การพัฒนาสูตรรองพื้นเนื้อแมท ติดทน กันน้ำ แบบ W/O

ถามโดย: justployyy เมื่อ: June 26, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

อ้างอิงจากแนวคิดสูตรผลิตภัณฑ์ลิปที่เคยหารือในกระทู้ก่อนหน้า (topic5670.html#p22926) ดิฉันกำลังต้องการพัฒนาสูตรรองพื้นที่มีคุณสมบัติดังนี้ค่ะ:

  • ประเภทสูตร: อิมัลชันแบบ Water-in-Oil (W/O)
  • ลักษณะเนื้อ: เนื้อแมท
  • ประสิทธิภาพที่ต้องการ: ติดทนนาน, กันน้ำ
  • การปกปิด: ปกปิดปานกลางถึงสูง
  • เนื้อสัมผัสที่ต้องการ: บางเบากว่ารองพื้นบางยี่ห้อ เช่น Revlon

ดิฉันได้ลองทำสูตรตัวอย่างไปแล้ว แต่ยังไม่ตรงตามความต้องการ มีปัญหาที่พบคือ:

  • เนื้อไม่บางเบาเท่าที่ต้องการ
  • การปกปิดยังไม่เพียงพอ
  • เนื้อผลิตภัณฑ์มีการแยกชั้น
  • เกิดคราบเมื่อทาบนผิว

ขอคำแนะนำหรือสูตรที่ปรับปรุงแล้ว เพื่อให้ได้คุณสมบัติตามที่ต้องการและแก้ไขปัญหาเรื่องความคงตัวและการเป็นคราบค่ะ

คำตอบ

สวัสดีค่ะ

เข้าใจว่าสูตรตัวอย่างที่ได้รับไปยังไม่ตรงกับความต้องการเรื่องความบางเบา การปกปิด และปัญหาเนื้อแยกตัว/เป็นคราบนะคะ การทำรองพื้นเนื้อแมท ติดทน กันน้ำ และปกปิดปานกลางถึงสูงแบบที่คุณต้องการ (คล้าย Revlon แต่ไม่หนาเท่า) ในรูปแบบ Water-in-Oil (W/O) emulsion นั้นค่อนข้างซับซ้อนและต้องอาศัยส่วนผสมและสัดส่วนที่เหมาะสมค่ะ

จากส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้อ้างอิงและส่วนผสมที่มีในร้าน สามารถแนะนำสูตรเบื้องต้นที่ปรับปรุงให้มีโอกาสได้เนื้อสัมผัส การปกปิด และความคงตัวที่ดีขึ้น โดยเน้นส่วนผสมที่ช่วยเรื่องการสร้างเนื้อฟิล์ม การดูดซับความมัน และการกระจายตัวของเม็ดสีในระบบ W/O ค่ะ

สูตรที่แนะนำนี้ได้แรงบันดาลใจจากส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการ โดยเลือกใช้ส่วนผสมที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงกันจาก MySkinRecipes ค่ะ

สูตรแนะนำ (ปรับปรุง):

ส่วน A (ส่วนน้ำมัน/ซิลิโคน)

  • Cyclomethicone (ไซโคลเมทิโคน): 15% - ซิลิโคนระเหยง่าย ให้ความรู้สึกบางเบา ช่วยการเกลี่ยตัว
  • LipidSoft CC (หรือ LipidSoft Lite): 5% - สารบำรุงผิวนุ่มลื่น (Emollient) ช่วยให้เนื้อเกลี่ยง่ายขึ้น
  • Silicone Film (Trimethylsiloxysilicate): 5% - สารสร้างฟิล์มซิลิโคน ช่วยให้ติดทนและกันน้ำ
  • Hectorite Oil Gel (DISTEARDIMONIUM HECTORITE + Propylene Carbonate): 2% - สารสร้างเนื้อเจลในน้ำมัน ช่วยแขวนลอยเม็ดสีและเพิ่มความคงตัวในส่วนน้ำมัน

ส่วน B (ส่วนน้ำ)

  • Water (น้ำกลั่นบริสุทธิ์): 36.7% - ส่วนประกอบหลักของเฟสน้ำด้านใน
  • Butylene Glycol (บิวทีลีน ไกลคอล): 3% - สารให้ความชุ่มชื้นและช่วยละลายส่วนผสมบางชนิด
  • Xanthan Gum (แซนแทนกัม): 0.3% - สารสร้างเนื้อเจลในน้ำ ช่วยเพิ่มความคงตัวของเฟสน้ำด้านใน

ส่วน C (ส่วนสารประสานเนื้อ/สารเพิ่มความคงตัว)

  • Water-in-Oil EZ: 4% - สารประสานเนื้อแบบ Water-in-Oil หลัก
  • Satin Cream Maker: 2% - สารสร้างเนื้อซิลิโคนอีลาสโตเมอร์ ให้ความรู้สึกแมท ช่วยเพิ่มความคงตัว

ส่วน D (ส่วนผงแป้ง/เม็ดสี)

  • Titanium Dioxide EasyDisperse (หรือ EasyMix 200nm): 12% - เม็ดสีขาวหลักและสารกันแดด เพิ่มการปกปิด
  • Beige Iron Oxides EasyMix: 3% - เม็ดสีเบจสำหรับปรับสีรองพื้น
  • Silk Mica Powder (หรือ Silk Sericite Powder): 5% - แป้งไมก้า ให้ความนุ่มลื่น ช่วยคุมมันและเบลอริ้วรอย
  • Matte Silica (หรือ Polymethylsilsesquioxane): 3% - ซิลิก้า ช่วยดูดซับความมัน ให้ความแมท
  • BB Micro Silk (Silica): 3% - ซิลิก้า ช่วยเพิ่มการปกปิดและปรับเนื้อสัมผัส

ส่วน E (ส่วนสารกันเสีย)

  • Mild Preserved Eco: 1% - สารกันเสียชนิดอ่อนโยน แนะนำให้ใช้แทน Phenoxyethanol หากมีอาการแสบร้อน

รวม: 100%

ขั้นตอนการผสม:

  1. เตรียม ส่วน A: ในภาชนะ ผสม Cyclomethicone, LipidSoft CC, Silicone Film และ Hectorite Oil Gel เข้าด้วยกัน คนให้เข้ากันดี โดยเฉพาะ Hectorite Oil Gel ควรใช้เครื่องปั่นความเร็วสูงช่วยกระจายตัวให้เนียนที่สุด
  2. เตรียม ส่วน B: ในภาชนะแยกต่างหาก ผสม Water และ Butylene Glycol เข้าด้วยกัน ค่อยๆ โรย Xanthan Gum ลงไปในขณะที่ใช้เครื่องปั่นความเร็วสูงปั่นอย่างต่อเนื่อง จน Xanthan Gum ละลายหมดและได้เนื้อเจลเนียน
  3. เตรียม ส่วน C: ในภาชนะแยกต่างหาก ผสม Water-in-Oil EZ และ Satin Cream Maker เข้าด้วยกัน
  4. ค่อยๆ เติม ส่วน B (ส่วนน้ำ) ลงในส่วนผสมของ ส่วน A+C (ส่วนน้ำมัน) ทีละน้อย พร้อมกับปั่นด้วยความเร็วปานกลางถึงสูง ปั่นต่อเนื่องจนส่วนผสมรวมตัวกันเป็นเนื้อครีมอิมัลชั่นที่เนียนและคงตัว
  5. เตรียม ส่วน D: ในภาชนะแยกต่างหาก ผสมผงแป้งและเม็ดสีทั้งหมด (Titanium Dioxide, Beige Iron Oxides, Silk Mica, Matte Silica, BB Micro Silk) เข้าด้วยกัน คนให้กระจายตัวดี (แนะนำให้บดหรือเกลี่ยผงสีให้แตกตัวก่อนนำไปผสม)
  6. ค่อยๆ เติมส่วนผสมผงแป้งและเม็ดสี (ส่วน D) ลงในเนื้อครีมอิมัลชั่น (จากขั้นตอนที่ 5) พร้อมกับปั่นด้วยความเร็วสูง ปั่นต่อเนื่องจนผงแป้งและเม็ดสีกระจายตัวเข้ากับเนื้อครีมทั้งหมด ได้สีที่สม่ำเสมอ
  7. เติม Mild Preserved Eco (ส่วน E) ลงในเนื้อรองพื้น คนให้เข้ากัน
  8. ตรวจสอบเนื้อสัมผัส สี และความเนียนของรองพื้น

สูตรนี้มีการเพิ่มปริมาณเม็ดสี (Titanium Dioxide) และผงแป้งอื่นๆ ที่ช่วยเรื่องการปกปิดและความแมท รวมถึงใส่สารสร้างฟิล์ม (Silicone Film) เพื่อความติดทน และที่สำคัญคือเพิ่ม Hectorite Oil Gel ซึ่งเป็นสารช่วยแขวนลอยเม็ดสีในเฟสน้ำมัน ซึ่งจะช่วยป้องกันการตกตะกอนและทำให้เนื้อรองพื้นมีความคงตัวดีขึ้น ลดโอกาสการแยกชั้นหรือเป็นคราบค่ะ

การทำสูตรเครื่องสำอางต้องอาศัยการทดลองและปรับปรุงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการพอดีนะคะ สูตรนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่ปรับจากข้อมูลที่คุณให้มาค่ะ

หวังว่าสูตรนี้จะช่วยให้ได้รองพื้นที่ตรงกับความต้องการมากขึ้นนะคะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)
Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)
เครื่องสำอาง
Satin Cream Maker™
Satin Cream Maker™
เครื่องสำอาง
BB Micro Silk™
BB Micro Silk™
เครื่องสำอาง
Mica Powder (20 Micron, Methicone Coated)
Mica Powder (20 Micron, Methicone Coated)
เครื่องสำอาง
Butylene Glycol
Butylene Glycol
เครื่องสำอาง
LipidSoft™ CC (Cetyl Ethylhexanoate)
LipidSoft™ CC (Cetyl Ethylhexanoate)
เครื่องสำอาง
Beige Iron Oxides EasyMix™
Beige Iron Oxides EasyMix™
เครื่องสำอาง
MatteSilica 5™ (5 Micron)
MatteSilica 5™ (5 Micron)
เครื่องสำอาง
Hectorite Gel™ (Mineral Oil Base)
Hectorite Gel™ (Mineral Oil Base)
เครื่องสำอาง
Water-in-Oil EZ™ (Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone)
Water-in-Oil EZ™ (Cetyl PEG/PPG-10/1 Dimethicone)
เครื่องสำอาง
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
เครื่องสำอาง