การพัฒนาสูตรเจล/เซรั่มให้ความชุ่มชื้นสำหรับผิวแห้งมาก
คำถาม
ผมได้ซื้อส่วนผสมที่ละลายน้ำได้หลายตัวมาครับ และต้องการนำมาทำสูตรเจลหรือเซรั่มที่ให้ความชุ่มชื้นสำหรับผิวแห้งมากโดยเฉพาะ ผมมีส่วนผสมดังนี้ครับ:
- น้ำ
- Vitamin B5 (Panthenol) - 4%
- Urea - 4%
- Sodium PCA 50 - 5%
- Sodium Lactate - 4%
- Water Lock (Polyquaternium-51) - 2%
- Hyaluronic Acid (Standard Molecule) - 0.4%
- Allantoin - 0.3%
- Vitamin C (L-Ascorbic Acid) - 10%
- Disodium EDTA - 0.2%
- Phenoxyethanol - 0.5%
- Pro Polymer™ (Gel Maker)
- ว่านหางจระเข้สด (1 ส่วน)
- น้ำ (2 ส่วน ผสมกับว่านหางจระเข้สด)
- Sweet Pea (น้ำหอม)
ผมมีคำถามเกี่ยวกับสูตรนี้ครับ:
- ควรใส่ Pro Polymer™ (Gel Maker) กี่ % ถึงจะได้เนื้อเจลที่ไม่เหนียวและไม่เหลวเกินไปครับ?
- สูตรนี้ควรลดหรือควรเพิ่มอะไรเพื่อให้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป้าหมายคือผิวแห้งมากครับ?
- ควรผสมอะไรก่อนหลังครับ?
คำตอบ
ครับ เข้าใจว่าคุณได้ซื้อส่วนผสมชุดหนึ่งมาแล้วและต้องการสร้างสูตรสำหรับผิวแห้งมากโดยใช้ส่วนผสมเหล่านี้ และมีคำถามเกี่ยวกับปริมาณ Pro Polymer ที่จะใช้ การปรับปรุงสูตร และลำดับการผสม
จากส่วนผสมที่คุณมีและเป้าหมายในการดูแลผิวแห้งมาก มีความท้าทายที่สำคัญบางประการที่คุณต้องพิจารณา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการใช้ส่วนผสมทั้งหมดและอาจจะทำขายในอนาคต
นี่คือคำแนะนำโดยอิงจากการทำเจลสูตรน้ำโดยใช้ส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ที่คุณซื้อมา (โดยละเว้นว่านหางจระเข้สดและ Sweet Pea):
คำแนะนำการผสมสำหรับส่วนผสมของคุณ
สูตรนี้เน้นส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นที่ละลายน้ำได้ที่คุณมี โปรดทราบว่านี่จะเป็นเจล/เซรั่มที่ให้ความชุ่มชื้น และอาจต้องใช้ร่วมกับครีมหรือน้ำมันสำหรับผิวแห้งมาก เนื่องจากสูตรนี้ไม่มีส่วนผสมประเภท Emollient
รายการส่วนผสมที่ทำได้ (โดยใช้ส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ที่คุณซื้อมา):
- น้ำ (ปรับปริมาณเพื่อให้ครบ 100%)
- Vitamin B5 (Panthenol) - 4%
- Urea - 4%
- Sodium PCA 50 - 5%
- Sodium Lactate - 4%
- Water Lock (Polyquaternium-51) - 2%
- Hyaluronic Acid (Standard Molecule) - 0.4%
- Allantoin - 0.3%
- Vitamin C (L-Ascorbic Acid) - 10% (หมายเหตุ: ส่วนผสมนี้จะไม่เสถียร)
- Disodium EDTA - 0.2%
- Phenoxyethanol - 0.5%
Pro Polymer™ (Gel Maker) - ดูคำตอบข้อ 1 ด้านล่าง
(ละเว้นว่านหางจระเข้สดและ Sweet Pea)*
1. ควรใส่ Pro Polymer™ (Gel Maker) กี่ % ถึงจะได้เนื้อเจลที่ไม่เหนียวและไม่เหลวเกินไป?
Pro Polymer™ (ID 234) เป็นสารขึ้นเนื้อเจลประเภท acrylate crosspolymer ซึ่งมีความไวต่ออิเล็กโทรไลต์ (Electrolyte) และสูตรของคุณมีส่วนผสมหลายอย่างที่เป็นอิเล็กโทรไลต์ (Urea, Sodium PCA, Sodium Lactate, Vitamin C) ส่วนผสมเหล่านี้จะรบกวนประสิทธิภาพการขึ้นเนื้อเจลของ Pro Polymer
- ช่วงที่แนะนำ: สำหรับสูตรที่มีอิเล็กโทรไลต์สูงเช่นนี้ คุณอาจต้องใช้ Pro Polymer ในความเข้มข้น 1% ถึง 2% หรืออาจสูงกว่าเล็กน้อย
- การทดลองเป็นสิ่งสำคัญ: ปริมาณที่แน่นอนที่ต้องใช้จะขึ้นอยู่กับเกรดเฉพาะของส่วนผสมของคุณและปริมาณอิเล็กโทรไลต์ทั้งหมด คุณจะต้องทดลองโดยเริ่มจาก Pro Polymer 1% และค่อยๆ เพิ่มทีละน้อยพร้อมกับคน/ปั่น จนกว่าจะได้เนื้อเจลที่ต้องการ (ไม่เหลวหรือเหนียวเกินไป)
- ความท้าทายในการผสม: โปรดทราบว่าการทำให้เนื้อเจลเนียนเรียบในสูตรที่มีอิเล็กโทรไลต์สูงอาจเป็นเรื่องท้าทาย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผสมเข้ากันอย่างทั่วถึง
2. สูตรนี้ควรลดหรือควรเพิ่มอะไรเพื่อให้ดีที่สุด?
ใช่ การปรับปรุงสูตรเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัย ความเสถียร และผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผิวแห้งมาก:
- เอาว่านหางจระเข้สดออก: ดังที่กล่าวไปแล้ว ว่านหางจระเข้สดไม่เสถียรอย่างยิ่งและเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ ไม่ปลอดภัยสำหรับการใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากจะทำขาย ให้แทนที่ "ว่านหาง 1 ส่วน, น้ำ 2 ส่วน" ด้วยน้ำเปล่า 100% หรือใช้สารสกัดว่านหางจระเข้เกรดเครื่องสำอางที่มีสารกันเสียหากคุณหามาได้
- ละเว้น Sweet Pea: หาก Sweet Pea เป็นน้ำหอมหรือสารสกัดที่ละลายในน้ำมัน จะไม่สามารถผสมเข้ากับเนื้อเจลสูตรน้ำนี้ได้หากไม่มีอิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) ซึ่งคุณไม่มีในรายการส่วนผสม ให้ละเว้นส่วนผสมนี้ออกจากสูตร
- ความไม่เสถียรของ Vitamin C: สูตรของคุณมี Vitamin C (L-Ascorbic Acid) 10% Vitamin C รูปแบบนี้ไม่เสถียรอย่างยิ่งในน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ค่า pH ปกติของผิว จะเกิดการออกซิเดชั่นอย่างรวดเร็ว ทำให้สูญเสียประสิทธิภาพและอาจเปลี่ยนสี หากคุณต้องการประโยชน์จาก Vitamin C ที่เสถียรในระยะยาว ควรพิจารณาใช้ Vitamin C อนุพันธ์ที่เสถียร เช่น Sodium Ascorbyl Phosphate หรือ Magnesium Ascorbyl Phosphate ในอนาคต หรือทำสูตรที่ไม่มีน้ำ (anhydrous base) หากคุณใช้ L-Ascorbic Acid ที่มีอยู่ ให้ทำในปริมาณน้อยๆ และใช้ให้หมดโดยเร็ว เก็บในที่เย็นและมืด
- เพิ่ม Emollient: สำหรับผิวที่แห้ง มาก เจลสูตรน้ำที่มี Humectant เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ Emollient และ Occlusive (ส่วนผสมที่สร้างชั้นเคลือบบนผิวเพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำ) มีความสำคัญอย่างยิ่ง ส่วนผสมเช่น น้ำมันธรรมชาติ, บัตเตอร์, หรือซิลิโคน เมื่อใช้ร่วมกับอิมัลซิไฟเออร์เพื่อผสมเข้ากับส่วนของน้ำ จะช่วยสร้างเนื้อครีมหรือโลชั่นที่ให้ความชุ่มชื้นยาวนานขึ้นสำหรับผิวแห้งรุนแรง ส่วนผสมที่คุณมีในปัจจุบันยังขาดส่วนผสมเหล่านี้ สูตรนี้จะให้ความชุ่มชื้นแต่ก็อาจไม่สามารถเสริมเกราะป้องกันผิวที่จำเป็นสำหรับผิวแห้งมากได้อย่างเต็มที่
3. ควรผสมอะไรก่อนหลังครับ
สมมติว่าคุณกำลังทำเจลสูตรน้ำโดยใช้ส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ที่คุณซื้อมา (โดยละเว้นว่านหางจระเข้สดและ Sweet Pea):
การเตรียมส่วนของน้ำ (Water Phase):
- ตวงน้ำในปริมาณที่ต้องการ (ปริมาณที่เหลือเพื่อให้ครบ 100% หลังจากรวมส่วนผสมอื่นๆ ทั้งหมดแล้ว)
- เติม Disodium EDTA (0.2%) ลงในน้ำและคนจนละลาย
- เติมส่วนผสมที่เป็นผง: Urea (4%), Allantoin (0.3%), และ Vitamin C (10%) คนให้เข้ากันจนละลายหมด (หมายเหตุ: Vitamin C จะทำให้สารละลายเป็นกรด)
- เติมส่วนผสมที่เป็นของเหลวที่ละลายน้ำได้: Vitamin B5 (4%), Sodium PCA 50 (5%), Sodium Lactate (4%), และ Water Lock (2%) คนจนส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีและละลายหมด
การขึ้นเนื้อเจล:
- ค่อยๆ โรยผง Pro Polymer™ (เริ่มที่ 1%) ลงบนผิวหน้าของส่วนของน้ำพร้อมกับคน/ปั่นอย่างต่อเนื่อง
- คน/ปั่นเบาๆ แต่สม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการปั่นด้วยความเร็วสูงซึ่งอาจทำลายโครงสร้างโพลีเมอร์ คน/ปั่นต่อไปจนกว่า Pro Polymer จะดูดซับน้ำเต็มที่และได้เนื้อเจลตามความข้นที่ต้องการ ขั้นตอนนี้อาจมีความท้าทายเนื่องจากมีอิเล็กโทรไลต์สูง ซึ่งอาจทำให้การขึ้นเนื้อเจลช้าลงหรือไม่ข้นเท่าที่ควร
- (หากใช้เครื่องปั่น/คน): ปั่นน้ำด้วยความเร็วอย่างน้อย 1,000 รอบต่อนาที แล้วค่อยๆ โรยผง Pro Polymer ลงไปทีละน้อย ปั่นต่อเนื่องจนเข้ากันดี หากไม่มีเครื่องปั่น สามารถโรยผง Pro Polymer ลงในน้ำ คนเบาๆ ให้กระจายตัว แล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 วันเพื่อให้ผงดูดซับน้ำเต็มที่ก่อน แล้วจึงคนเบาๆ อีกครั้งเพื่อทำเป็นเนื้อเจล
การเติมส่วนผสมสุดท้าย:
- เติม Phenoxyethanol (0.5%) ลงในเนื้อเจลและผสมให้เข้ากันดีเพื่อให้แน่ใจว่ากระจายตัวอย่างสม่ำเสมอ
- (ทางเลือก แต่แนะนำ): ตรวจสอบและปรับค่า pH ของผลิตภัณฑ์สุดท้าย Vitamin C จะทำให้ค่า pH ต่ำลง สำหรับผลิตภัณฑ์ทาผิว ค่า pH ที่แนะนำโดยทั่วไปคือระหว่าง 4.0 ถึง 6.0 ปรับด้วยเบส (เช่น สารละลาย Sodium Hydroxide) ในปริมาณเล็กน้อยหากจำเป็น แต่โปรดทราบว่าการปรับ pH อาจส่งผลต่อความหนืดของเจลเนื่องจากมีอิเล็กโทรไลต์
กระบวนการนี้จะทำให้ได้เจลที่ให้ความชุ่มชื้นโดยใช้ส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ส่วนใหญ่ที่คุณซื้อมา โปรดจำข้อจำกัดเกี่ยวกับว่านหางจระเข้สด ความไม่เสถียรของ Vitamin C และการขาดส่วนผสมประเภท Emollient สำหรับผิวแห้งมาก.
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Allantoin

Hyaluronic Acid (Standard Molecule)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Fine)

Sodium Lactate (60% Liquid, Natural)

Urea (High Purity, Cosmetics, Powder)

Phenoxyethanol (Extra Pure)

Sodium PCA 50%

Disodium EDTA

Pro Polymer™ (Gel Maker)
