การพัฒนาสูตรเซรั่มรวมสารออกฤทธิ์หลายชนิด: ความเข้ากันได้ เนื้อสัมผัส และความเสถียร
คำถาม
อยากผสมเซรั่มวิตามินซี+สาร Antioxidant โดยมีส่วนผสมดังนี้: L ascorbic acid 15%, Superoxide Dismutase 3%, Yerba santa protein 3%, Ectoin 2%, Ethoxydiglycol 2%, Protec SQ 2%, Silk Lotion Maker 2%, Polysorbate 80 1%, Centella Asiatica 1%, Adenosine Liposome 3%, Orange Peel Extract 1%, Pure-Phloretin 1%, Resveratrol 1%, EGCG 1%, Licochalcone A 1% 1%, d alpha Tocopherol 1%, Bakuchiol 1%, Ferulic Acid 1%, Carnosine 1%, Mild Preserve Eco 1%, Idebenone 0.5%, Panthenol 1%, Fullerene C60 0.5%, Alpha Lipoic Acid 0.3%, Quercetin 0.5%, Genistein 0.2%, WhiteCumin 0.2%, Disodium EDTA 0.2%, Hyaluronic Acid small 0.1%, Hyaluronic Acid Standard 0.1%, Protec UV 0.1% คำถามคือ 1. ส่วนผสมสามารถผสมได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้รบกวนช่วยปรับให้หน่อยค่ะ 2. ถ้าอยากให้สูตรเหลวใส่ขวดดรอปเปอร์ได้ ใช้ตัวประสานเป็น Light Lotion Maker + Polysorbate 80 หรือ Silk Lotion Maker + Polysorbate 80 ดีคะ 3. ถ้าอยากเนื้อสัมผัสดีสามารถเพิ่ม Dimethicone 1 sec ได้รึเปล่าคะ 4. อยากใส่ขวดใสค่ะ สารปกป้องส่วนผสมเลือกใช้ Protec SQ 2% และ Protec UV 0.1% เหมาะสมรึเปล่าคะ
คำตอบ
การวิเคราะห์สูตรเซรั่ม
คุณได้เสนอสูตรเซรั่มที่อัดแน่นไปด้วยส่วนผสมออกฤทธิ์และสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก แม้ว่าการรวมสารออกฤทธิ์จำนวนมากขนาดนี้จะเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่เราจะมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้และตอบคำถามเฉพาะของคุณค่ะ
1. ส่วนผสมสามารถผสมได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้รบกวนช่วยปรับให้หน่อยค่ะ
การผสมสูตรนี้ ทำได้ในทางเทคนิค แต่มีความท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความเสถียรและความเข้ากันได้ เนื่องจากส่วนผสมมีจำนวนมากและมีความหลากหลาย ทั้งนี้:
- ความซับซ้อน: สูตรประกอบด้วยส่วนผสมที่ละลายน้ำได้ ละลายน้ำมันได้ และกระจายตัวได้ ซึ่งต้องใช้ระบบอิมัลซิไฟเออร์ที่แข็งแรงและขั้นตอนการผสมที่ระมัดระวัง
- ข้อกำหนดด้าน pH: L-Ascorbic Acid ต้องการ pH ต่ำ (โดยทั่วไป 3.5-4.0 สำหรับความเข้มข้น 15%) เพื่อความเสถียรและประสิทธิภาพ ส่วนผสมอื่นๆ อีกหลายชนิดมีช่วง pH ที่เหมาะสมซึ่งทับซ้อนกับช่วง pH ที่เป็นกรดนี้ (เช่น Centella Asiatica, Adenosine Liposome, Orange Peel Extract, Carnosine, Panthenol, Licochalcone A, Ectoin, Bakuchiol, Quercetin, Disodium EDTA) อย่างไรก็ตาม การรักษาความเสถียรและประสิทธิภาพของส่วนผสม ทั้งหมด พร้อมกันที่ pH ต่ำนี้เป็นเรื่องยากและต้องมีการทดสอบอย่างเข้มงวด
- ความเสถียรของสารออกฤทธิ์: ส่วนผสมหลายชนิดมีความไวต่อแสง ความร้อน และการเกิดออกซิเดชันสูง รวมถึง L-Ascorbic Acid, Resveratrol, Bakuchiol, Fullerene C60, Quercetin และ WhiteCumin แม้ว่าคุณจะใส่ Protec SQ และ Protec UV เข้าไปด้วย แต่ L-Ascorbic Acid ที่มีความเข้มข้นสูงก็มีแนวโน้มที่จะเกิดออกซิเดชันในสูตรที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ และสารออกฤทธิ์อื่นๆ ที่ไวต่อแสง เช่น Fullerene C60 และ Quercetin แนะนำอย่างยิ่งให้ใช้บรรจุภัณฑ์ทึบแสง
- ความเหมาะสมของส่วนผสม: ข้อมูลผลิตภัณฑ์สำหรับ Genistein ระบุว่าใช้สำหรับการวิจัยด้านอาหาร/ยาเท่านั้น และ อย. ไทยไม่อนุญาตให้ใช้ในผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ดังนั้น การใช้ในเครื่องสำอางจึงเป็นที่น่าสงสัยและควรหลีกเลี่ยง
การปรับปรุง: เนื่องจากความซับซ้อนและปัญหาความเสถียรที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ L-Ascorbic Acid 15% และการรวม Genistein จึงแนะนำอย่างยิ่งให้ลดความซับซ้อนของสูตร หรือทำการทดสอบความเสถียรอย่างละเอียด อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการใช้ส่วนผสมตามรายการนี้ (ยกเว้น Genistein) คุณต้องให้ความสำคัญกับการควบคุม pH อุณหภูมิในการผสม (หลีกเลี่ยงความร้อนสำหรับส่วนผสมที่ไวต่อความร้อน) และการรวมส่วนประกอบที่ละลายน้ำมันโดยใช้ระบบอิมัลซิไฟเออร์ที่คุณเลือก
- นำ Genistein ออก: ตามข้อมูลผลิตภัณฑ์ ให้นำ Genistein 0.2% ออกจากสูตร
ส่วนผสมที่เหลือสามารถนำมาผสมกันได้ในทางทฤษฎี แต่การได้ผลิตภัณฑ์ที่เสถียร มีประสิทธิภาพ และมีเนื้อสัมผัสที่ดี ต้องอาศัยเทคนิคการผสมที่ระมัดระวังและการทดสอบความเสถียรอย่างละเอียด
2. ถ้าอยากให้สูตรเหลวใส่ขวดดรอปเปอร์ได้ ใช้ตัวประสานเป็น Light Lotion Maker + Polysorbate 80 หรือ Silk Lotion Maker + Polysorbate 80 ดีคะ
สำหรับสูตรเหลวที่เหมาะสำหรับขวดดรอปเปอร์ Silk Lotion Maker + Polysorbate 80 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ข้อมูลของ Silk Lotion Maker ระบุโดยเฉพาะว่าเหมาะสำหรับสูตรสเปรย์หรือสูตรที่ต้องการความหนืดต่ำเมื่อใช้ร่วมกับ Polysorbate 80 การผสมผสานนี้ออกแบบมาเพื่อให้ได้เนื้อสัมผัสที่บางเบากว่าโลชั่นหรือครีมทั่วไป
3. ถ้าอยากเนื้อสัมผัสดีสามารถเพิ่ม Dimethicone 1 sec ได้รึเปล่าคะ
ได้ค่ะ การเพิ่ม Dimethicone 1Secs สามารถช่วยปรับปรุงเนื้อสัมผัสของเซรั่มได้ ทำให้รู้สึกเรียบเนียน ไม่เหนอะหนะ และลื่นขึ้นเมื่อทา เนื่องจากมีอัตราการระเหยที่รวดเร็ว สามารถละลายได้ในซิลิโคนและน้ำมันบางชนิด และสามารถรวมเข้ากับส่วนของน้ำมันหรืออิมัลซิไฟเออร์ในสูตรได้
4. อยากใส่ขวดใสค่ะ สารปกป้องส่วนผสมเลือกใช้ Protec SQ 2% และ Protec UV 0.1% เหมาะสมรึเปล่าคะ
แม้ว่า Protec SQ และ Protec UV จะเป็นสารเพิ่มความเสถียรที่ดีเยี่ยมที่ช่วยปกป้องส่วนผสมจากแสง UV และการเกิดออกซิเดชัน แต่ อาจไม่เพียงพอ ที่จะรับประกันความเสถียรของสูตรนี้ใน ขวดใส ส่วนผสมหลักหลายชนิดในสูตรของคุณ รวมถึง Fullerene C60, Quercetin และ Resveratrol มีข้อควรระวังที่ระบุว่ามีความไวต่อแสงสูง และแนะนำอย่างยิ่งให้ใช้บรรจุภัณฑ์ทึบแสงเพื่อความเสถียรในระยะยาว การใช้ขวดใส แม้จะมีสารเพิ่มความเสถียรเหล่านี้ ก็เพิ่มความเสี่ยงที่สารออกฤทธิ์ที่มีคุณค่าเหล่านี้จะเสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งจะลดประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนสีได้ ขอแนะนำอย่างยิ่งให้ใช้ขวดทึบแสงสำหรับสูตรนี้ค่ะ
สรุปข้อควรพิจารณาในการผสม:
- pH: ปรับและรักษา pH ในช่วงที่เป็นกรดอย่างระมัดระวัง (โดยทั่วไป 3.5-4.0) เพื่อความเสถียรของ L-Ascorbic Acid โปรดทราบว่า pH นี้อาจอยู่นอกช่วงที่เหมาะสมสำหรับส่วนผสมอื่นๆ บางชนิด ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพเมื่อเวลาผ่านไป
- การผสม: ผสมส่วนผสมตามความสามารถในการละลายและความไวต่ออุณหภูมิ ส่วนผสมที่ละลายน้ำมันได้ (Protec SQ, Silk Lotion Maker, Polysorbate 80, Vitamin E, Bakuchiol, Idebenone, WhiteCumin, ALA, Resveratrol - ต้องการตัวทำละลาย) ควรนำมารวมกับระบบอิมัลซิไฟเออร์ ส่วนผสมที่ละลายน้ำได้/กระจายตัวได้ (L-Ascorbic Acid, SOD, Yerba Santa Protein, Ectoin, Ethoxydiglycol, Centella Asiatica, Adenosine Liposome, Orange Peel Extract, Licochalcone A, Carnosine, Panthenol, Fullerene C60, Quercetin, Disodium EDTA, Hyaluronic Acids) ในส่วนของน้ำ หลีกเลี่ยงความร้อนสูงสำหรับสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อความร้อน
- ความเสถียร: เนื่องจากการมีสารออกฤทธิ์ที่ไวต่อแสงจำนวนมาก การทดสอบความเสถียรจึงเป็นสิ่งสำคัญ การใช้บรรจุภัณฑ์ทึบแสงแนะนำอย่างยิ่งเพื่อปกป้องส่วนผสมที่ไวต่อแสง
- Genistein: นำ Genistein ออกจากสูตร
การคิดค้นสูตรเซรั่มที่มีสารออกฤทธิ์จำนวนมากขนาดนี้ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญและการดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อให้มั่นใจในความเสถียร ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องที่กล่าวถึง

Licorice Extract (Licochalcone A 1%, Water-Soluble)

Hyaluronic Acid (Standard Molecule)

Hyaluronic Acid (Small Molecule)

Panthenol (Vitamin B5, DL-Panthenol, Powder)

Pure-Ferulic Acid™

Vitamin C (L-ascorbic acid) (Ultra-Fine)

Vitamin E (dl-alpha tocopherol)

Ethoxydiglycol (e.q. Transcutol)

Polysorbate 80 (Tween 80)

Disodium EDTA

Alpha Lipoic Acid (ALA) (Powder)

Orange Peel Extract (Hesperidin Methyl Chalcone 98%)

Trans-Resveratrol (Powder, 98%)

Centella Asiatica Extract (Madecassoside 90%)

Soy Extract (Genistein 98%) สารสกัดจากถั่วเหลือง

Pure-Phloretin™

Mild Preserved Eco™ (Preservative-Free)

Adenosine Liposome
