การพัฒนาสูตรเจลและครีมที่มีสารออกฤทธิ์: ความเป็นไปได้, วิธีผสม, และการเพิ่มสารให้ความชุ่มชื้น

ถามโดย: luknoo1989 เมื่อ: January 08, 2018 ประเภทผลิตภัณฑ์: เครื่องสำอาง

คำถาม

ต้องการทำเครื่องสำอาง 2 สูตร คือ สูตรเจลและสูตรครีม โดยใช้ส่วนผสมตามรายการด้านล่างนี้ค่ะ รบกวนช่วยตรวจสอบความเป็นไปได้ของสูตรและแนะนำขั้นตอนการผสม โดยเฉพาะลำดับการเติมส่วนผสมบางตัว เช่น Zinc PCA ค่ะ นอกจากนี้ ต้องการทำสูตรที่คล้ายกันสำหรับผิวธรรมดาที่ต้องการความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้น อยากทราบว่าสามารถเพิ่ม Panthenol, Rice Vitamin (Inositol) และ L-Carnitine ได้หรือไม่ และควรเติมอย่างไรค่ะ

สูตรเจล:

  • B3 (Niacinamide) 4%
  • NAG (Acetyl Glucosamine) 4%
  • Zinc PCA 1%
  • Beta Glucan 7%
  • Pitera (Galactomyces Ferment Filtrate) 30%
  • Phenoxyethanol SA 0.6%
  • Pro Polymer (Acrylate Crosspolymer) 2%
  • Rhamnose 3%
  • DI Water (ตามสัดส่วนที่เหลือ)

สูตรครีม:

  • เฟสน้ำ:
    • B3 (Niacinamide) 4%
    • NAG (Acetyl Glucosamine) 4%
    • Zinc PCA 1%
    • Beta Glucan 7%
    • Pitera (Galactomyces Ferment Filtrate) 20%
    • Phenoxyethanol SA 0.6%
    • Rhamnose 3%
    • Satin Cream Maker (Silky Cream Maker) 1%
  • เฟสน้ำมัน:
    • Coenzyme Q10 Extra 1%
    • MSH White Absorb 5%
    • Pro-Niacin (Myristyl Nicotinate) 5%

คำถามเฉพาะ:

  1. ทั้งสองสูตรสามารถผสมได้ตามรายการที่ระบุหรือไม่คะ
  2. ขั้นตอนการผสมที่ถูกต้องสำหรับแต่ละสูตรเป็นอย่างไร มีส่วนผสมใดที่ต้องระวังหรือมีลำดับการเติมเฉพาะ (เช่น Zinc PCA) หรือไม่คะ
  3. สามารถใช้ magnetic bar และเครื่อง stirrer ในการผสมได้หรือไม่คะ
  4. สำหรับสูตรที่เน้นผิวธรรมดาที่ต้องการความชุ่มชื้นเพิ่ม สามารถเพิ่ม Panthenol, Rice Vitamin (Inositol) และ L-Carnitine ได้หรือไม่คะ และควรเติมอย่างไรคะ

คำตอบ

การวิเคราะห์สูตร

โดยรวมแล้ว ทั้งสองสูตรของคุณมีส่วนผสมที่ยอดเยี่ยมซึ่งมุ่งเน้นคุณสมบัติที่คุณต้องการ ได้แก่ การลดความมันและสิว การให้ความชุ่มชื้น ประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอย การปรับผิวให้กระจ่างใส และการเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว ส่วนผสมอย่าง Niacinamide (Safe-B3™), Acetyl Glucosamine (GlucoBright™), Zinc PCA, Beta Glucan, Pitera (Galactomyces Ferment Filtrate), Rhamnose, Coenzyme Q10, MSH White™ และ Myristyl Nicotinate (Max-B3™) ล้วนเหมาะสมกับเป้าหมายเหล่านี้ค่ะ

อย่างไรก็ตาม มีข้อควรพิจารณาบางประการเกี่ยวกับความเข้มข้นและวิธีการผสมของส่วนผสมบางชนิด ตามที่เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลไว้และรายละเอียดผลิตภัณฑ์ค่ะ

สูตรเจล

  • ส่วนผสม: Safe-B3™ (Niacinamide) 4%, GlucoBright™ (NAG) 4%, Zinc PCA 1%, Beta Glucan 7%, Pitera (Galactomyces Ferment Filtrate) 30%, Phenoxyethanol SA 0.6%, Pro Polymer™ 2%, Rhamnose 3%, DI Water.
  • การวิเคราะห์:
    • ส่วนผสมหลักเหมาะสมกับคุณสมบัติผิวที่คุณต้องการค่ะ
    • ตามที่เจ้าหน้าที่ได้กล่าวถึง ปริมาณ Pro Polymer™ ที่ 2% มีแนวโน้มที่จะมากเกินไปและจะทำให้เนื้อเจลข้นมาก อาจมีลักษณะคล้ายพุดดิ้ง ซึ่งอาจรู้สึกเหนียวเหนอะหนะและไม่เหมาะสำหรับผิวผสมที่ต้องการความรู้สึกสบายผิว การลดปริมาณ Pro Polymer™ ลงเหลือประมาณ 1.0-1.3% ควรเพียงพอสำหรับการสร้างเนื้อเจลค่ะ
    • ปริมาณ Pitera ที่ 30% อยู่ในช่วงที่แนะนำให้ใช้ แต่รายละเอียดผลิตภัณฑ์ระบุว่าปริมาณสูงอาจทำให้รู้สึกเหนอะหนะได้ ซึ่งอาจขัดแย้งกับความต้องการ "ไม่เหนียวเหนอะหนะ" สำหรับผิวผสมค่ะ
    • ลำดับการผสม Zinc PCA มีความสำคัญ เนื่องจากเป็นอิเล็กโทรไลต์ ควรเติม Zinc PCA ทีละน้อย หลังจาก ที่ Pro Polymer™ สร้างเนื้อเจลเรียบร้อยแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการรบกวนการขึ้นเนื้อเจลค่ะ
    • ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายของสูตรอยู่ในช่วงที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรอยู่ในช่วง 4-6 ซึ่งเหมาะสมกับ Zinc PCA, Niacinamide และ Acetyl Glucosamine และเข้ากันได้กับ Phenoxyethanol SA (pH 2-6) และ Rhamnose (pH 5-9) ค่ะ
  • ผลลัพธ์ที่คาดหวัง: สูตรนี้ควรมีประสิทธิภาพในการดูแลปัญหาสิว ควบคุมความมัน ปรับผิวให้กระจ่างใส ต่อต้านริ้วรอย และเสริมสร้างเกราะป้องกันผิว อย่างไรก็ตาม เนื้อสัมผัสอาจจะข้นและเหนอะหนะกว่าที่ต้องการเนื่องจากปริมาณ Pro Polymer™ และ Pitera ที่สูง การปรับลดปริมาณ Pro Polymer™ จะช่วยให้เนื้อสัมผัสดีขึ้นค่ะ

สูตรครีม

  • ส่วนผสม: เฟสน้ำ: Safe-B3™ 4%, GlucoBright™ 4%, Zinc PCA 1%, Beta Glucan 7%, Pitera 20%, Phenoxyethanol SA 0.6%, Rhamnose 3%, Satin Cream Maker™ 1%. เฟสน้ำมัน: Coenzyme Q10 (Oil-Soluble) 1%, MSH White™ 5%, Max-B3™ (Myristyl Nicotinate) 5%.
  • การวิเคราะห์:
    • การเลือกส่วนผสมหลักเหมาะสมกับคุณสมบัติที่ต้องการค่ะ
    • ตามที่เจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลไว้ ปริมาณ Satin Cream Maker™ ที่ 1% มีแนวโน้มที่จะไม่เพียงพอต่อการสร้างอิมัลชันที่คงตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมี Zinc PCA (อิเล็กโทรไลต์) ซึ่งสามารถลดประสิทธิภาพของ Satin Cream Maker™ ได้ ควรเพิ่มปริมาณ Satin Cream Maker™ เป็นอย่างน้อย 2.0% หรือใช้ Pro Polymer™ 1% ร่วมกับ Satin Cream Maker™ 1% เพื่อช่วยในการสร้างเนื้อครีมให้คงตัวค่ะ
    • ปริมาณ Coenzyme Q10 ที่ 1% สูงกว่าปริมาณสูงสุดที่แนะนำคือ 0.5% แม้ว่าจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาเสมอไป แต่ก็ควรทราบไว้ค่ะ
    • ปริมาณ MSH White™ ที่ 5% สูงกว่าปริมาณสูงสุดที่แนะนำอย่างมาก (0.5-2%) การใช้ในปริมาณที่สูงเช่นนี้อาจไม่เพิ่มประสิทธิภาพ และอาจก่อให้เกิดปัญหาในการผลิตหรือการระคายเคืองได้ แนะนำให้ใช้ในปริมาณที่แนะนำเพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุดค่ะ
    • MSH White™ และ Coenzyme Q10 เป็นส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันและต้องละลายในเฟสน้ำมัน โดย MSH White™ ต้องใช้ความร้อนประมาณ 80°C และ Coenzyme Q10 ต้องใช้ความร้อนไม่เกิน 60°C ซึ่งต้องคำนึงถึงในขั้นตอนการผสมค่ะ Max-B3™ ก็ละลายในน้ำมันและควรผสมในเฟสน้ำมันเช่นกัน
    • ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่า pH สุดท้ายอยู่ในช่วงที่เหมาะสม (4-6) สำหรับส่วนผสมที่ละลายน้ำ ซึ่งเข้ากันได้กับ Satin Cream Maker™ (pH 3-12), Phenoxyethanol SA (pH 2-6) และ Rhamnose (pH 5-9) ค่ะ
  • ผลลัพธ์ที่คาดหวัง: สูตรนี้มีศักยภาพในการดูแลผิวตามที่คุณต้องการ แต่ความคงตัวของอิมัลชันอาจมีปัญหาหากใช้ Satin Cream Maker™ เพียง 1% การปรับระบบอิมัลซิไฟเออร์เป็นสิ่งจำเป็น ปริมาณ CoQ10 และ MSH White™ ที่สูงอาจไม่จำเป็นและอาจก่อให้เกิดปัญหาได้ค่ะ

ขั้นตอนการผสม

ใช่ค่ะ คุณสามารถใช้ magnetic bar และเครื่อง stirrer (เช่น เครื่องกวนแบบ Overhead Stirrer) ในการผสมสูตรเหล่านี้ได้

  • สำหรับ สูตรเจล magnetic stirrer เพียงพอสำหรับการผสมเฟสน้ำและ Pro Polymer™ ควรค่อยๆ โรย Pro Polymer™ ลงไปและกวนด้วยความเร็วต่ำถึงปานกลาง หลีกเลี่ยงการกวนด้วยความเร็วสูง (>2500 rpm) เพื่อไม่ให้โครงสร้างของพอลิเมอร์เสียหาย เติม Zinc PCA เป็นลำดับสุดท้าย ค่อยๆ เติมทีละน้อยขณะกวนค่ะ
  • สำหรับ สูตรครีม magnetic stirrer ที่มีแผ่นทำความร้อน หรือ Overhead Stirrer ที่มีอ่างน้ำร้อน จะเหมาะสมกว่า คุณจะต้องให้ความร้อนแก่เฟสน้ำมันเพื่อละลายส่วนผสมที่ละลายในน้ำมัน (MSH White™ และ Coenzyme Q10) ก่อนนำไปรวมกับเฟสน้ำ เมื่อรวมเฟสและสร้างอิมัลชันด้วย Satin Cream Maker™ ให้ใช้ความเร็วในการกวนปานกลาง และหลีกเลี่ยงความเร็วที่สูงเกินไป (>2500 rpm) เพื่อให้ได้อิมัลชันที่คงตัวค่ะ

การเพิ่มส่วนผสมสำหรับผิวธรรมดา

ใช่ค่ะ คุณสามารถเพิ่ม Panthenol (PreB5™), Rice Vitamin (Inositol) และ L-Carnitine ลงในสูตรสำหรับผิวธรรมดาที่ต้องการความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้นได้

  • Panthenol (PreB5™): เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่ดีและช่วยเสริมสร้างผิว ละลายน้ำได้ สามารถเติมในเฟสน้ำได้ในปริมาณที่แนะนำ 0.5-1.0%.
  • Rice Vitamin (Inositol): ช่วยปรับสมดุลความชุ่มชื้นของผิว เหมาะสำหรับทั้งผิวผสมและผิวแห้ง ละลายน้ำได้ สามารถเติมในเฟสน้ำได้ในปริมาณที่แนะนำ 1-3% โดยควรอยู่ในช่วง pH 4-7.
  • L-Carnitine: ให้ความชุ่มชื้น ปรับสมดุลความชุ่มชื้น เร่งการผลัดเซลล์ผิว และช่วยลดความมันได้ ละลายน้ำได้ สามารถเติมในเฟสน้ำได้ในปริมาณที่แนะนำ 1-5% ควรอยู่ในช่วง pH 3.5-8 (เหมาะสมที่สุด 4-7) และควรหลีกเลี่ยงความชื้นเนื่องจากดูดความชื้นได้ง่าย.

ส่วนผสมทั้งสามชนิดนี้ละลายน้ำได้และเข้ากันได้กับช่วง pH ของส่วนผสมในสูตรเดิมของคุณ การเพิ่มส่วนผสมเหล่านี้จะทำให้ปริมาณสารออกฤทธิ์ที่ละลายน้ำในสูตรเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจต้องปรับเพิ่มปริมาณสารสร้างเนื้อเจล (Pro Polymer™) หรืออิมัลซิไฟเออร์ (Satin Cream Maker™) เล็กน้อย เพื่อรักษาระดับความข้นและความคงตัวของสูตรค่ะ

สรุปและข้อแนะนำ

  • การเลือกใช้ส่วนผสมของคุณเหมาะสมกับคุณสมบัติผิวที่ต้องการค่ะ
  • สำหรับ สูตรเจล แนะนำให้ลดปริมาณ Pro Polymer™ ลงเหลือ 1.0-1.3% เพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่ไม่ข้นและเหนียวเหนอะหนะจนเกินไป และเติม Zinc PCA เป็นลำดับสุดท้ายหลังขึ้นเนื้อเจลแล้ว
  • สำหรับ สูตรครีม แนะนำให้เพิ่มปริมาณ Satin Cream Maker™ เป็นอย่างน้อย 2.0% หรือใช้ร่วมกับ Pro Polymer™ (เช่น อย่างละ 1%) เพื่อให้ได้อิมัลชันที่คงตัว ควรพิจารณาปรับลดปริมาณ Coenzyme Q10 และ MSH White™ ลงตามปริมาณสูงสุดที่แนะนำ เพื่อให้สูตรคงตัวและคุ้มค่ามากขึ้น และต้องแน่ใจว่าละลายส่วนผสมที่ละลายในน้ำมันด้วยความร้อนที่เหมาะสมก่อนนำไปรวมกับเฟสน้ำ
  • สามารถใช้ magnetic stirrer และ Overhead Stirrer ในการผสมได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการกวนด้วยความเร็วสูงเกินไปเมื่อเติมสารสร้างเนื้อหรืออิมัลซิไฟเออร์
  • Panthenol, Rice Vitamin และ L-Carnitine สามารถเพิ่มลงในสูตรสำหรับผิวธรรมดาที่ต้องการความชุ่มชื้นได้ โดยเติมในเฟสน้ำ และอาจต้องปรับปริมาณสารสร้างเนื้อ/อิมัลซิไฟเออร์เล็กน้อยค่ะ

ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)
เครื่องสำอาง
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)
เครื่องสำอาง
L-Carnitine (Carnitine)
L-Carnitine (Carnitine)
เครื่องสำอาง
Beta Glucan (Saccharomyces cerevisiae extract)
Beta Glucan (Saccharomyces cerevisiae extract)
เครื่องสำอาง
Pro Polymer™ (Gel Maker)
Pro Polymer™ (Gel Maker)
เครื่องสำอาง
Satin Cream Maker™
Satin Cream Maker™
เครื่องสำอาง
Zinc PCA
Zinc PCA
เครื่องสำอาง
Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)
Galactomyces Ferment Filtrate (aka Pitera)
เครื่องสำอาง
Rice Vitamin (Inositol, Vitamin B8)
Rice Vitamin (Inositol, Vitamin B8)
เครื่องสำอาง
MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)
MSH White™ (Undecylenoyl phenylalanine)
เครื่องสำอาง
Coenzyme Q10 (98%, Powder, Oil-Soluble)
Coenzyme Q10 (98%, Powder, Oil-Soluble)
เครื่องสำอาง
Rhamnose (น้ำตาลแรมโนส)
Rhamnose (น้ำตาลแรมโนส)
เครื่องสำอาง
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
Phenoxyethanol SA (eq. Optiphen Plus)
เครื่องสำอาง
PreB5™ (Pantolactone, Pantoyl Lactone)
PreB5™ (Pantolactone, Pantoyl Lactone)
เครื่องสำอาง
Max-B3™ (Myristyl Nicotinate, e.q. NIA-114)
Max-B3™ (Myristyl Nicotinate, e.q. NIA-114)
เครื่องสำอาง