การพัฒนาสูตรเจลสำหรับผิวหน้ามัน ขาดน้ำ มีรอยดำ และเซปเดิร์ม
คำถาม
ฉันมีสภาพผิวหน้ามัน ขาดน้ำ มีรอยดำ และเป็นเซปเดิร์ม กำลังพัฒนาสูตรเจลโดยใช้ส่วนผสมต่างๆ เช่น N-acetyl Glucosamine, Niacinamide, Licorice Extract และ Allantoin อยากสอบถามดังนี้ค่ะ
- ควรเพิ่มหรือลดส่วนผสมอะไรบ้าง และในปริมาณเท่าไรดีคะ? (เช่น ควรเพิ่ม Natural Moisturizing Amino Acid, Sodium PCA, Sodium Lactate, Urea, หรือ Beta Glucan ไหม)
- การใช้ Licorice Extract จะทำให้เซปเดิร์มกำเริบไหมคะ และค่า pH เหมาะสมสำหรับสูตรหรือไม่?
- N-acetyl Glucosamine เพียงพอสำหรับการลดรอยดำแล้วหรือไม่ หรือจำเป็นต้องใช้ร่วมกับ Niacinamide?
คำตอบ
การพิจารณาสูตรสำหรับผิวหน้ามัน ขาดน้ำ ลอก และมีรอยดำ พร้อมเซปเดิร์ม
จากสูตรที่คุณเสนอมาและการพูดคุยในกระทู้ นี่คือการพิจารณาโดยเน้นเรื่องความชุ่มชื้น รอยดำ และความเหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ:
1. ควรเพิ่มหรือลดอะไร เท่าไรดีคะ
สูตรของคุณมีส่วนผสมที่ดีหลายอย่างสำหรับให้ความชุ่มชื้นและลดรอยดำ ทางทีมงานได้แนะนำให้เริ่มต้นด้วยสูตรที่ไม่ซับซ้อนเกินไป และเห็นว่าส่วนผสมที่คุณเลือกมานั้นเพียงพอสำหรับเป้าหมายของคุณแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทีมงานแนะนำให้ใช้เบสเจลที่ขึ้นเนื้อด้วยโปรโพลิเมอร์แทน Hyaluronic Acid สำหรับผิวหน้ามัน แม้จะขาดน้ำ เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ หากคุณต้องการเนื้อที่เบาขึ้น อาจพิจารณาตามคำแนะนำนี้ได้ค่ะ นอกเหนือจากนั้น ส่วนผสมปัจจุบันก็เหมาะสมดีแล้วค่ะ
ปริมาณส่วนผสมที่คุณใช้ก็อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม โดยเฉพาะ Allantoin 0.5 กรัมในน้ำ 81 กรัม คิดเป็นประมาณ 0.6% ซึ่งอยู่ในช่วงที่แนะนำ (0.1-2.0% และ 0.5% เป็นปริมาณที่ละลายน้ำได้ดีที่อุณหภูมิห้อง)
การเพิ่มส่วนผสมอื่นๆ เช่น Natural Moisturizing Amino Acid, Sodium PCA, Sodium Lactate, Urea หรือ Beta Glucan แม้จะมีประโยชน์ แต่ก็อาจทำให้สูตรซับซ้อนเกินไปสำหรับการเริ่มต้น ตามคำแนะนำของทีมงานค่ะ
2. ใช้ Licorice Extract แล้วเซปเดิร์มกำเริบไหมคะ
ทั้งจากความเห็นในกระทู้และคำแนะนำของทีมงาน ยืนยันว่า Licorice Extract ไม่น่าจะกระตุ้นให้เซปเดิร์มกำเริบค่ะ ในทางกลับกัน Licorice Extract (โดยเฉพาะชนิด Licochalcone A) มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบและลดการระคายเคือง ซึ่งจะช่วยปลอบประโลมผิวและลดรอยแดง ทำให้เหมาะกับสภาพผิวแพ้ง่ายหรือระคายเคืองง่ายอย่างเซปเดิร์ม คุณสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้เซปเดิร์มแย่ลงค่ะ
สำหรับเรื่องค่า pH ของ Licorice Extract ทางทีมงานได้ชี้แจงแล้วว่าคุณไม่จำเป็นต้องปรับค่า pH ของสูตรค่ะ ผิวสามารถทนค่า pH ได้ในช่วง 4.5-7 ได้สบาย และค่า pH ของ Licorice Extract ชนิดละลายน้ำ (3.9-5.9) ก็อยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค่ะ
3. เรื่องรอยดำใช้ N-acetyl Glucosamine อย่างเดียวได้ไหมคะ
N-acetyl Glucosamine (GlucoBright™) มีประสิทธิภาพในการลดรอยดำและจุดด่างดำค่ะ และจะมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นเมื่อใช้ร่วมกับ Niacinamide (Vitamin B3) ซึ่งทั้งสองตัวนี้มีอยู่ในสูตรของคุณ การผสมผสานสองตัวนี้ได้รับการยืนยันจากการวิจัยว่าช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและลดเลือนจุดด่างดำได้ดี เมื่อพิจารณาถึงความกังวลของคุณเกี่ยวกับการใช้ส่วนผสมอื่นที่อาจส่งผลต่อเซปเดิร์ม การใช้ N-acetyl Glucosamine ร่วมกับ Niacinamide ในสูตรปัจจุบันจึงเป็นแนวทางที่ดีในการจัดการปัญหารอยดำ โดยไม่ต้องเพิ่มส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองค่ะ
สรุปแล้ว สูตรที่คุณเสนอมามีส่วนผสมที่ดีที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นและรอยดำ แม้ทีมงานจะแนะนำเบสที่เบาลงสำหรับผิวมัน แต่รายการส่วนผสมปัจจุบันก็เพียงพอสำหรับเป้าหมายของคุณแล้ว Licorice Extract ปลอดภัยสำหรับเซปเดิร์ม และการทำงานร่วมกันของ N-acetyl Glucosamine และ Niacinamide มีประสิทธิภาพในการลดรอยดำค่ะ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Allantoin

Aloe Vera Extract (อัตราสกัด 10:1 FullAssay™)

Hyaluronic Acid (Standard Molecule)

Hyaluronic Acid (Small Molecule)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Calendula Extract (Water Soluble)

Pure-Glabridin™ Licorice Extract (Glabridin 90%)

Hi-Glabridin™ Licorice Extract (Glabridin 40%)

Hi-LiconeA™ Licorice Extract (Licochalcone A 20%)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide, Switzerland)

D-Panthenol Care (Pro-Vitamin B5, 100% Liquid)

Licorice Extract (Glabridin 4.5%, Water-Soluble)

Hyaluronic Acid (Nano Molecule, 800daltons)

Hyaluronic Acid (Nano Molecule, 2000daltons)
