คำแนะนำสำหรับการทำเจลใส

นี่คือการประเมินสูตรเจลที่คุณเสนอและคำตอบสำหรับคำถามของคุณค่ะ:

1. ส่วนผสมนี้พอใช้ได้ยังคะ หรือมีคำแนะนำเพิ่มเติมช่วยแนะนำด้วยค่ะ

ส่วนผสมที่คุณเลือกมีประโยชน์ในการจัดการความมันและปัญหาผิว อย่างไรก็ตาม มีบางประเด็นที่ควรพิจารณา:

• LHA (Capryloyl Salicylic Acid) 10%: โดยทั่วไปอัตราการใช้ LHA ที่แนะนำจะต่ำกว่านี้ มักไม่เกิน 2% เนื่องจากอาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิว การใช้ที่ 10% ถือว่าสูงมาก และน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้สูตรครีมก่อนหน้านี้รู้สึกหนักหน้าและอาจทำให้หน้ามันในตอนเช้า ตามที่ข้อความตอบกลับในฟอรั่มได้แนะนำไว้ ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ลดความเข้มข้นของ LHA ลงเหลือ 0.5-2% เพื่อให้ผิวทนได้ดีขึ้นและรู้สึกสบายผิวมากขึ้นค่ะ
• Cyclomethicone 5%: Cyclomethicone เป็นซิลิโคนซึ่งละลายได้ในน้ำมัน/ซิลิโคน ไม่ละลายในน้ำ เนื่องจากคุณกำลังทำเจลใสซึ่งเป็นเบสที่เป็นน้ำและใช้ Pro Polymer เป็นสารก่อเจล Cyclomethicone จะไม่ละลายเข้ากับเบสเจลที่เป็นน้ำ อาจเกิดการแยกชั้นหรือทำให้เจลขุ่น และจะไม่เข้ากันอย่างเหมาะสม ในการปรับปรุงเนื้อสัมผัสและลดความเหนอะหนะในเจลเบสน้ำ ควรพิจารณาใช้สารที่ให้ความลื่นที่ละลายน้ำได้ หรือสารดูดซับความมันที่เป็นผงที่เข้ากันได้กับเจลน้ำ เช่น ที่แนะนำในข้อความตอบกลับในฟอรั่ม (เช่น Matte Silica หรือ Silisilk หากเข้ากันได้กับระบบเจลน้ำ หรือสารปรับเนื้อสัมผัสอื่นๆ ที่กระจายตัวในน้ำได้)
• Allantoin 0.5%: Allantoin มีข้อจำกัดในการละลายในน้ำที่อุณหภูมิห้อง (ประมาณ 0.5%) หากส่วนของน้ำในสูตรของคุณมีปริมาณน้อยกว่า 100% (ซึ่งเป็นเช่นนั้น เนื่องจากมีส่วนผสมอื่นรวมอยู่ด้วย) 0.5% ของสูตรทั้งหมดอาจเกินขีดจำกัดการละลายในส่วนของน้ำที่อุณหภูมิห้อง ตามที่ระบุในข้อความตอบกลับในฟอรั่ม เพื่อให้แน่ใจว่าละลายหมด ควรให้ความร้อนส่วนของน้ำถึง 75°C แล้วเติม Allantoin คนจนใส ก่อนจะเติมส่วนผสมที่ไวต่อความร้อนค่ะ
• Pro Polymer 2%: Pro Polymer เป็นสารก่อเจลที่เหมาะสมสำหรับสูตรเบสน้ำ อย่างไรก็ตาม ส่วนผสมบางอย่างเช่น Zinc PCA และ Vitamin B6 เป็นอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งสามารถลดความหนืดของเจลที่ทำด้วย Pro Polymer ได้ การใช้ 2% อาจจำเป็นเพื่อให้ได้ความข้นของเจลที่ต้องการเมื่อมีอิเล็กโทรไลต์เหล่านี้อยู่ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำการผสมสำหรับ Pro Polymer โดยอาจเติมอิเล็กโทรไลต์หลังจากที่เจลก่อตัวแล้ว และเตรียมพร้อมที่จะปรับความเข้มข้นของ Pro Polymer หากจำเป็นค่ะ
• Vitamin B6 (Pyridoxine Hydrochloride) 2%: Vitamin B6 มีประโยชน์ในการควบคุมความมัน แต่มีค่า pH ต่ำ (2-3) และไวต่อความร้อนและแสง มีความเสถียรในช่วง pH 2-6 ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเติมลงในส่วนของน้ำโดยไม่ใช้ความร้อน และปรับค่า pH สุดท้ายของสูตรให้อยู่ในช่วงที่เข้ากันได้กับส่วนผสมทั้งหมด (โดยทั่วไป pH 4-6 จะเหมาะสมที่สุดสำหรับความเสถียรและการละลายของส่วนผสมส่วนใหญ่ในรายการของคุณ)
• Zinc PCA 1% และ Vitamin B3 (Niacinamide) 4%: ความเข้มข้นเหล่านี้อยู่ในช่วงที่แนะนำและเป็นส่วนผสมที่ดีสำหรับประโยชน์ในการควบคุมความมัน ลดการอักเสบ และปรับปรุงเกราะป้องกันผิว

คำแนะนำ: ปรับสูตรโดยลดปริมาณ LHA ลงอย่างมาก แทนที่ Cyclomethicone ด้วยสารปรับเนื้อสัมผัสที่เข้ากันได้กับน้ำ ตรวจสอบให้แน่ใจว่า Allantoin ละลายอย่างถูกต้อง และคำนึงถึงผลของ pH และอิเล็กโทรไลต์ต่อความหนืดของเจลค่ะ

2. สีเจลจะเปลี่ยนไหมคะ เพราะ LHA เป็นสีเหลือง

ใช่ค่ะ Capryloyl Salicylic Acid (LHA) ชนิดผงมีลักษณะเป็นสีขาวถึงเหลืองอ่อน การใช้ที่ความเข้มข้น 10% มีแนวโน้มที่จะทำให้เจลของคุณมีสีเหลืองอ่อนที่สังเกตได้ แม้จะลดความเข้มข้นลง ก็ยังอาจมีสีเหลืองอ่อนๆ ได้ ขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์และแหล่งที่มาของ LHA ค่ะ

3. ต้องใส่สารกันเสียไหม ถ้าไม่ใส่จะอยู่ได้นานแค่ไหน

ใช่ค่ะ จำเป็นต้องใส่สารกันเสียในสูตรนี้อย่างแน่นอน เนื่องจากเจลมีเบสเป็นน้ำเป็นหลักและมีส่วนผสมหลายอย่าง จึงเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ (แบคทีเรีย เชื้อรา ยีสต์) แม้ว่าส่วนผสมบางอย่างเช่น BHA จะมีคุณสมบัติต้านจุลชีพอยู่บ้าง แต่คุณสมบัติของ LHA ในด้านนี้ยังไม่ได้รับการยืนยันชัดเจน และแม้แต่สูตรที่มี BHA ก็มักจะต้องใช้สารกันเสียเพิ่มเติม ตามที่กล่าวในข้อความตอบกลับในฟอรั่ม หากไม่มีระบบสารกันเสียที่เหมาะสม เจลของคุณอาจปนเปื้อนและไม่ปลอดภัยต่อการใช้งานอย่างรวดเร็ว อาจภายในไม่กี่วันหรือหนึ่งสัปดาห์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสัมผัสกับอากาศหรือนิ้วมือค่ะ

การเพิ่มระบบสารกันเสียแบบ Broad-spectrum ที่เหมาะสมในอัตราการใช้ที่แนะนำและอยู่ในช่วง pH ที่เข้ากันได้กับสูตรของคุณเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัยและยืดอายุการเก็บรักษา ด้วยการใช้สารกันเสียและการจัดเก็บที่เหมาะสม ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางโดยทั่วไปสามารถมีอายุการเก็บรักษาได้ 1-2 ปีค่ะ