การพัฒนาสูตรสบู่เหลวล้างมือพร้อมสารให้ความชุ่มชื้นและแอลกอฮอล์

ถามโดย: ns.nanich เมื่อ: March 25, 2020 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

อยากได้สบู่เหลวล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

ถ้าจากคำแนะนำนี้..ตัวอย่างสบู่เหลวผู้ใหญ่

  • Sulfate Free Shampoo Base (pH 7, Clear, Foaming) 35%
  • น้ำกลั่น 64%
  • สารกันเสีย 1%

แต่ถ้าอยากมีส่วนผสมของตัวให้ความชุ่มชื้นผิวเพิ่มเติม..ควรใช้ตัวไหนดีคะ?

หรือ ถ้าใช้การใส่น้ำมันแทนตามนี้..

สบู่เหลวน้ำมันมะพร้าว ผสมโจโจ้บา และวิตามินอี เนื้อใส เหมาะสำหรับผิวแห้ง ระคายเคืองง่าย

  • Oil Soap™ 45%
  • Fractionated Coconut Oil 46%
  • Jojoba Oil 5%
  • Vitamin E Acetate 1%
  • Oil Blender 3% (จำเป็นต้องใช้ในสูตรเพื่อป้องกันการแยกชั้น)

จะใช้แทนกันได้มั้ยคะ

และถ้าต้องการสบู่เหลวที่ยังคงความชุ่มชื่้นและสัมผัสความเป็นแอลกอฮอล์ได้ด้วย..คือใช้ แอลกอฮอล์ + Sulfate Free Shampoo Base + น้ำกลั่น + สารกันเสีย + Vitamin E Acetate + aloevera extract ทำได้มั้ยคะและถ้าทำได้ควรผสมด้วยสัดส่วนอย่างไรดีคะ?

ขอบคุณมากค่ะ

คำตอบ

คุณต้องการทำสบู่เหลวล้างมือที่ให้ความชุ่มชื้น และอาจมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ คุณได้สอบถามเกี่ยวกับการเพิ่มส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นลงในสูตรพื้นฐาน และความเป็นไปได้ในการใช้สูตรสบู่น้ำมัน หรือการผสมส่วนผสมหลายชนิดเข้าด้วยกัน

นี่คือข้อมูลสำหรับคำถามของคุณ:

การเพิ่มส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นลงใน Sulfate Free Shampoo Base

สูตรแรกที่คุณให้มาใช้ Sulfate Free Shampoo Base, น้ำกลั่น และสารกันเสีย ในการเพิ่มคุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวในสูตรนี้ ซึ่งเป็นสูตรพื้นฐานที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก คุณสามารถเพิ่มส่วนผสมที่ละลายน้ำได้หรือกระจายตัวในน้ำได้

  • Aloe Vera Extract (สารสกัดว่านหางจระเข้): เป็นตัวเลือกที่ดีที่ละลายน้ำได้ ช่วยปรับสภาพผิว ลดการระคายเคือง และให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว สามารถใช้ได้ในความเข้มข้น 1-10% จุดเริ่มต้นที่แนะนำคือ 3-5%
  • Glycerin (กลีเซอรีน): เป็นสารให้ความชุ่มชื้นทั่วไปอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยดึงน้ำเข้าสู่ผิว ละลายน้ำได้ และสามารถใช้ได้ในความเข้มข้นต่างๆ โดยทั่วไปคือ 1-10%
  • Vitamin E (ชนิดละลายน้ำ): แม้ว่า Vitamin E Acetate (ชนิดละลายในน้ำมัน) ที่คุณกล่าวถึงจะเหมาะสำหรับสูตรน้ำมัน แต่ Vitamin E ชนิดที่ละลายน้ำได้จะเหมาะสมกว่าสำหรับเบสสบู่เหลวนี้ หากใช้ Vitamin E Acetate ชนิดละลายในน้ำมัน จะต้องมีการทำอิมัลชันหรือกระจายตัวอย่างเหมาะสม อาจใช้ในความเข้มข้นต่ำ (0.1-0.5%) เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อความใสหรือความคงตัว หรือใช้ Vitamin E ชนิดละลายน้ำได้หากมี

สูตรที่ปรับปรุงแล้วอาจมีลักษณะดังนี้:

  • Sulfate Free Shampoo Base: 30-35%
  • Aloe Vera Extract: 3-5%
  • สารกันเสีย: 1%
  • น้ำกลั่น: ส่วนที่เหลือให้ครบ 100%

ผสม Sulfate Free Shampoo Base กับน้ำกลั่นอย่างเบามือเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดฟองมากเกินไป จากนั้นเติมสารกันเสียและ Aloe Vera Extract คนให้เข้ากัน

การใช้สูตร Oil Soap™ เป็นสบู่ล้างมือ

สูตรที่สองที่คุณระบุ ซึ่งมีส่วนประกอบของ Oil Soap™, Fractionated Coconut Oil, Jojoba Oil, Vitamin E Acetate และ Oil Blender ถูกออกแบบมาสำหรับเป็นสบู่น้ำมันเหลว

  • สูตรประเภทนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผิวแห้งหรือผิวแพ้ง่าย เนื่องจากมีส่วนประกอบของน้ำมันสูง
  • ช่วยทำความสะอาดอย่างอ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้ดี
  • เมื่อผสมกับน้ำ จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำนมและให้ฟองในระดับปกติ

ใช่ สูตรนี้สามารถใช้เป็นสบู่ล้างมือได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการสบู่ที่อ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้นสูง ความรู้สึกและฟองที่ได้จะแตกต่างจากสบู่เหลวทั่วไป

การผสมแอลกอฮอล์, Sulfate Free Shampoo Base และสารให้ความชุ่มชื้น

คุณสอบถามเกี่ยวกับการผสม Ethyl Alcohol, Sulfate Free Shampoo Base, น้ำกลั่น, สารกันเสีย, Vitamin E Acetate และ Aloe Vera Extract เพื่อทำสบู่เหลวที่ให้ความชุ่มชื้นและมีความรู้สึกแบบแอลกอฮอล์ สามารถทำได้ แต่ต้องระมัดระวังในการผสม เนื่องจากแอลกอฮอล์อาจส่งผลต่อความหนืดและการเกิดฟองของเบสสบู่ และอาจทำให้ผิวแห้งได้

เพื่อให้ได้สมดุลระหว่างการทำความสะอาด การให้ความชุ่มชื้น และความรู้สึกแบบแอลกอฮอล์ คุณสามารถพิจารณาสูตรเริ่มต้นดังนี้:

  • Sulfate Free Shampoo Base: 25-30%
  • Ethyl Alcohol (96% หรือ 99.9%): 5-15% (ปรับตามความรู้สึกแอลกอฮอล์ที่ต้องการ และระดับความแห้งที่ยอมรับได้)
  • Aloe Vera Extract: 3-5%
  • Vitamin E Acetate (ชนิดละลายในน้ำมัน): 0.1-0.5% (ผสมให้เข้ากันดี อาจกระจายตัวในเบสสบู่เล็กน้อยก่อน หรือใช้สารช่วยละลายหากจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าเข้ากันได้ดีในส่วนผสมของน้ำ/แอลกอฮอล์)
  • สารกันเสีย: 1%
  • น้ำกลั่น: ส่วนที่เหลือให้ครบ 100%

วิธีการผสม:

  1. ผสมน้ำกลั่น, Sulfate Free Shampoo Base และ Aloe Vera Extract คนอย่างเบามือจนเข้ากันดี
  2. ในภาชนะแยกต่างหาก ผสม Vitamin E Acetate กับ Sulfate Free Shampoo Base เล็กน้อย หรือสารช่วยละลายที่เหมาะสมหากจำเป็น ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระจายตัวเข้ากันดี
  3. ค่อยๆ เติมแอลกอฮอล์ลงในส่วนผสมหลัก (น้ำ/เบส) ขณะคนอย่างเบามือ
  4. เติมส่วนผสม Vitamin E ที่กระจายตัวแล้ว และสารกันเสียลงในส่วนผสมหลัก
  5. คนอย่างเบามือต่อไปจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี หลีกเลี่ยงการคนแรงๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดฟองมากเกินไป

ข้อควรพิจารณาที่สำคัญ:

  • การเติมแอลกอฮอล์อาจทำให้ความหนืดของผลิตภัณฑ์ลดลง คุณอาจต้องปรับเพิ่มเปอร์เซ็นต์ของ Sulfate Free Shampoo Base หรือใช้สารเพิ่มความหนืดที่เหมาะสมกับสูตรที่มีแอลกอฮอล์ หากต้องการความหนืดมากขึ้น
  • แอลกอฮอล์ความเข้มข้นสูงอาจทำให้ผิวแห้งได้ เปอร์เซ็นต์ที่แนะนำมีเป้าหมายเพื่อให้มีความรู้สึกแบบแอลกอฮอล์โดยไม่ทำให้ผิวแห้งมากเกินไป โดยเฉพาะเมื่อใช้ร่วมกับส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้น เช่น Aloe Vera Extract และ Vitamin E
  • หากต้องการให้มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรคที่มืออย่างมีนัยสำคัญ จะต้องใช้แอลกอฮอล์ในความเข้มข้นที่สูงกว่ามาก (โดยทั่วไปคือ 60-70%) ซึ่งทำได้ยากในเบสสบู่เหลวทั่วไปโดยไม่ทำให้คุณสมบัติของสบู่เปลี่ยนไปอย่างมากและเพิ่มความแห้งของผิว สูตรข้างต้นเน้นที่สบู่ทำความสะอาดที่มีความรู้สึกแบบแอลกอฮอล์อยู่บ้าง มากกว่าที่จะเป็นเจลล้างมือฆ่าเชื้อหลัก

แนะนำให้ทดลองทำในปริมาณน้อยๆ ก่อน เพื่อหาสัดส่วนที่ให้ความรู้สึก การเกิดฟอง และคุณสมบัติการให้ความชุ่มชื้นที่คุณต้องการมากที่สุด

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
Vitamin E (Tocopheryl Acetate)
เครื่องสำอาง
Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
Jojoba Oil (Golden - Deodorized)
เครื่องสำอาง
Fractionated Coconut Oil
Fractionated Coconut Oil
เครื่องสำอาง
Ethyl Alcohol (99.9% , 200 Proof, Research/Perfumer Grade)
Ethyl Alcohol (99.9% , 200 Proof, Research/Perfumer Grade)
เครื่องสำอาง
Oil Blender™ (Polyglyceryl-3 Diisostearate)
Oil Blender™ (Polyglyceryl-3 Diisostearate)
เครื่องสำอาง
Sulfate Free Shampoo Base (pH 7, Clear, Foaming)
Sulfate Free Shampoo Base (pH 7, Clear, Foaming)
เครื่องสำอาง