การพัฒนาสูตรครีม/โลชั่น Lactic Acid และ Urea สำหรับผิวแห้งและกระจ่างใส
คำถาม
ต้องการทำครีมทาตัวที่เนื้อหนืดขึ้นกว่าโลชั่น โดยใช้ Lactic Acid และ Urea เพื่อช่วยเรื่องผิวแห้ง ลอกเป็นขุย และต้องการให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นด้วย มีคำถามเกี่ยวกับการทำสูตรดังนี้ค่ะ:
- ควรใช้ Lactic Acid ความเข้มข้น 88% ในปริมาณเท่าใดเพื่อให้ได้ Lactic Acid ออกฤทธิ์ 5% หรือ 10% ในสูตร?
- สามารถทาครีมที่มี Lactic Acid ในตอนกลางวันได้หรือไม่?
- Lactic Acid จะช่วยเรื่องผิวกระจ่างใสได้หรือไม่?
- ควรปรับค่า pH ของครีมอย่างไร และค่า pH ที่เหมาะสมควรอยู่ที่เท่าใด?
- Lactic Acid จะทำให้ผิวแห้งหรือไม่?
- การใส่ Urea 3% จะทำให้เนื้อครีมเหนียวเกินไปไหม และปริมาณ Urea ที่แนะนำคือเท่าใด?
- Cetyl Alcohol, Glycerin, และ Silicone มีบทบาทอย่างไรในสูตรนี้?
- มีส่วนผสมอื่นๆ ที่สามารถเพิ่มเพื่อช่วยเรื่องความกระจ่างใสได้อีกไหม เช่น Niacinamide หรือ Alpha Arbutin?
- สามารถเพิ่ม Shea Butter ในปริมาณเท่าใดในสูตรที่มีน้ำมันเยอะอยู่แล้ว และจะส่งผลต่อเนื้อสัมผัสอย่างไร?
- ขอสูตรตัวอย่างสำหรับ Base เจล และ Base โลชั่น ที่มีส่วนผสมเหล่านี้ได้หรือไม่คะ?
คำตอบ
สวัสดีค่ะ เข้าใจว่าคุณกำลังต้องการทำครีมทาตัวที่เนื้อหนืดขึ้นกว่าโลชั่น เพื่อช่วยเรื่องผิวแห้ง ลอกเป็นขุย และต้องการให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นด้วยส่วนผสมของ Lactic Acid และ Urea พร้อมทั้งมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนผสมอื่นๆ ด้วยนะคะ
จากข้อมูลที่คุณสอบถามและข้อมูลที่มีอยู่ ขอสรุปและให้คำแนะนำดังนี้ค่ะ
คำแนะนำในการทำครีม Lactic Acid และ Urea
ความเข้มข้นของ Lactic Acid
คุณสามารถใช้ Lactic Acid ความเข้มข้น 88% ได้ค่ะ หากต้องการให้มี Lactic Acid ออกฤทธิ์ 5% ในสูตร (ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่แนะนำสำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มทำ) คุณจะต้องใช้ Lactic Acid 88% ในปริมาณ 5.7% (คำนวณจาก 5 / 0.88 ≈ 5.68%) การใช้ Lactic Acid ที่ความเข้มข้นสูงถึง 10% (เทียบเท่า Lactic Acid 100%) อาจจะสูงเกินไปสำหรับการทาตัวทุกวัน โดยเฉพาะหากผิวไม่เคยชิน และอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย แนะนำให้เริ่มที่ 5% ก่อน แล้วค่อยๆ ปรับเพิ่มความเข้มข้นในอนาคตหากผิวรับได้และต้องการผลลัพธ์ที่มากขึ้นค่ะ
การทาตอนกลางวัน
สามารถทาครีมที่มี Lactic Acid ในตอนกลางวันได้ค่ะ แต่ สิ่งสำคัญคือต้องปรับค่า pH ของครีมให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสมกับผิว โดยทั่วไปคือ 4.5-5.5 เพื่อลดการระคายเคือง และควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดควบคู่ไปด้วยเสมอ เนื่องจาก AHA อย่าง Lactic Acid อาจทำให้ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น
ผลเรื่องผิวกระจ่างใส (Lightening)
Lactic Acid มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิว ซึ่งอาจทำให้รอยดำ จุดด่างดำดูจางลงและผิวโดยรวมดูกระจ่างใสขึ้นได้ค่ะ แต่ผลลัพธ์เรื่องความขาว/กระจ่างใสจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และ Lactic Acid ไม่ได้เป็นสารที่เน้นเรื่องการปรับสีผิวให้ขาวขึ้นโดยตรงเท่าสารกลุ่ม Whitening อื่นๆ
การปรับค่า pH
ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มี Lactic Acid เพื่อให้มีประสิทธิภาพและไม่ระคายเคืองผิว ควรอยู่ที่ประมาณ 3.5-5.5 ค่ะ หากใช้ Lactic Acid ความเข้มข้นสูง อาจทำให้ pH ต่ำเกินไปจนต้องใช้สารปรับ pH ที่เป็นด่าง (เช่น Triethanolamine หรือ Sodium Hydroxide) เพื่อเพิ่มค่า pH ขึ้นมาอยู่ในช่วงที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับผิว ปริมาณสารปรับ pH ที่ต้องใช้จะขึ้นอยู่กับส่วนผสมทั้งหมดในสูตร จึงไม่สามารถระบุเป็นเปอร์เซ็นต์ที่แน่นอนได้ ต้องค่อยๆ เติมและวัดค่า pH จนกว่าจะได้ค่าที่ต้องการ อีกทางเลือกหนึ่งที่ง่ายกว่าคือการใช้ Sodium Lactate ซึ่งเป็น Lactic Acid ที่ถูกปรับ pH มาแล้ว ทำให้การควบคุม pH ในสูตรง่ายขึ้นค่ะ
ความชุ่มชื้นและส่วนผสมอื่นๆ
- Lactic Acid ทำให้ผิวแห้งหรือไม่: ไม่ต้องกังวลเรื่อง Lactic Acid ทำให้ผิวแห้งค่ะ เพราะ Lactic Acid เป็นสารกลุ่ม Humectant ที่ช่วยดึงและกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้ดี
- Urea: การใส่ Urea 3% ไม่น่าจะทำให้เหนียวเกินไปค่ะ และ Urea ที่ความเข้มข้น 5% ก็เป็นปริมาณที่แนะนำเพื่อช่วยเรื่องความชุ่มชื้นและการผลัดเซลล์ผิวสำหรับผิวแห้งมาก ซึ่งทำงานได้ดีร่วมกับ Lactic Acid
- Cetyl Alcohol: ช่วยเพิ่มความหนืดให้กับเนื้อครีม ทำให้เนื้อหนักขึ้น และยังเป็น Emollient ที่ช่วยเคลือบผิวลดการสูญเสียน้ำ ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นด้วยค่ะ
- Glycerin: เป็น Humectant ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้ดีมาก สามารถใส่ได้ในปริมาณ 5-10% ตามความต้องการ
- ซิลิโคน: ช่วยให้เนื้อครีมเกลี่ยง่ายขึ้น ให้สัมผัสที่นุ่มลื่น และช่วยเคลือบผิวเพื่อลดการสูญเสียน้ำ มีหลายชนิดให้เลือกขึ้นอยู่กับความชอบในเนื้อสัมผัส เช่น Silicone Gel (Ultra Clear, Super Silky) ที่ให้ความรู้สึกนุ่มลื่น ไม่เหนอะหนะ
สารเพิ่มความกระจ่างใส (Whitening)
หากต้องการเพิ่มประสิทธิภาพเรื่องความกระจ่างใส แนะนำให้ใส่ Niacinamide (Vitamin B3) ค่ะ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและคุ้มค่าสำหรับการทาตัวมากกว่า Alpha Arbutin ซึ่งมีราคาสูงกว่ามาก Niacinamide ที่ความเข้มข้น 4% (ตามสูตรตัวอย่าง) ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ลดรอยแดง/รอยดำ และยังช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว เพิ่มความชุ่มชื้นได้ด้วย แม้ Niacinamide จะเสถียรได้ดีในช่วง pH 4-7 แต่ก็สามารถนำมาผสมในสูตรที่มี Lactic Acid ได้ โดยอาจต้องควบคุม pH ให้เหมาะสม วิตามินซีบางชนิดอาจมีความเสถียรใน pH ที่ต่ำ แต่ก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายเมื่อใช้ร่วมกับ Lactic Acid ในขณะที่ Niacinamide เป็นตัวเลือกที่อ่อนโยนกว่าและมีประโยชน์หลากหลายกว่าค่ะ
Shea Butter
การเพิ่ม Shea Butter 1% ในสูตรที่มีน้ำมันเยอะอยู่แล้ว จะช่วยเพิ่มความนุ่มนวลให้กับผิว และเพิ่มความเข้มข้นของเนื้อครีมได้เล็กน้อยค่ะ ผลต่อความหนืดโดยรวมจะขึ้นอยู่กับ Base ของสูตรทั้งหมด แต่ 1% ก็เพียงพอที่จะสัมผัสได้ถึงความแตกต่างในเรื่องความนุ่มของผิวค่ะ
สูตรตัวอย่าง (จากข้อมูลที่ได้รับ)
นี่คือสูตรตัวอย่างที่คุณสามารถใช้เป็นแนวทางในการเริ่มต้นได้ค่ะ
สูตร Base เจล
- Xanthan Gum (สารสร้างเนื้อเจล): 0.5-1% (ปรับตามความหนืดที่ต้องการ)
- Lactic Acid (ความเข้มข้น 88%): 5.7% (เท่ากับ Lactic Acid 5% ออกฤทธิ์)
- Urea: 5%
- Niacinamide (วิตามิน บี3): 4%
- Glycerin: 5-10%
- น้ำกลั่น: ส่วนที่เหลือ
- ปรับ pH ให้ไม่ต่ำกว่า 3.5
สูตร Base โลชั่น (มีน้ำมัน)
- Light Cream Maker (สารประสานน้ำมันกับน้ำ): 1.5%
- น้ำมันธรรมชาติ (เช่น Olive Oil): 10%
- Lactic Acid (ความเข้มข้น 88%): 5.7% (เท่ากับ Lactic Acid 5% ออกฤทธิ์)
- Urea: 5%
- Niacinamide (วิตามิน บี3): 4%
- Glycerin: 5-10%
- น้ำกลั่น: ส่วนที่เหลือ
- ปรับ pH ให้ไม่ต่ำกว่า 3.5
แนะนำให้ทดลองทำในปริมาณน้อยๆ ก่อน และทดสอบกับผิวบริเวณเล็กๆ เพื่อดูการตอบสนองของผิวนะคะ หากต้องการใช้ Lactic Acid ในความเข้มข้นที่สูงขึ้น การใช้เครื่องวัด pH Meter เพื่อควบคุมค่า pH จะช่วยให้สูตรมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Alpha Arbutin (Switzerland)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Olive Oil (Extra Virgin)

Shea Butter (Refined , Deodorised)

Light Cream Maker™

Glycerin (USP/Food Grade)

Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)

Urea (High Purity, Cosmetics, Powder)

Cetyl Alcohol

Silicone Gel (Ultra Clear, Super Silky)

Lactic Acid (AHA) Neutralized

Lactic Acid (AHA) 90% (เกรดธรรมดา-มีกลิ่น)
