การพัฒนาสูตรเจลว่านหางจระเข้: แก้ปัญหาความเหนียวและการเลือกสารกันเสียให้ใส

ถามโดย: shvftonfa เมื่อ: May 12, 2016 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ฉันกำลังพัฒนาสูตรเจลว่านหางจระเข้ ฉันใช้ Aloe Vera Extract ที่ความเข้มข้น 10% และใส่ Cyclopentasiloxane เพื่อช่วยให้เนื้อสัมผัสดีขึ้น แต่เจลก็ยังรู้สึกเหนียวเหนอะหนะหลังจากแห้งไปแล้ว สาเหตุของความเหนียวคืออะไร และจะลดความเหนียวได้อย่างไรบ้าง?

นอกจากนี้ ฉันลองใส่สารกันเสียคือ Mild Preserve Eco แต่เจลที่ใสกลับขุ่น ถ้าฉันใช้ Para-Preserve (Phenonip P4) แทน เจลจะยังคงใสอยู่ใช่ไหมคะ ฉันเข้าใจถูกต้องหรือไม่คะ?

คำตอบ

คำแนะนำสำหรับการทำเจลว่านหางจระเข้

จากประสบการณ์ของคุณเกี่ยวกับการทำเจลว่านหางจระเข้และคำแนะนำที่ได้รับ มีข้อเสนอแนะดังนี้เพื่อแก้ไขปัญหาความเหนียวและการใช้สารกันเสีย:

1. การลดความเหนียวเหนอะหนะ

สาเหตุหลักของความรู้สึกเหนียวเหนอะหนะในเจลว่านหางจระเข้ของคุณน่าจะมาจากการใช้ Aloe Vera Extract ในความเข้มข้นสูงถึง 10% สารสกัดว่านหางจระเข้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ความเข้มข้นสูง อาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะบนผิวได้

คำแนะนำ:

  • ลดความเข้มข้นของ Aloe Vera Extract ลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำลง เช่น 1-3% นี่คือการปรับเปลี่ยนหลักที่จำเป็นเพื่อลดความเหนียวเหนอะหนะลงอย่างมาก
  • เพื่อคงไว้หรือปรับปรุงคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ของเจลในขณะที่ลดความเข้มข้นของว่านหางจระเข้ลง ลองพิจารณาเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ ที่ดีต่อผิว ตามคำแนะนำ การผสมผสานระหว่าง Aloe Vera Extract (ในเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำลง) Safe-B3 (Niacinamide) และ Panthenol (Vitamin B5) สามารถให้การบำรุงผิวที่ครอบคลุมพร้อมสัมผัสที่ดีขึ้น
  • การเพิ่ม Cyclopentasiloxane ช่วยให้รู้สึกนุ่มลื่นในตอนแรก แต่ดังที่คุณสังเกตเห็น มันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาความเหนียวเหนอะหนะที่หลงเหลืออยู่หลังจากเจลแห้ง การลดส่วนประกอบที่ทำให้เหนียว (Aloe Vera Extract) คือกุญแจสำคัญ
  • สำหรับสารนำพาสารสู่ผิว แม้ว่าจะช่วยให้ส่วนผสมซึมเข้าสู่ผิวได้ดีขึ้น แต่ก็อาจไม่ได้ช่วยต้านทานความเหนียวเหนอะหนะที่เกิดจากความเข้มข้นสูงของส่วนผสมที่สร้างฟิล์มอย่าง Aloe Vera Extract โดยตรง การมุ่งเน้นไปที่การลดส่วนประกอบที่ทำให้เหนียวจะมีประสิทธิภาพมากกว่า
  • สารสร้างเนื้อเจลที่คุณใช้อยู่คือ Pro Polymer Silk (Polyquaternium-37) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นคือให้สัมผัสที่นุ่มลื่นบนผิว (Silky) ซึ่งเป็นประโยชน์ ความเหนียวเหนอะหนะไม่น่าจะเกิดจากสารสร้างเนื้อเจลนี้ที่ 1% แต่น่าจะมาจากว่านหางจระเข้ที่ความเข้มข้นสูง

2. การเลือกสารกันเสียที่ทำให้เจลใส

คุณเข้าใจถูกต้องแล้วว่า Mild Preserved Eco ทำให้เจลของคุณขุ่น เนื่องจากไม่สามารถละลายน้ำได้โดยตรงและจำเป็นต้องกระจายตัวหรือละลายในตัวทำละลายเฉพาะ

คำแนะนำ:

  • เพื่อให้เจลของคุณยังคงความใส ให้เลือกใช้สารกันเสียที่ละลายน้ำได้
  • ตามคำแนะนำ Para-Preserve (เทียบเท่า Phenonip P4) เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่จะช่วยให้เจลของคุณใสและให้การป้องกันเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • อีกทางเลือกหนึ่งคือ Phenoxyethanol SA (เทียบเท่า Optiphen Plus) ซึ่งเป็นสารกันเสียแบบ Broad Spectrum ที่ไม่มี Paraben และยังเหมาะสำหรับเจลใสที่ใช้น้ำเป็นเบส

ด้วยการลดความเข้มข้นของ Aloe Vera Extract และเลือกใช้สารกันเสียที่ละลายน้ำได้ เช่น Para-Preserve หรือ Phenoxyethanol SA คุณจะสามารถทำเจลที่ใสและมีความเหนียวเหนอะหนะน้อยลงได้อย่างมาก

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)
เครื่องสำอาง
Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)
Cyclopentasiloxane (Low-Odor Cyclomethicone)
เครื่องสำอาง
Pro Polymer™ Silk
Pro Polymer™ Silk
เครื่องสำอาง
Para-Preserve (eq. Phenonip P4)
Para-Preserve (eq. Phenonip P4)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
เครื่องสำอาง
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)
เครื่องสำอาง