุณหภูมิสูง (70-80°C หรือสูงถึง 50°C) ซึ่งอาจทำให้สารเหล่านี้เสื่อมสภาพและลดประสิทธิภาพลงได้ แม้ว่าอาจจะไม่ใช่สาเหตุหลักของเนื้อที่เหนียวเหนอะหนะโดยตรงก็ตาม
แผนการปรับปรุงของคุณที่จะเติมสารที่ไวต่อความร้อนเหล่านี้ในขั้นตอนที่อุณหภูมิต่ำลง (ต่ำกว่า 30°C หรือ 40°C) นั้นถูกต้องและสำคัญอย่างยิ่งในการรักษาประสิทธิภาพของสารค่ะ
อุณหภูมิในการละลาย Kojic Acid Dipalmitate:
ที่คุณสงสัยเรื่องอุณหภูมิในการละลาย Kojic Acid Dipalmitate นั้นถูกต้องแล้วค่ะ แม้ข้อมูลทางเทคนิคอาจระบุที่ 60°C แต่คำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่ว่าการใช้อุณหภูมิในช่วง 50-70°C (หรือสูงถึง 80°C ตามที่เห็นในกระทู้อื่น) ในการผสมจริงก็สามารถทำได้นั้นมีประโยชน์ค่ะ สารนี้จำเป็นต้องละลายในส่วนของน้ำมันโดยใช้ความร้อนช่วยค่ะ
การอุ่น isohexadecane และ Dimethicone:
เจ้าหน้าที่ยืนยันว่า isohexadecane และ Dimethicone สามารถนำไปอุ่นพร้อมกับส่วนของน้ำมันได้ที่อุณหภูมิสูงถึง 80°C แม้ว่าสารเหล่านี้จะทนความร้อนได้ แต่การเติมในขั้นตอนที่สูตรเย็นตัวลง (เช่น ต่ำกว่า 50°C หรือ 40°C) เป็นเทคนิคทั่วไปที่ช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสสุดท้ายและลดความเหนอะหนะได้ เนื่องจากสารเหล่านี้เป็น Emollient ที่มีผลต่อความรู้สึกของเนื้อครีมบนผิวค่ะ
ข้อเสนอแนะขั้นตอนการทำที่ปรับปรุงเพื่อเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้นและสารคงตัว:
นี่คือขั้นตอนการทำที่แนะนำซึ่งรวมถึงอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับสารที่ไวต่อความร้อนและพิจารณาผลต่อเนื้อสัมผัสค่ะ
- ส่วน A (ส่วนน้ำ - อุ่น): รวม น้ำกลั่น, Aminocoat, Butylene Glycol, Glycerin. อุ่นที่อุณหภูมิ 75°C
- ส่วน B (ส่วนน้ำมัน - อุ่น): รวม Jojoba Oil, Argan Oil, Grape Seed Oil, E-Wax, Cetyl Alcohol, Stearic Acid. อุ่นที่อุณหภูมิ 75°C พิจารณาลดปริมาณ E-Wax, Cetyl Alcohol, และ Stearic Acid (เช่น E-Wax เหลือ 1-2% และปรับตัวอื่นตามสัดส่วนหรือความข้นที่ต้องการ) เพื่อลดความเหนียวเหนอะหนะ
- Kojic Acid Dipalmitate: เติม Kojic Acid Dipalmitate ลงในส่วน B ขณะอุ่นและคนให้ละลาย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอุณหภูมิอยู่ในช่วง 60-75°C ระหว่างการละลาย
- การทำอิมัลชัน: เมื่อส่วน A และส่วน B อยู่ที่อุณหภูมิ 75°C และ Kojic Acid Dipalmitate ละลายดีแล้ว ค่อยๆ เทส่วน A ลงในส่วน B พร้อมกับปั่นหรือคนแรงๆ จนเกิดอิมัลชัน ปั่น/คนต่อไปขณะที่สูตรเย็นตัวลง
- ช่วงเย็นตัว (ต่ำกว่า 40°C): เติม isohexadecane, Dimethicone (หรือสารที่เบาลงตามคำแนะนำ เช่น Isododecane, Cyclomethicone, Dimethicone ความหนืดต่ำ), Alpha Bisabolol, Tocopheryl Acetate. คนให้เข้ากันดี
- ช่วงเย็นตัว (ต่ำกว่า 30°C): เติม Raffinose, Licorice Extract, Alpha Arbutin, Vitamin B3, Mulberry Extract, Aloe Vera Extract, Tomato Extract, Phenoxyethanol EHG, น้ำหอม. คนให้เข้ากันดีหลังเติมแต่ละตัวจนเป็นเนื้อเดียวกัน
การปรับปริมาณไข/สารให้ความข้นในกลุ่มไขมัน และการใช้สารให้ความนุ่มลื่น/ซิลิโคนชนิดที่เบาลง รวมถึงการเติมสารที่ไวต่อความร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสม จะช่วยให้คุณได้เนื้อครีมที่เหนียวเหนอะหนะน้อยลงและไม่มันจนเกินไป พร้อมทั้งรักษาประสิทธิภาพของสารสำคัญต่างๆ ไว้ได้ค่ะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)

Alpha Arbutin (Switzerland)

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Natural Bisabolol (Brazil Chamomile)

Kojic Acid Dipalmitate

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)

Dimethicone (Medium/350, Low-Odor)

Cetyl Alcohol

Isododecane (Germany)

Raffinose
