การพัฒนาสูตรเจลผลัดเซลล์ผิวและฝ้า: Pro polymer, การละลาย LHA และความเข้ากันได้ของส่วนผสม

ถามโดย: nonvapon เมื่อ: May 31, 2015 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

กำลังพัฒนาสูตรเจลสำหรับฝ้าจางๆ ผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด และกระตุ้นคอลลาเจน ซึ่งเป็นสูตรที่เน้นการผลัดเซลล์ผิว มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการขึ้นสูตรและความเข้ากันได้ของส่วนผสมดังนี้ครับ

  1. Pro polymer ควรใส่เท่าไหร่ดีครับ ต้องการเนื้อเจลกลางๆ ป้องกันการตกตะกอนของ LHA
  2. วิธีการละลาย SKIN-DEFENSE® ระบุให้ละลายในน้ำมันโดยให้ผสมกับ LHA ก่อน หากไม่ละลายให้ใช้ความร้อนระยะสั้น หลังจากนั้นไปผสม GA และน้ำ และให้ความร้อนจนละลายหมด รอให้เย็น ปรับ pH 3.5 ไม่ต้องใส่สารกันเสีย แต่สูตรของผมไม่มีน้ำมันนอกเหนือจาก SKIN-DEFENSE® ครับ SKIN-DEFENSE® 2.5% จะละลาย LHA ชนิดผง 1% ได้หมดไหมครับ แม้จะใช้ความร้อนช่วย? และถ้าใช้ความร้อนเยอะไป จะทำให้ SKIN-DEFENSE® เสียคุณภาพไหมครับ?
  3. การลดการระคายเคืองด้วย Phytosterol + Squalane จาก SKIN-DEFENSE® เหมาะกับสูตรที่มี pH ต่ำ (pH 3.5) แบบนี้ไหมครับ?
  4. ควรใส่สารลดการหลั่ง Histamine ไหม หรือว่า น่าจะพอแล้ว?
  5. สูตรนี้ต้องใช้น้ำมันเป็นตัวทำละลาย SKIN-DEFENSE® ไหมครับ? และถ้าไม่ใช้ Pro polymer สามารถผสานน้ำ-น้ำมัน โดยใช้น้ำมันได้สูงสุดกี่% ใช้ SKIN-DEFENSE® แทนน้ำมันเลยได้ไหมครับ?

สูตรนี้มีส่วนผสมของ Glycolic acid และ LHA ซึ่งทราบว่าอาจทำให้เนื้อเจลอ่อนตัวลง ต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับขั้นตอนการผสมและสัดส่วนที่เหมาะสมครับ

คำตอบ

การปรับปรุงสูตรผลัดเซลล์ผิวสำหรับฝ้าและผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด

จากสูตรที่คุณเสนอมาและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ (C7) สามารถสรุปและให้คำแนะนำเพิ่มเติมได้ดังนี้ครับ

  1. ความเหมาะสมของสูตร: สูตรนี้ถือว่าใช้ได้ดีสำหรับปัญหาฝ้าจางๆ ผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องใช้ครีมกันแดดอย่างเคร่งครัด เนื่องจากผิวจะบางลงหลังการผลัดเซลล์ และไวต่อแสงแดดมาก การไม่ป้องกันแสงแดดอาจทำให้ผิวแย่ลงได้

  2. ปริมาณ Pro polymer: C7 แนะนำให้ใช้ Pro polymer ในช่วงประมาณ 1.5-2% เพื่อให้ได้เนื้อเจลที่มีความข้นปานกลางและช่วยป้องกันการตกตะกอนของ LHA ซึ่ง Pro polymer มีคุณสมบัติช่วยแขวนลอยอนุภาคได้ดี

  3. วิธีการละลายและผสม: วิธีการผสมที่แนะนำเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดีและคงประสิทธิภาพคือ:

    • เริ่มต้นด้วยการทำเบสเจลน้ำโดยผสม Pro polymer กับน้ำ คนให้เข้ากันจนได้เนื้อเจล
    • เติม Glycolic Acid ลงในเจลน้ำ คนให้ละลายจนหมด หากเนื้อเจลเหลวลง สามารถเพิ่ม Pro polymer เพื่อปรับความข้นได้
    • แยกทำส่วนน้ำมัน: ละลาย LHA ใน SKIN-DEFENSE® โดยอาจต้องใช้ความร้อนประมาณ 70-80 องศาเซลเซียสเพื่อช่วยในการละลาย (ตามข้อมูลของ LHA)
    • รอให้ส่วนน้ำมันที่ละลาย LHA เย็นลงเล็กน้อย (ควรต่ำกว่า 60 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกัน Glycolic Acid เสื่อมสภาพ)
    • ค่อยๆ เติมส่วนน้ำมันที่เตรียมไว้ลงในส่วนของเจลน้ำที่ผสม Glycolic Acid แล้ว พร้อมกับคนหรือปั่นให้เข้ากันจนเป็นเนื้อเดียว
    • ปรับ pH สุดท้ายของสูตรให้อยู่ในช่วง 3.5

    C7 ตั้งข้อสังเกตว่า SKIN-DEFENSE® 2.5% อาจไม่เพียงพอที่จะละลาย LHA ชนิดผง 1% ได้หมด แม้จะใช้ความร้อนช่วย และความร้อนสูงเกินไปอาจทำให้ SKIN-DEFENSE® เสียคุณภาพได้ หาก LHA ไม่ละลายหมด อาจต้องพิจารณาปรับปริมาณ SKIN-DEFENSE® หรือใช้วิธีอื่นช่วยในการกระจายตัวของ LHA

  4. SKIN-DEFENSE® กับ pH ต่ำ: การใช้ Phytosterol และ Squalane จาก SKIN-DEFENSE® เหมาะสม กับสูตรที่มี pH ต่ำถึง 3.5 ไม่มีปัญหา เนื่องจากส่วนประกอบกลุ่มน้ำมันธรรมชาติส่วนใหญ่ทนกรดได้ดีที่ pH ระดับนี้

  5. การเพิ่มสารลดการหลั่ง Histamine: ผู้เชี่ยวชาญ (C7) สอบถามกลับว่าคุณหมายถึงสารตัวใดโดยเฉพาะ หากคุณมีชื่อสารที่ต้องการใช้ สามารถพิจารณาความเหมาะสมได้ แต่โดยทั่วไปแล้ว การใช้ส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมผิว เช่น Vitamin B3 ที่จะกล่าวถึงต่อไป อาจเพียงพอแล้ว

  6. SKIN-DEFENSE® และการผสานน้ำ-น้ำมัน:

    • SKIN-DEFENSE® เป็นส่วนผสมกลุ่มน้ำมันที่เป็นของเหลวอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวทำละลายอื่น เพื่อละลาย SKIN-DEFENSE®
    • หากไม่ใช้ Pro polymer หรือสารสร้างเนื้อเจล/อิมัลซิไฟเออร์อื่นๆ สูตรจะ แยกชั้น ระหว่างน้ำกับน้ำมัน SKIN-DEFENSE® ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวผสานน้ำกับน้ำมันได้ คุณจำเป็นต้องมีสารที่ช่วยผสาน (Emulsifier) เช่น Pro polymer หรือ Light Cream Maker ตามที่ C7 แนะนำ
    • ปริมาณน้ำมันสูงสุดที่สามารถผสานกับน้ำได้โดยไม่ใช้ Pro polymer (แต่ใช้อิมัลซิไฟเออร์ตัวอื่น) จะขึ้นอยู่กับชนิดและประสิทธิภาพของอิมัลซิไฟเออร์ที่คุณเลือกใช้

คำแนะนำเพิ่มเติม:

ผู้เชี่ยวชาญ (C7) แนะนำให้เพิ่ม Vitamin B3 (Niacinamide) ในสูตร ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ดีและราคาไม่แพง ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสียหาย เสริมเกราะป้องกันผิว ลดการอักเสบ และช่วยลดรอยแดง/รอยดำได้ดี สามารถใช้ Vitamin B3 ได้ในอัตรา 1-10% โดยผสมในส่วนของน้ำ.

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Pro Polymer™ (Gel Maker)
Pro Polymer™ (Gel Maker)
เครื่องสำอาง
Glycopure™ (Glycolic Acid (AHA) 100% Powder)
Glycopure™ (Glycolic Acid (AHA) 100% Powder)
เครื่องสำอาง