สวัสดีค่ะ จากสูตรที่คุณเสนอมาและคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ มีข้อควรพิจารณาที่สำคัญสองสามข้อค่ะ โดยเฉพาะเรื่องวิตามินซีและค่า pH เมื่อใช้ไกลโคลิกแอซิดร่วมกับไนอะซินาไมด์

เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลที่ถูกต้องว่า L-Ascorbic Acid ไม่เสถียรในสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ในขณะที่มีวิตามินซีอนุพันธ์ที่เสถียร เช่น Perfect-C, Ascorbyl Glucoside และ Ethyl Ascorbic Acid แต่ข้อมูลผลิตภัณฑ์ของส่วนผสมเหล่านี้ระบุว่าไม่ควรใช้ร่วมกับ Niacinamide (Vitamin B3) หากคุณต้องการใช้ทั้ง Niacinamide และวิตามินซีอนุพันธ์ที่เสถียรบางชนิดในสูตรเดียวกัน จะเกิดปัญหาความเข้ากันไม่ได้ค่ะ

จากปัญหาความเข้ากันไม่ได้นี้และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ว่าการใช้ Niacinamide และ Glycolic Acid ร่วมกันอาจให้ผลลัพธ์ที่ดีอยู่แล้ว จึงขอแนะนำให้เริ่มต้นด้วยสูตรที่ไม่มีวิตามินซีค่ะ ซึ่งจะช่วยให้การทำสูตรง่ายขึ้นและหลีกเลี่ยงปัญหาความเสถียรหรือประสิทธิภาพที่เกิดจากส่วนผสมที่ไม่เข้ากัน

ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งคือค่า pH Glycolic Acid จะมีประสิทธิภาพสูงสุดที่ค่า pH ต่ำ (โดยทั่วไปต่ำกว่า 4.0) ในขณะที่ Niacinamide จะเสถียรที่สุดในช่วงที่เป็นกรดเล็กน้อยถึงกลางๆ (pH 4.0-7.0) การใช้ร่วมกันจำเป็นต้องมีการควบคุมค่า pH อย่างระมัดระวัง คุณต้องแน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายต่ำพอที่ Glycolic Acid จะมีประสิทธิภาพ (โดยทั่วไปประมาณ 3.5-4.0 ซึ่งยังอยู่ในช่วงที่ Niacinamide เสถียร แม้จะต่ำกว่าช่วงที่เหมาะสมที่สุดเล็กน้อย)

นี่คือสูตรเจล AHA ที่ปรับปรุงใหม่จากสูตรที่คุณเสนอมา โดยตัดวิตามินซีออกและเพิ่มสารปรับความข้น/ปรับ pH (Neutralizer) เพื่อช่วยสร้างเนื้อเจลและปรับค่า pH:

สูตรเจล AHA (ไม่มีวิตามินซี)

สูตรนี้เน้นประโยชน์ของ Glycolic Acid ในการผลัดเซลล์ผิว และ Niacinamide ในการเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวและปรับผิวให้กระจ่างใส พร้อมแก้ไขปัญหาความเสถียร

• น้ำ (Water): 93.5%
• Pro Polymer™ (สารสร้างเนื้อเจล): 1%
• Safe-B3™ (วิตามินบี 3, Niacinamide): 1%
• Glycopure™ (Glycolic Acid (AHA) 100% Powder): 3%
• Phenoxyethanol (Extra Pure): 1%
• Triethanolamine 99%: 0.5% (ปริมาณโดยประมาณสำหรับปรับค่า pH - ปรับเพิ่ม/ลดตามความเหมาะสม)

รวม: 100%

หมายเหตุ: ปริมาณ Triethanolamine 99% เป็นค่าประมาณ คุณจะต้องค่อยๆ เติมทีละน้อยพร้อมกับวัดค่า pH เพื่อให้ได้ค่า pH ที่ต้องการในช่วง 3.5-4.0

วิธีการทำเจล

1. เตรียมส่วนของน้ำ: ตวงน้ำตามปริมาณที่ต้องการ
2. กระจายโพลิเมอร์: ค่อยๆ โรย Pro Polymer™ ลงในน้ำพร้อมกับคนอย่างต่อเนื่อง คนเบาๆ จนโพลิเมอร์กระจายตัวทั่วถึง ปล่อยทิ้งไว้สักพัก (เช่น 30-60 นาที หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำผลิตภัณฑ์) เพื่อให้โพลิเมอร์ดูดซับน้ำและเริ่มสร้างเนื้อเจล หลีกเลี่ยงการปั่นด้วยความเร็วสูง ซึ่งอาจทำให้โครงสร้างโพลิเมอร์เสียหายได้
3. เติมส่วนผสมที่ละลายน้ำ: เมื่อโพลิเมอร์ดูดซับน้ำและเริ่มมีโครงสร้างเจลแล้ว ให้เติม Safe-B3™ (Niacinamide) และ Phenoxyethanol (Extra Pure) ลงในส่วนผสม คนเบาๆ จนส่วนผสมทั้งหมดละลายเข้ากันดี
4. เตรียมสารละลายไกลโคลิกแอซิด: ในภาชนะเล็กๆ แยกต่างหาก ตวง Glycopure™ (Glycolic Acid) แบบผง เติมน้ำปริมาณเล็กน้อย (นำมาจากปริมาณน้ำทั้งหมด) เพื่อละลายผง คนจนละลายหมด
5. รวมส่วนผสม: ค่อยๆ เทสารละลาย Glycolic Acid ที่เตรียมไว้ลงในส่วนผสมเจลหลัก พร้อมกับคนเบาๆ
6. วัดค่า pH: ใช้เครื่องวัด pH หรือกระดาษวัด pH วัดค่า pH ของส่วนผสม ค่า pH จะค่อนข้างต่ำเนื่องจากมี Glycolic Acid
7. ปรับค่า pH: ค่อยๆ เติม Triethanolamine 99% ทีละหยด คนให้เข้ากันดีหลังการเติมแต่ละครั้ง และวัดค่า pH อย่างต่อเนื่อง หยุดเติมเมื่อค่า pH อยู่ในช่วงที่คุณต้องการ (pH 3.5-4.0) ขั้นตอนนี้สำคัญมากสำหรับความเสถียรของ Niacinamide และประสิทธิภาพของ Glycolic Acid
8. ตรวจสอบขั้นสุดท้าย: เมื่อได้ค่า pH ที่ต้องการและค่าคงที่แล้ว ให้คนเจลเบาๆ อีกครั้ง บรรจุเจลลงในภาชนะที่เหมาะสม

โปรดจำไว้ว่าควรสวมอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลที่เหมาะสมเสมอ (ถุงมือ, แว่นตาป้องกัน) เมื่อทำงานกับส่วนผสมเครื่องสำอาง โดยเฉพาะกรดและเบส ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ทดลองทำในปริมาณน้อยก่อนที่จะทำในปริมาณมาก

ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสูตรที่ปรับปรุงใหม่นี้ ได้แก่:

• Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
• Glycopure™ (Glycolic Acid (AHA) 100% Powder)
• Pro Polymer™ (Gel Maker)
• Phenoxyethanol (Extra Pure)
• Triethanolamine 99%