การพัฒนาสูตรน้ำยาบ้วนปาก: สารกันเสีย ความใส และปริมาณแอลกอฮอล์
คำถาม
เกี่ยวกับการทำน้ำยาบ้วนปาก:
- สามารถใช้สารกันเสียตัวไหนได้บ้าง?
- เวลาผสม PEG-20 กับน้ำแล้วขุ่น มีสารตัวไหนทำให้ใสน่าใช้ไหมคะ?
- ขอสูตรตั้งต้นมาให้หน่อยได้ไหมคะ ว่า alcohol ไม่เกินกี่%?
คำตอบ
การทำน้ำยาบ้วนปาก
สารกันเสียสำหรับน้ำยาบ้วนปาก
สำหรับการทำน้ำยาบ้วนปาก ซึ่งเป็นสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักและใช้ในช่องปาก การเลือกใช้สารกันเสียที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ จากข้อมูลที่มีอยู่ สารกันเสียแบบ Broad Spectrum ที่ละลายน้ำได้หลายชนิดมีความเหมาะสม:
- Global Guard™ 221: เป็นสารกันเสียที่ละลายน้ำได้แบบ Broad Spectrum มีประสิทธิภาพในช่วง pH 2-7 ได้รับการอนุมัติให้ใช้ทั่วโลก และใช้ในอัตรา 0.5-1.1%
- Mild Preserved™ COS: เป็นสารกันเสียที่ละลายน้ำได้แบบ Broad Spectrum อีกชนิดหนึ่ง ซึ่งทำงานได้ดีในช่วง pH กว้าง 2-8 และไม่มีกลิ่น ใช้ในอัตรา 0.75-1.5%
- Preserve-BSB™: สารกันเสียนี้เป็นการผสมผสานระหว่าง Benzyl Alcohol, Sodium Benzoate และ Potassium Sorbate ซึ่งละลายน้ำได้ มีประสิทธิภาพในช่วง pH สูงสุด 5.5 และใช้ในอัตรา 0.3-1.0%
- NaturePreserve™ Ultra: สารกันเสียจากธรรมชาติ (Gluconolactone & Sodium Benzoate) ซึ่งละลายน้ำได้และทำงานได้ดีในช่วง pH 3-6 ใช้ในอัตรา 0.75-2.0% โปรดทราบว่ารูปแบบผงอาจต้องใช้ความระมัดระวังในการละลาย และค่า pH ต้องอยู่ในช่วงที่มีประสิทธิภาพ
ในการเลือกสารกันเสีย ควรพิจารณาค่า pH สุดท้ายของสูตรน้ำยาบ้วนปากของคุณและอัตราการใช้งานที่ต้องการ ควรทำการทดสอบ Challenge Test เสมอเพื่อยืนยันประสิทธิภาพของสารกันเสียในสูตรเฉพาะของคุณ
การแก้ปัญหาความขุ่นเมื่อใช้ PEG-20
ความขุ่นที่เกิดขึ้นเมื่อผสม PEG-20 กับน้ำ โดยเฉพาะเมื่อมีการใส่น้ำมันหรือน้ำหอม มักบ่งชี้ว่า PEG-20 ไม่สามารถละลายส่วนประกอบที่เป็นน้ำมันในเฟสน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ PEG-20 เป็นสารช่วยละลาย (Solubilizer) ชนิดหนึ่ง แต่ความสามารถในการละลายอาจมีจำกัด ขึ้นอยู่กับชนิดและปริมาณของน้ำมัน/น้ำหอมที่ใช้
เพื่อให้ได้สารละลายที่ใส คุณอาจต้องใช้สารช่วยละลายที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า หรือเพิ่มความเข้มข้นของสารช่วยละลายที่ใช้อยู่ พิจารณาตัวเลือกเหล่านี้:
- Flora Solve™ Clear: เป็นสารช่วยละลายน้ำหอมที่ออกแบบมาเพื่อรวมน้ำมันหอมระเหยและน้ำหอมเข้ากับน้ำโดยไม่ต้องใช้แอลกอฮอล์ ซึ่งอาจทำให้ระคายเคืองผิว Flora Solve™ Clear มีความใส ไม่มีสี และไม่มีกลิ่น ซึ่งจะไม่รบกวนกลิ่นน้ำหอม มีประสิทธิภาพในการสร้างสารละลายที่ใส แนะนำให้ผสม Flora Solve™ Clear 2-5 ส่วน กับน้ำหอม/น้ำมัน 1 ส่วน คนหรือปั่นให้เข้ากันดี ก่อน นำส่วนผสมนี้ไปเติมลงในเฟสน้ำ
- Ultra Solve™: สารช่วยละลายที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถละลายน้ำมันได้หลากหลายชนิด รวมถึงน้ำมันหอมระเหยและน้ำหอมในน้ำ สามารถรองรับปริมาณน้ำมันได้มากกว่าสารช่วยละลายทั่วไปหลายชนิด
- Eco Solve™: มีประสิทธิภาพเทียบเท่า Ultra Solve™ แต่มีข้อได้เปรียบด้านราคา ช่วยละลายน้ำมัน น้ำหอม และน้ำมันหอมระเหยในน้ำได้ง่าย ให้ความใสที่ดีมาก
เมื่อใช้สารช่วยละลายเหล่านี้ สิ่งสำคัญคือต้องผสมสารช่วยละลายให้เข้ากับน้ำมัน/น้ำหอมให้เข้ากันดีจนใสก่อน จากนั้นจึงค่อยๆ เติมส่วนผสมนี้ลงในเฟสน้ำพร้อมกับคน การเติมน้ำลงในส่วนผสมของสารช่วยละลายกับน้ำมันโดยตรงอาจทำให้เกิดการจับตัวเป็นเจลหรือขุ่นได้
ปริมาณแอลกอฮอล์ในน้ำยาบ้วนปาก
แอลกอฮอล์ถูกนำมาใช้ในสูตรน้ำยาบ้วนปากบางชนิดเพื่อคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อและช่วยละลายส่วนผสมบางอย่าง รวมถึงน้ำมันแต่งกลิ่น อย่างไรก็ตาม น้ำยาบ้วนปากก็สามารถผลิตโดยไม่มีแอลกอฮอล์ได้เช่นกัน
ไม่มี "ปริมาณสูงสุด" ของแอลกอฮอล์ที่ตายตัวสำหรับน้ำยาบ้วนปากทุกชนิด ปริมาณจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับประเภทผลิตภัณฑ์ การใช้งานที่ตั้งใจไว้ และกลุ่มเป้าหมาย น้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อแบบดั้งเดิมอาจมีปริมาณแอลกอฮอล์ตั้งแต่ 10% ถึงมากกว่า 20% อย่างไรก็ตาม น้ำยาบ้วนปากสมัยใหม่และสูตรที่อ่อนโยนหลายชนิดมีปริมาณแอลกอฮอล์ต่ำกว่า หรือไม่มีแอลกอฮอล์เลย เพื่อลดโอกาสการระคายเคือง ความแห้ง หรือความรู้สึกแสบร้อนในช่องปาก
หากคุณต้องการสูตรที่อ่อนโยนกว่าหรือไม่มีแอลกอฮอล์ คุณจะต้องพึ่งพาสารฆ่าเชื้อชนิดอื่น (หากต้องการ) และใช้สารช่วยละลายที่มีประสิทธิภาพตามที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อช่วยในการกระจายกลิ่น
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Ultra Solve™

Global Guard™ 221 (pH 2-7, Natural)
