การพัฒนาสูตรเซรั่มยกกระชับลดริ้วรอย: เปรียบเทียบสูตรสำหรับผิวเป็นสิวแพ้ง่าย
คำถาม
กำลังพัฒนาสูตรเซรั่มสำหรับยกกระชับและลดริ้วรอย แต่มีปัญหาผิวมันบริเวณจมูก เป็นเซ็บเดิร์มบริเวณแก้ม และมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย เคยมีสิวขึ้นเมื่อลองใช้สูตรก่อนหน้านี้ ได้ลองทำสูตรขึ้นมา 2 สูตร โดยใช้เบส Double Hya tester อยากขอคำแนะนำและเปรียบเทียบว่าสูตรไหนเหมาะสมกับสภาพผิวและเป้าหมายของดิฉันมากกว่าค่ะ
สูตรที่ 1:
- เบส: Double Hya tester
- ส่วนผสมออกฤทธิ์:
- N acetyl D (Acetyl Glucosamine) 4%
- Vit B 3 (Niacinamide) 2%
- MOIST72 2%
- Licorice extract 1%
- Apple Stem cell (Apple Stem Cell Extract) 5%
- Tego pep 417 (น่าจะเป็น Palmitoyl Tetrapeptide-7) 5%
- Gotu Kola (Centella Asiatica Extract) 5%
- Allantoin (ปริมาณสูงสุดที่ใส่ได้)
- สารกันเสีย: phenoxyenthainol
สูตรที่ 2:
- เบส: Double Hya tester
- ส่วนผสมออกฤทธิ์:
- N acetyl D (Acetyl Glucosamine) 4%
- Vit B 3 (Niacinamide) 2%
- Licorice extract 1%
- Apple Stem cell (Apple Stem Cell Extract) 5%
- Tego pep 417 (น่าจะเป็น Palmitoyl Tetrapeptide-7) 5%
- coconut endosperm (น่าจะเป็นน้ำมะพร้าว) 5%
- สารกันเสีย: phenoxyenthainol
ขอคำแนะนำเกี่ยวกับความเหมาะสมของสูตรเหล่านี้สำหรับปัญหาผิวของดิฉัน (เป็นสิวง่าย, เซ็บเดิร์ม, ผิวแพ้ง่าย) และเปรียบเทียบประสิทธิภาพและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่าง Gotu Kola กับ Coconut Endosperm ในบริบทนี้ด้วยค่ะ ต้องการเน้นเรื่องยกกระชับและลดริ้วรอยด้วยค่ะ
คำตอบ
การวิเคราะห์สูตรยกกระชับและลดริ้วรอยของคุณ
ขอบคุณที่แบ่งปันสูตรและให้ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพผิวของคุณ ซึ่งรวมถึงผิวมันบริเวณจมูก เป็นเซ็บเดิร์มบริเวณแก้ม และมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย เป้าหมายในการทำสูตรเพื่อยกกระชับและลดริ้วรอยเป็นสิ่งที่ดี แต่ตามที่เจ้าหน้าที่ได้แนะนำ การจัดการปัญหาสิวและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวควรเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก เนื่องจากส่วนผสมบางชนิดที่ช่วยเรื่องลดริ้วรอยอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้
มาดูที่สูตรของคุณกันครับ:
สูตรที่ 1
- เบส: Double Hya tester
- ส่วนผสมออกฤทธิ์:
- N acetyl D (Acetyl Glucosamine) 4%: ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและปรับปรุงเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น ทำงานร่วมกับ Niacinamide ได้ดี
- Vit B 3 (Niacinamide) 2%: ดีเยี่ยมในการลดการอักเสบ ปรับปรุงเกราะป้องกันผิว ควบคุมความมัน และอาจช่วยเรื่องสิวได้ เจ้าหน้าที่แนะนำให้เพิ่มความเข้มข้นเป็น 4-5% หากไม่ได้ใช้บริเวณรอบดวงตา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผิวที่มันและมีแนวโน้มเป็นสิวของคุณ
- MOIST72 2%: สารให้ความชุ่มชื้นที่ช่วยเติมน้ำให้ผิว
- Licorice extract 1%: มีคุณสมบัติในการต้านการอักเสบและปลอบประโลมผิว ซึ่งมีประโยชน์สำหรับผิวแพ้ง่ายหรือระคายเคืองอย่างผิวของคุณ (เซ็บเดิร์ม)
- Apple Stem cell (Apple Stem Cell Extract) 5%: มีการทำการตลาดว่าช่วยเรื่องลดริ้วรอยและฟื้นฟูเซลล์ผิว
- Tego pep 417 (น่าจะเป็นเปปไทด์ เช่น Palmitoyl Tetrapeptide-7) 5%: เปปไทด์ถูกนำมาใช้เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว เพื่อเป้าหมายลดริ้วรอยและยกกระชับ
- Gotu Kola (Centella Asiatica Extract) 5%: มีคุณสมบัติช่วยสมานแผล ปลอบประโลม ลดการอักเสบ และอาจกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ ดีสำหรับการปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองและช่วยฟื้นฟูผิว
- Allantoin (ปริมาณสูงสุดที่ใส่ได้): Allantoin เป็นสารที่ช่วยปลอบประโลมและปรับสภาพผิว การใช้ในปริมาณสูงสุดที่แนะนำโดยทั่วไปปลอดภัยและมีประโยชน์ในการปลอบประโลมผิว
- สารกันเสีย: phenoxyenthainol (Phenoxyethanol)
สรุปสำหรับสูตรที่ 1: สูตรนี้มีส่วนผสมที่ดีที่เน้นทั้งความชุ่มชื้น การปลอบประโลม การต้านการอักเสบ และการลดริ้วรอย (เปปไทด์, สารสกัดสเต็มเซลล์) ความเข้มข้นดูสมเหตุสมผล เมื่อพิจารณาจากสภาพผิวของคุณ Niacinamide และ Licorice extract เป็นส่วนผสมที่ดีในการควบคุมความมันและปลอบประโลมการระคายเคือง Gotu Kola ก็ช่วยเสริมในด้านการปลอบประโลมและฟื้นฟูผิว
สูตรที่ 2
- เบส: Double Hya tester
- ส่วนผสมออกฤทธิ์:
- N acetyl D (Acetyl Glucosamine) 4%
- Vit B 3 (Niacinamide) 2%
- Licorice extract 1%
- Apple Stem cell (Apple Stem Cell Extract) 5%
- Tego pep 417 (น่าจะเป็นเปปไทด์ เช่น Palmitoyl Tetrapeptide-7) 5%
- coconut endosperm (น่าจะเป็นน้ำมะพร้าว) 5%: ส่วนผสมนี้ถูกนำมาใช้แทน Gotu Kola ในสูตรที่ 1
- สารกันเสีย: phenoxyenthainol (Phenoxyethanol)
สรุปสำหรับสูตรที่ 2: สูตรนี้คล้ายกับสูตรที่ 1 แต่เปลี่ยน Gotu Kola เป็น Coconut Endosperm (น้ำมะพร้าว) ส่วนผสมหลักที่ช่วยลดริ้วรอย (เปปไทด์, สารสกัดสเต็มเซลล์แอปเปิ้ล) ยังคงอยู่
Gotu Kola กับ Coconut Endosperm (น้ำมะพร้าว)
- Gotu Kola (Centella Asiatica Extract): ดังที่กล่าวไป มีคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมในการปลอบประโลม สมานแผล ลดการอักเสบ และสนับสนุนการสังเคราะห์คอลลาเจน เป็นที่ยอมรับอย่างดีสำหรับผิวแพ้ง่ายและผิวที่มีปัญหา ซึ่งสอดคล้องกับปัญหาเซ็บเดิร์มและสิวของคุณ
- Coconut Endosperm (น้ำมะพร้าว): น้ำมะพร้าวมีสารอาหาร น้ำตาล และกรดอะมิโนหลากหลายชนิด สามารถให้ความชุ่มชื้นและอาจมีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับ Gotu Kola แล้ว ยังมีหลักฐานน้อยกว่าในด้านการปลอบประโลมโดยตรง การต้านการอักเสบ หรือการกระตุ้นคอลลาเจนอย่างมีนัยสำคัญในการใช้ภายนอก แม้ว่า Sabinsa อาจมีเวอร์ชันที่ผ่านกระบวนการพิเศษที่มีการกล่าวอ้าง แต่น้ำมะพร้าวทั่วไปเน้นให้ความชุ่มชื้นเป็นหลัก เมื่อพิจารณาจากประวัติการเป็นสิวและผิวแพ้ง่ายของคุณ การนำส่วนผสมใหม่ๆ เช่น Coconut Endosperm มาใช้อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการระคายเคืองหรือไม่ให้ประโยชน์ในการปลอบประโลม/สมานแผลเท่ากับ Gotu Kola
ข้อควรพิจารณาสำหรับสภาพผิวของคุณ
ตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ การให้ความสำคัญกับการควบคุมสิวและเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวเป็นสิ่งสำคัญ สูตรทั้งสองมี Niacinamide และ Licorice extract ซึ่งเป็นประโยชน์ในด้านนี้ Allantoin ในสูตรที่ 1 ก็ช่วยปลอบประโลมผิวได้ดี
เปปไทด์ (Tego pep 417 / Palmitoyl Tetrapeptide-7 และ SNAP 8 / Acetyl Octapeptide-3 ที่เคยใช้ก่อนหน้านี้) และ Apple Stem Cell Extract มีเป้าหมายเพื่อยกกระชับและลดริ้วรอย แม้ว่านี่จะเป็นเป้าหมายของคุณ แต่การใช้สารออกฤทธิ์ที่เน้นลดริ้วรอยหลายชนิดพร้อมกันอาจทำให้ผิวแพ้ง่ายและมีแนวโน้มเป็นสิวของคุณรับไม่ไหว เป็นไปได้ว่าการเกิดสิวครั้งก่อนเกี่ยวข้องกับการผสมผสานของส่วนผสม หรืออาจเป็นแนวโน้มตามธรรมชาติของผิวคุณที่เกิดสิวง่าย ตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ
ข้อแนะนำ:
- ให้ความสำคัญกับสุขภาพผิว: พิจารณาปรับขั้นตอนการดูแลผิวให้เรียบง่ายลงในตอนแรก เพื่อเน้นการจัดการความมันและป้องกันการเกิดสิว ตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ ส่วนผสมอย่าง Niacinamide และ Acetyl Glucosamine เป็นส่วนผสมหลักที่ดีสำหรับเรื่องนี้
- สูตรที่ 1 กับ สูตรที่ 2: สูตรที่ 1 ซึ่งมี Gotu Kola ดูมีแนวโน้มที่จะเป็นประโยชน์ต่อสภาพผิวของคุณมากกว่า เนื่องจาก Gotu Kola มีคุณสมบัติที่ทราบกันดีว่าช่วยปลอบประโลมและสมานผิว ซึ่งสามารถช่วยเรื่องเซ็บเดิร์มและความแพ้ง่ายของผิวโดยทั่วไปได้ Coconut Endosperm (น้ำมะพร้าว) แม้จะให้ความชุ่มชื้น แต่อาจไม่ให้ประโยชน์ในการปลอบประโลมในระดับเดียวกัน และคุณเคยมีปัญหาเมื่อใช้สูตรที่มีส่วนผสมนี้
- ความเข้มข้น: ความเข้มข้นของส่วนผสมออกฤทธิ์ที่คุณใช้โดยทั่วไปอยู่ในช่วงที่แนะนำ การเพิ่ม Niacinamide เป็น 4-5% อาจเป็นประโยชน์ในการควบคุมความมันและสนับสนุนเกราะป้องกันผิว ตามคำแนะนำ
- ค่อยๆ เพิ่มสารออกฤทธิ์: หากคุณตัดสินใจใช้สูตรที่ซับซ้อน ควรพิจารณาเพิ่มส่วนผสมออกฤทธิ์ใหม่ทีละชนิด เพื่อระบุส่วนผสมที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ นี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากประวัติผิวของคุณ
- Allantoin: การใช้ Allantoin ในปริมาณสูงสุดที่ละลายได้ในสูตรที่ 1 เป็นสิ่งที่ดีและให้ประโยชน์ในการปลอบประโลมที่ดี
โดยสรุป สูตรที่ 1 ดูเหมาะสมกับปัญหาผิวของคุณมากกว่าเล็กน้อยเนื่องจากมี Gotu Kola อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดคือการจัดการกับปัญหาสิวและความแพ้ง่ายของผิวที่เป็นอยู่ก่อน โดยอาจเริ่มจากขั้นตอนการดูแลผิวที่เรียบง่ายขึ้น เน้นการซ่อมแซมเกราะป้องกันผิวและการควบคุมความมัน ก่อนที่จะเพิ่มส่วนผสมออกฤทธิ์ที่เน้นลดริ้วรอยหลายชนิดเข้าไปครับ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

Safe-B3™ (Vitamin B3, Niacinamide)

Allantoin

GlucoBright™ (Acetyl Glucosamine)

Phenoxyethanol (Extra Pure)

MOIST72™

Apple Stem Cell Extract (AppleCell™ Powder)

Acetyl Octapeptide-3 (eq. SNAP-8)
